สมาคมภัตตาคารไทย วอน รัฐบาล ออกโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เพื่อพยุงกำลังซื้อ ช่วยเหลือค่าของชีพประชาชน และช่วยผู้ประกอบการร้านค้า
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกันจำนวนมาก โดยเฉพาะร้านอาหารราคาระดับกลาง ที่เรียกว่าขายดีเหมือนก่อนมีโควิดระบาดกันเลยทีเดียว ขณะที่ร้านอาหารพรีเมี่ยม มียอดขายก้าวกระโดด เช่น บุฟเฟ่ราคาหัวละ 1,000 ถึง 3,000 บาท ไปจนถึงร้านระดับไฮเอนด์ ที่ใช้จ่ายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อมื้อ
แต่หลังผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์มาได้เพียง 3 วัน พบว่า บรรยากาศกลับมาเงียบลงถนัดตา แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะยังไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะประชาชนใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปมาก ประกอบกับเงินในโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ใช้หมดไปแล้ว ทำให้กระเป๋าแฟบ ต้องประหยัด ซึ่งคาดว่าจะซบเซาไปอีกระยะหนึ่ง
พร้อมกับได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลเร่งออกโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เพื่อพยุงกำลังซื้อ ช่วยเหลือค่าของชีพประชาชน และช่วยผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งข้อมูลขิองกระทรวงการคลัง ระบุชัดเจนว่า คนละครึ่ง เฟส 4 มียอดใช้จ่ายผ่านร้านอาหารสูงที่สุด ถึง 23,300 ล้านบาท ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ ส่งผลดีต่อเนื่องไปยังเกษตรกร ผู้ปลูกวัตถุดิบ ร้านอาหารสามารถคงการจ้างงานไว้ได้ ภาครับเองก็เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นด้วย