Connect with us

News

ทุนจีนเทารุกหนักภาคตะวันออก รัฐบาลทำอะไรอยู่? จ้างคนจีนทำงาน ตั้งอพาร์ทเมนต์ปล่อยเช่ากันเอง

Published

on

พรรคประชาชน แฉ! โรงงานจีนเข้ามาตั้ง จ้างคนงานจีนมาทำงานในอาชีพสงวนสำหรับคนไทย ตั้งร้านค้า ตั้งอพาร์ทเมนต์ปล่อยเช่ากันเอง

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พรรคประชาชน โพสต์ระบุว่า… ทุนจีนเทารุกหนักภาคตะวันออก รัฐบาลทำอะไรอยู่?

ปัญหาทุนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจแบบผิดกฎหมายในประเทศไทย หรือ “ทุนจีนเทา” หนึ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาหนักสุดคือภาคตะวันออก

โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีอุตสาหกรรม ปัจจุบันเต็มไปด้วยโรงงานจีนเข้ามาตั้ง จ้างคนงานจีนมาทำงานในอาชีพสงวนสำหรับคนไทย ตั้งร้านค้า ตั้งอพาร์ทเมนต์ปล่อยเช่ากันเอง เรียกว่าทำธุรกิจแบบศูนย์เหรียญ เงินไม่ตกถึงคนไทยสักบาทเดียว

กฤช ศิลปชัย – Krit Silapachai สส.ระยอง (เขตเมืองระยอง) พรรคประชาชน คือคนหนึ่งที่ติดตามเรื่องนี้ เมื่อไม่นานมานี้ได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานรัฐในจังหวัดระยองและชลบุรี ตรวจพบการทำธุรกิจผิดกฎหมายโดยกลุ่มทุนจีนจำนวนมากทั้งใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง และ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นำไปสู่การจับกุมกลุ่มชาวจีนและชาวเมียนมาที่เกี่ยวข้อง

พฤติการณ์คือการรับติดตั้งแอร์และซ่อมแอร์ให้กับโรงงานจีนในพื้นที่ ใช้วีซ่าท่องเที่ยวมาลักลอบทำงานในเมืองไทย โดยชาวจีนมีสถานะเป็นนายจ้าง และใช้ลูกจ้างเมียนมาที่เข้าเมืองผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาตทำงานมาทำงาน โดยทั้งหมดถูกจับกุมและส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.บ่อวิน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา สส.กฤช ลงพื้นที่อีกครั้ง พบว่านายจ้างคนจีนได้กลับมาทำงานอยู่ในพื้นที่เหมือนเดิม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหตุผลว่าเพราะต้องตรวจสอบประวัติก่อนส่งตัวขึ้นศาล จึงอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว ทั้งที่คดีลักษณะนี้หากมีความผิด 2 ข้อหาขึ้นไปต้องส่งศาลเท่านั้น ไม่สามารถลงโทษแค่ปรับและไม่สมควรให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนเพราะเสี่ยงจะหลบหนีหรือมีการกระทำความผิดซ้ำ อีกทั้งวีซ่าก็กำลังจะหมดอายุในอีกแค่ 3 วันข้างหน้า

[ จีนทำ จีนใช้ จีนเจริญ (บนแผ่นดินไทย) ]

จากการทำงานอย่างต่อเนื่องของ สส.พรรคประชาชนในหลายพื้นที่ภาคตะวันออก ยังพบว่าทุนจีนเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาแค่ลักลอบทำอาชีพสงวนสำหรับคนไทย ในส่วนของผู้ประกอบการจีนเองก็สร้างปัญหา ไม่ว่าจะเป็น การไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานของไทย ทั้งหักเงิน ไม่มีเวลาพัก ทำโอทีจ่ายไม่ครบ ใช้อารมณ์และความรุนแรงต่อแรงงานไทย ใครต่อต้านร้องเรียนก็จะถูกบีบให้ออกโดยไม่มีการจ่ายชดเชยตามที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนด

เช่นกรณีหนึ่งใน จ.ระยอง เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีพนักงานชาวไทยถูกเลิกจ้างกะทันหันจากโรงงานผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในระยอง โดยโรงงานไม่จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย สส.พรรคประชาชน ได้เข้าพื้นที่กับหน่วยงานรัฐและทำการช่วยเหลือจนแรงงานได้รับการจ่ายเงินการบอกเลิกจ้างตามที่กฎหมายกำหนด

ยังมีปัญหาทุนจีนลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งจากเอเชียและจากยุโรปเข้ามาแปรรูป สกัดทองแดงและโลหะมีค่าส่งกลับไปขายยังประเทศจีน ทิ้งมลพิษและกากอุตสาหกรรมลงสู่ธรรมชาติ ความน่ากังวลคือโรงหลอมและโรงงานคัดแยกขยะรีไซเคิลเหล่านี้กำลังกระจายตัวไปทั่วภาคตะวันออกของไทย โดยที่กฎหมายเปิดช่องให้ตั้งโรงงานลักษณะนี้ในเขตชุมชนได้

[ ผุดอีก! โกดังจีนลักลอบประกอบกิจการ เสียงดัง-กลิ่นเหม็น ]

กรณีล่าสุดใน จ.ระยอง ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ – Chutiphong Pipoppinyo สส.ระยอง (วังจันทร์ บ้านค่าย ปลวกแดง) พรรคประชาชน ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มโกดังใน ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง ส่งเสียงดังและกลิ่นเหม็น ชุติพงศ์จึงประสานทีมของกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าตรวจสอบทันทีเมื่อ (15 พ.ค.)

เมื่อไปถึงปรากฏข้อเท็จจริงว่ากลุ่มโกดังนี้มีเจ้าของรายเดียว เป็นชาวจีนที่มีบัตรประชาชนไทย พฤติกรรมของบริษัทเจ้าของโกดังคือการซื้อที่ดิน สร้างโกดัง และให้ชาวจีนมาเช่าเปิดโรงงาน บริษัทอำนวยความสะดวกโดยการขอใบอนุญาต รง. 4 ไว้ก่อน แล้วโอนใบอนุญาตฯ ให้โรงงานสัญชาติจีนในภายหลัง ซึ่งแม้ตามกฎหมายสามารถทำได้ แต่ปัญหาที่ตามมาคือเกิดช่องโหว่มหาศาลในการกำกับดูแลของรัฐ

เช่น โกดังหนึ่งมีใบอนุญาต แต่ยังไม่ได้แจ้งประกอบกิจการ เท่ากับเป็นการลักลอบประกอบกิจการ อีกแห่งแจ้งประกอบกิจการ แต่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพโรงงาน ไม่ตรงตามที่ขออนุญาต โกดังเหล่านี้อาศัยประเทศไทยเป็นโรงงานผลิตสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ประทับตรา Made in Thailand ส่งออกต่างประเทศ สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์สินค้าไทย

อีกเรื่องที่น่ากังวลคือท่อน้ำทิ้งจากโรงงานที่ทอดยาวไปถึงที่ดินรอบข้างของประชาชน แม้โรงงานอ้างว่าเป็นท่อน้ำฝน แต่เป็นไปได้ยากที่เมื่อฝนตกแล้วจะมีแต่น้ำฝนไหลลงท่อ ในเมื่อรอบโรงงานมีสารเคมีและเครื่องจักรเต็มไปหมด

หลังจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินคดีกับทุกโรงงานที่กระทำผิดกฎหมาย รวมถึง อบต.ตาสิทธิ์ ได้กำชับให้เจ้าของโกดังจัดการท่อน้ำทิ้งให้เรียบร้อยภายใน 2 วัน อย่างไรก็ดี อีกเรื่องที่น่าสงสัยคือการตั้งโรงงานในพื้นที่ที่ไม่สามารถตั้งได้ตามผังการใช้ประโยชน์ที่ดินของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งชุติพงศ์กำลังเร่งติดตามข้อมูลส่วนนี้

[ คนไทยได้อะไร? ]

จนถึงวันนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีแบรนด์จีน 20 แบรนด์เป็นอย่างน้อย ที่เข้ามาตั้งโรงงานในไทยโดยมีการสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ใหม่ การเข้ามาของทุนจีนเหล่านี้ไม่ก่อประโยชน์อะไรต่อเศรษฐกิจไทยและคนไทย สิ่งที่พวกเขากำลังทำคือการสร้างโมเดล “จีนอุดหนุนจีน 100%” สร้างข้อได้เปรียบด้านราคา ทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลงกว่าเดิม

ทั้งหมดนี้คือการทำลายอุตสาหกรรมของคนไทย ชุมชนคนไทย สิ่งแวดล้อมของไทย และเศรษฐกิจของไทยและภาคตะวันออก

[ ปัญหาเกิดจากนโยบายรัฐ ต้องแก้ที่นโยบายรัฐ ]

การดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเป็นทางออกเฉพาะหน้าที่รัฐต้องทำแน่นอน แต่ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ในระยะยาวไม่สามารถทำให้กลุ่มทุนจีนเหล่านี้หายไปหรือเลิกทำผิดกฎหมายได้ เพราะระบบที่ประเทศไทยใช้อยู่ในปัจจุบันซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหายังไม่ถูกแก้ไข และจะทำให้ปัญหาใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ด้านหนึ่งที่ทุนจีนทำเช่นนี้ได้ เป็นผลมาจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาลที่เปิดช่องให้ชาวจีนเข้ามาโดยง่าย เมื่อวีซ่าหมดอายุก็จะเดินทางออกไปและกลับเข้ามาใหม่ ไม่ได้ตรวจสอบติดตามว่าคนเหล่านี้เข้ามาทำอะไร สร้างประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของประเทศจริงหรือไม่

อีกด้านหนึ่งคือการที่ทุนต่างชาติได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีมากมายจากรัฐบาลไทย ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนผ่านกฎหมายอีอีซี งดเว้นภาษีนิติบุคคล และถ้าเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษก็สามารถนำผู้บริหารหรือผู้เชี่ยวชาญเข้ามาได้อีก อีกทั้งยังงดเว้นภาษีเงินได้ส่วนบุคคล งดเว้นภาษีเครื่องจักร และมีพื้นที่งดเว้นภาษีนำเข้าส่งออกอีกด้วย

ยังไม่นับว่ากลุ่มทุนเหล่านี้มีผู้หลักผู้ใหญ่คนมีสีในประเทศไทยคอยอยู่เบื้องหลัง ประสานงานและอำนวยความสะดวกให้ ทั้งในการหลบเลี่ยงความผิดและเคลียร์ช่องทางต่างๆ ทำให้หน่วยงานกำกับไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเต็มที่

[ เลวร้ายกว่าจีนเทา คือรัฐบาลที่เพิกเฉย ]

การลงทุนที่เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เราย่อมยินดีตอบรับและสนับสนุน แต่การเข้ามาทำธุรกิจแบบศูนย์เหรียญ ตั้งแต่นำเข้า แปรรูปวัตถุดิบ ผลิตสินค้า ไปจนถึงรีไซเคิลขยะ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านตัดผม หอพัก คอนโดของจีนเอง ไม่มีเงินสักบาทกระเด็นถึงคนไทยในพื้นที่ แถมยังทำผิดกฎหมายไทยนานัปการ ไม่สมควรยอมรับได้ และการปล่อยให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นโดยไม่จัดการอะไร ก็ย่อมเป็นการสะท้อนน้ำยาของรัฐบาลเองได้พอสมควร

รัฐบาลจะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ เพียงการรับปากส่งๆ ว่ากำลังจัดการอยู่หรือจะจัดการให้แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่เพียงพออีกต่อไป เมื่อปัญหาเกิดจากนโยบายของรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องแก้ไขที่นโยบาย พร้อมกับทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่

ลำพังพรรคประชาชนซึ่งเป็นฝ่ายค้าน แม้จะลงพื้นที่ตรวจสอบและรับฟังปัญหาทุนจีนกันอย่างหนักแค่ไหนในช่วงที่ผ่านมา แต่พวกเราไม่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงนโยบาย จึงต้องกระทุ้งรัฐบาลอย่างต่อเนื่องให้ใส่ใจปัญหานี้และรีบดำเนินการโดยเร็ว

เพราะสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าอาณาจักรจีนเทา คือรัฐบาลที่เกาะเก้าอี้กอดตำแหน่งไว้เพียงเพื่อมีอำนาจ แต่ไม่มีความสามารถและไม่มีความมุ่งมั่นจะใช้อำนาจเพื่อผลักดันความเปลี่ยนแปลงแก้ปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชน

#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: