วิโรจน์ เผย ตอนนี้การจับรถบรรทุกได้เปลี่ยนรูปแบบ จากสติกเกอร์กลายเป็นการดักจับรถที่น้ำหนักเกินเล็กๆ น้อยๆ 50-200 กก.ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ทวิตเตอร์ (X) Wiroj77ระบุว่า การกวดขันจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน คงต้องเข้าไปดูรายละเอียด จะดูแค่จำนวนการจับกุมไม่ได้หลายพื้นที่ จับรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินแบบไม่เจตนา เกินแค่ 100-200 กก. จับเอามาขู่ว่าจะริบรถ แล้วรีดไถเจ้าของรถ ส่วนคันที่เกิน 20-30 ตัน ถ้าจ่ายส่วย ก็แค่โชว์หลักฐานการโอน แล้วก็ขับผ่านฉลุย
“ตอนนี้การจับรถบรรทุกได้เปลี่ยนรูปแบบ จากสติกเกอร์กลายเป็นการดักจับรถที่น้ำหนักเกินเล็กๆ น้อยๆ 50-200 กก.ไปแล้ว มักจะจับรถขนดิน ขนทราย ตอนฝนตก เพราะน้ำหนักจะเกินจากการอุ้มน้ำ จับโดยไม่สนข้อมูลการชั่งน้ำหนักต้นทาง จับเสร็จก็รีดไถ ขู่ว่าจะริบรถ ถ้ายอมจ่ายก็จะปรับสำนวนให้อ่อนลง”
นายวิโรจน์ เผยว่า ตอนนี้กำลังติดตามสำนวนคดีรถบรรทุกกรณีหนึ่ง ที่ไทรน้อย นนทบุรี เพราะจากข้อมูลที่ได้รับน้ำหนักเกินเพียง 100 กก.มีข้อมูลการชั่งน้ำหนักต้นทาง จากตราชั่งมาตรฐาน ยืนยันว่าไม่เกิน แต่น่าจะเกินจากการอุ้มน้ำฝนระหว่างทาง ต้องติดตามว่า การดำเนินคดี และการริบรถนั้นเป็นธรรมหรือไม่ รถบรรทุกน้ำหนัก เกินเพียง 50-200 กก. เกินก็คือเกิน เข้าใจได้ แต่น้ำหนักที่เกินเล็กน้อย ชี้ได้ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะเกิน ยิ่งถ้ามีข้อมูลการชั่งต้นทางมายืนยัน ก็ต้องรับฟัง น้ำหนักที่เกินอาจจะมาจากการอุ้มน้ำฝนระหว่างทางก็ได้ การลงโทษก็ควรต้องสมเหตุสมผล ได้สัดส่วน ไม่น่าจะถึงกับริบรถรถบรรทุกที่เต็มใจเข้าด่านชั่ง
แต่ นน. เกิน 50-200 กก. เขาไม่ได้รวยจาก นน. ที่เกินเพียงแค่นี้หรอกครับ อาจจะผิดพลาด ตราชั่งไม่เที่ยง หรืออุ้มน้ำฝน ก็ควรลงโทษตามสัดส่วน รถที่จงใจบรรทุกเกิน จะเกินเป็น 10-30 ตัน ตัวรถมีการดัดแปลงชัดเจน จงใจหลบเลี่ยงการเข้าด่านชั่ง เจตนามันชัดครับ
#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
