ดร.อนันต์ เผย วัคซีนโมเดอร์นารุ่น 2 สามารถยับยั้งไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม เบต้า เดลต้า และ โอมิครอนได้ดีกว่ารูปแบบแรก ภูมิคุ้มกันดูเหมือนจะตกช้าลงกว่าแบบแรกด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้
“ก่อนหน้าโอมิครอนระบาด Moderna ได้พัฒนาวัคซีนรุ่น 2 เอาไว้ โดยออกแบบให้เป็นวัคซีนที่เป็น Bivalent คือ มี mRNA ที่สร้างโปรตีนหนามสไปค์ของสายพันธุ์ดั้งเดิม ผสมกับกับ mRNA ของสไปค์สายพันธุ์เบต้า โดยผสมกันอย่างละครึ่ง เรียกวัคซีนรุ่นใหม่นี้ว่า mRNA-1273.211 ซึ่งแตกต่างจากรุ่น 1 ที่ใช้กันอยู่ตอนนี้( mRNA-1273) ทีมวิจัยของ Moderna ได้เริ่มทำการทดสอบในอาสาสมัครไปถึงเฟส 2 แล้ว แต่มีการระบาดของโอมิครอนเกิดขึ้นเสียก่อน จึงทำให้แผนของการใช้วัคซีนสูตรนี้อาจจะต้องเปลี่ยนไปเป็นวัคซีนที่จำเพาะต่อโอมิครอนมากกว่า
ผลงานวิจัยที่ทำการทดสอบ mRNA-1273.211 เป็นเข็มกระตุ้นที่ 3 ในอาสาสมัครออกมาแล้วดูเหมือนว่า วัคซีนรุ่นนี้จะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าวัคซีนรุ่นแรกครับ โดย ภูมิจากซีรั่มของอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนรุ่น 2 นี้ สามารถยับยั้งไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม เบต้า เดลต้า และ โอมิครอนได้ดีกว่ารูปแบบแรก ภูมิคุ้มกันดูเหมือนจะตกช้าลงกว่าแบบแรกด้วยเช่นกัน โดยวัดที่ 6 เดือน (181 วัน) หลังเข็มกระตุ้น ภูมิต่อโอมิครอนจากวัคซีนรุ่น 2 ยังมีสูงกว่าการกระตุ้นด้วยวัคซีนรุ่นแรกประมาณ 2.15 เท่า (317 เทียบกับ 146) วัคซีนสูตรนี้ดูมีแนวโน้มที่ดี และ น่าจะเป็นวัคซีนรุ่นใหม่แทนตัวเดิมที่ใช้อยู่ได้
Moderna กำลังทำการทดสอบ Bivalent vaccine ที่ผสมวัคซีนสูตรแรกกับ mRNA ของโอมิครอน (mRNA_1273.214) ในเฟส 2 เช่นกัน ซึ่งผลการทดลองคงจะออกมาเปรียบเทียบได้ดีขึ้นในเวลาอีกไม่นานนี้
https://assets.researchsquare.com/…/v1_covered.pdf…”