ตร.ไซเบอร์ใส่เกียร์สูงล้างบางบัญชีม้านิติบุคคลจับ 4 ผู้ต้องหา ค้น หจก. ดันเจอบ้านร้าง
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ตามนโยบายของรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นำตำรวจไซเบอร์เร่งรัดปราบปรามความผิดที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บไซต์พนันออนไลน์ กระทั่ง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ได้มีการแถลงปฏิบัติการ “CYBER STRIKE” กรณีบุกทลายบริษัทบัญชีม้า สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท ตรวจค้นที่ตั้งนิติบุคคลผี 43 จุดทั่วประเทศ สามารถออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้ 19 ราย และสามารถจับกุมได้แล้ว 12 ราย โดยต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้กำลังพลในสังกัดร่วมกันสืบสวนขยายผลกรณีบัญชีม้านิติบุคคล และให้เดินหน้าเร่งกวาดล้างจับกุมตลอดห้วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชน
โดยกรณีนี้ ตำรวจไซเบอร์พบข้อมูลว่า มีผู้เสียหายจำนวนหลายรายตกเป็นเหยื่อจากการถูกหลอกให้ลงทุนเทรดหุ้นออนไลน์ โดยผู้เสียหายมักพบโฆษณาชักชวนลงทุนบนเฟซบุ๊ก หรือ แพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ ซึ่งมีการใช้ภาพนักลงทุนชื่อดังมาแอบอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นมิจฉาชีพจะดึงเข้ากลุ่มไลน์ โดยในกลุ่มดังกล่าวจะมีทั้งมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นอาจารย์สอนการลงทุน และยังมีหน้าม้าที่มักสนทนาสร้างความน่าเชื่อถือ
ว่าได้กำไรกลับมาในอัตราที่สูงจริง เพื่อดึงดูดความโลภของเหยื่อให้รีบโอนเงิน
จากนั้น มิจฉาชีพจะให้ผู้เสียหายดาวน์โหลดและติดตั้งแพลตฟอร์มชื่อ OSK Tradding ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเถื่อน โดยอ้างว่าเป็นการลงทุนด้วยการฝากเงินเข้าระบบ เพื่อซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในประเทศ
และต่างประเทศ จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพจะแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอฟซี ออบิส กรุ๊ป โดยจากการตรวจสอบยอดเบื้องต้น พบเงินที่โอนเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวแล้วมีมูลค่าสูงถึงหลายสิบล้านบาทต่อวัน
พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.คัมภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 จึงได้สั่งการให้
พ.ต.อ.สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.3 บก.สอท.3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เร่งสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งขบวนการ จำนวน 6 ราย และขออนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 4 จุด รวมถึงสถานที่ตั้งของห้างหุ้นส่วนจํากัดดังกล่าวด้วย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 4 จุด และไล่ล่าผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 6 ราย จากปฏิบัติการดังกล่าว สามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นบัญชีม้าที่รับโอนเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหาย ได้จำนวน 2 ราย และผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่จดทะเบียนนิติบุคคลของห้างหุ้นส่วนจํากัด เอฟซี ออบิส กรุ๊ป อีก 2 ราย ดังนี้
1.นายนพนัย อายุ 30 ปี (เจ้าของบัญชีม้า)
2.นางมยุรา อายุ 42 ปี (เจ้าของบัญชีม้า)
3.นายสุเทพ อายุ 46 ปี (ผู้จดทะเบียน หจก. / บัญชีม้า)
4.นางสาวสุทธิดา อายุ 41 ปี (ผู้จดทะเบียน หจก. / บัญชีม้า)
ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”
นอกจากนี้ จากการตรวจค้นสถานที่ตั้งห้างหุ้นส่วนจํากัด เอฟซี ออบิส กรุ๊ปต ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่พบว่า ห้างหุ้นส่วนดังกล่าว เป็นเพียงบ้านร้างที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรด ไม่มีผู้อาศัยอยู่มาเป็นเวลานาน และไม่มีร่องรอยสภาพการเปิดทำธุรกิจตามที่จดทะเบียนแต่อย่างใด จึงเชื่อได้ว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวถูกจดทะเบียนขึ้นมาเพียงเพื่อใช้ชื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคาร และจากการตรวจสอบการทำธุรกรรม ยังปรากฏว่าการเปิดบัญชีในรูปแบบนิติบุคคล สามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดจำนวนโดยไม่จำเป็นต้องทำการ KYC หรือ การยืนยันตัวตนเหมือนบัญชีม้ารูปแบบบุคคลอีกด้วย ทำให้คนร้ายสามารถโยกย้ายเงินที่ได้จากการหลอกลวงเหยื่อได้อย่างรวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผลไปถึงตัว ผู้จ้างวาน ตลอดจนเครือข่ายของขบวนการดังกล่าว พร้อมเดินหน้าเร่งปราบปรามบัญชีม้านิติบุคคลโดยเฉพาะห้วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน ตลอดจนขอฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องได้รับการชวนให้ร่วมลงทุน แม้จะให้โอนเงินไปยังบัญชีของบริษัท ขอให้ตรวจสอบบริษัทให้ละเอียดรอบคอบก่อนร่วมลงทุน มิเช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อโจรออนไลน์ได้
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS