กรมราชทัณฑ์ เผย มีพระราชทานอภัยโทษ นักโทษเด็ดขาดคดีอาญาทั่วไปที่เป็นคนเจ็บป่วย พิการ ชราภาพ หรือเหลือโทษไม่มาก (ไม่เกิน 1 ปี) จะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า วันที่ 17 สิงหาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่า ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นอภิลักขิตกาลสำคัญ เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกานี้ ให้ไว้ ณ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2567
ตามพระราชกฤษฎีกา ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป และต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษตามคำพิพากษา หรือไม่น้อยกว่า 8 ปี
ทั้งนี้ ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษที่เป็นผู้ต้องกักขัง ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ และนักโทษเด็ดขาดคดีอาญาทั่วไปที่เป็นคนเจ็บป่วย พิการ ชราภาพ หรือเหลือโทษไม่มาก (ไม่เกิน 1 ปี) จะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป ส่วนนักโทษเด็ดขาดคดีอื่นจะได้รับการลดโทษในอัตราส่วนมากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับชั้นนักโทษและฐานความผิด โดยการพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับการ ปล่อยตัวประมาณ 3 หมื่นคนเศษ
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่พสกนิกรที่เป็นผู้ก้าวพลาด ให้ได้รับโอกาสในการกลับตน เริ่มต้นชีวิตใหม่ และพระมหากรุณาธิคุณนี้ ยังแผ่ปกคลุมไปถึงครอบครัว ผู้ก้าวพลาดที่ได้รับสมาชิกกลับคืนสู่อ้อมกอดอีกครั้ง กรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้ร่วมกันบำบัดฟื้นฟู และแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำและทัณฑสถาน โดยให้การศึกษา อบรมพัฒนาจิตใจ การฝึกทักษะอาชีพ การแนะแนวการประกอบอาชีพ
โดยเฉพาะ การเข้ารับการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย รวมถึงได้ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายภาคสังคมและชุมชน ในการติดตามดูแลให้ความช่วยเหลือ เพื่อสร้างความพร้อมในการอยู่ร่วมกับสังคม โดยหวังว่าสังคมตลอดจนผู้ประกอบการ หรือห้างร้าน บริษัทต่าง ๆ จะให้โอกาสรับผู้ก้าวพลาด เข้าทำงาน เพื่อสร้างคุณค่าในตนเอง สามารถประกอบอาชีพสุจริตเลี้ยงตนเองและครอบครัว และใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมได้อย่างปกติสุข โดยไม่คิดหวนกลับไปทำความผิดซ้ำ อันถือเป็นการป้องกันและคุ้มครองสังคมให้มีความปลอดภัยอย่างยั่งยืนต่อไป
#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS