Connect with us

News

คืบหน้า! ปมร้อนฉ่า พิมพ์หนังสือเรียนปี 67 สำนักพิมพ์รุ่งศิลป์ ฟ้องกราวรูด! องค์การค้าสกสค.เหตุ TOR ไม่โปร่งใส

Published

on

บริษัทรุ่งศิลป์ฯ ย้ำ! การจ้างพิมพ์หนังสือขององค์การค้าสกสค.เป็นการกำหนดสเปกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้ลิขสิทธิ์พิมพ์ตำราเรียน แต่ไม่มีแท่นพิมพ์ม้วน พิมพ์แบบเรียนแม้แต่เครื่องเดียว

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า (14 มิ.ย.67) จากกรณีประเด็นความไม่ชัดเจนของการดำเนินการพิมพ์ตำราเรียนขององค์การค้าของ สกสค. ชนวนเริ่มต้นตั้งแต่การจัดทำ TOR หรือข้อกำหนดขอบเขตงาน ที่ไม่โปร่งใส ไม่ยึดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 องค์การค้าสกสค.ส่งปกหนังสือให้กับสำนักพิมพ์รุ่งศิลป์การพิมพ์ 1977 จำกัด ซึ่งเป็นคู่พิพาทตั้งแต่ปี 2565 ไม่ครบตามจำนวน และไม่ขยายเวลาส่งงานตามที่สำนักพิมพ์รุ่งศิลป์ฯร้องขอ แถมยังบอกเลิกสัญญาจ้างบางส่วน แถมยังขอปกหนังสือคืนจากสำนักพิมพ์รุ่งศิลป์ฯ ซึ่งรุ่งศิลป์ได้ขอให้เจ้าหน้าที่องค์การค้าฯมานับปกทีละแผ่นเกือบ 1.6 ล้านปก จะเข้าสัปดาห์ที่ 4 แล้ว ก็ยังนับปกหนังสือกันไม่เสร็จ

นายนัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกุล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์(1977)จำกัด เปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนเรื่องทั้งหมดนี้ ถึง กรมบัญชีกลาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) และฟ้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ให้ความเห็นว่าการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2567 จำนวน 151 รายการ การกำหนดเงื่อนไขดังกล่าว จึงเป็นการกีดกันการเสนอราคา ทำให้ไม่สามารถยื่นเสนอราคาได้ทั้ง 151 รายการ หรือได้ตามศักยภาพและความประสงค์ของผู้ยื่นข้อเสนอ จึงขัดกับหลักการตามนัยมาตรา 8 วรรคหนึ่ง(2)แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 8 วรรคหนึ่ง(2) อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนเคยทำหนังสือร้องไปยัง พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างนี้แล้ว เนื่องจากสิ่งที่องค์การค้าสกสค.ดำเนินการเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 นายภกร รงค์นพรัตน์ รองผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่มีการร้องเรียนถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างหนังสือเรียน ประจำปี 2567 ขององค์การค้าของสกสค.ไม่มีความโปร่งใสและมีการ ล็อกสเปก นั้น พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ผลสรุปพบว่า ทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม การจัดพิมพ์แบบเรียนปีนี้มีเวลาจำกัดในการดำเนินการ เนื่องจาก สพฐ.มีการปรับปรุงต้นฉบับเปลี่ยนแปลงหนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2567 ทำให้องค์การค้าฯจำเป็นจะต้องดำเนินการโดยวิธีคัดเลือก คาดว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินการประมาณ 78 วัน

แต่หากใช้วิธี e-bidding จะทำให้ผลิตไม่ทันเวลาเปิดภาคเรียน จึงต้องดำเนินการโดยวิธีคัดเลือก และได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ซึ่งการใช้วิธีนี้จะทำให้เกิดการกระจายไปให้โรงพิมพ์ได้มากที่สุด และเกิดความโปร่งใสอย่างแน่นอน อีกทั้งนายภกร ยังให้สัมภาษณ์ อีกว่า การแบ่งกลุ่มไม่ใช่การกีดกันแต่อย่างใด ผู้ว่าจ้างสามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ส่วนข้อกล่าวหากรณีการล็อกสเปกกระดาษนั้น องค์การค้าฯสกสค.ไม่ได้กำหนดสเปกเอง แต่การเลือกใช้กระดาษของหนังสือเรียนองค์การค้าสกสค.ได้รับการอนุมัติจาก สสวท. ซึ่งเป็นเจ้าของต้นฉบับ และสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ของ สพฐ.ได้อนุมัติให้ใช้และกำหนดราคาจำหน่ายหนังสือเรียนมาให้ องค์การค้าฯไม่ได้เป็นผู้กำหนดสเปกของกระดาษโดยพลการ ทุกโรงพิมพ์ที่ได้รับการคัดเลือกสามารถซื้อกระดาษจากแหล่งใดก็ได้ เพียงแต่ต้องใช้ตรงตามสเปกที่กำหนดตามทีโออาร์

นายนัทธพลพงศ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อเกิดประเด็นขึ้นมาทำให้บริษัทรุ่งศิลป์ฯ ไม่สามารถพิมพ์หนังสือเรียนต่อไปได้ เนื่องจากองค์การค้าสกสค.ส่งปกหนังสือให้บริษัทรุ่งศิลป์ไม่ครบตามจำนวน และเมื่อบริษัทรุ่งศิลป์ฯขอขยายเวลาส่งหนังสือออกไปอีก 15 วัน แต่องค์การค้าสกสค.ลงนามโดยนายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าของสกสค.ไม่ยอมขยายเวลาให้ และขอยกเลิกสัญญาบางส่วนในวันเดียวกัน พร้อมขอปกหนังสือคืนจากบริษัทรุ่งศิลป์ฯ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้บริษัทรุ่งศิลป์เสียหายเป็นอย่างมาก และได้เรียกร้องค่าเสียหายต่อองค์การค้าสกสค.แล้ว เนื่องจากไม่ได้ผิด เพราะเหตุเกิดจากองค์การค้าสกสค.ส่งปกหนังสือไม่ครบตามจำนวนเอง

“ผมได้ยื่นหนังสือถึง ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอให้ตรวจสอบ TOR ของการจ้างพิมพ์หนังสือขององค์การค้าสกสค.ว่าเป็นการกำหนดสเปกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่นค่าความสกปรกกำหนดว่ากระดาษสกปรกมากว่า 100 ซึ่งองค์การค้าสกสค.บอกว่าเป็นการกำหนดของสสวท.และสพฐ.เห็นชอบ ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นการกำหนดโดย สพฐ.หรือ สสวท.ซึ่งถ้ากำหนดแบบนี้จริงคงต้องยุบทั้ง สพฐ.และสสวท.

เพราะเป็นการกำหนดที่ไม่มีความรู้ กระดาษสะอาดไม่เอา แต่จะเอากระดาษสกปรกที่มีค่า dirt มากกว่า 100 ppm หมายถึงต้องมีจุดเสี้ยนและจุดสกปรกมากกว่า100มิลิเมตรต่อ 1 ตารางเมตร การกำหนดสะเปกแบบนี้เป็นการกำหนดเพื่อใครหรือเปล่า เป็นการโยนความผิดให้สองหน่วยงานหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ปีต่อไปผมขอแนะนำให้โรงเรียนซื้อหนังสือเรียนจากเอกชนดีกว่า ไม่ต้องกลัวว่าจะส่งหนังสือไม่ทันด้วย เพราะตอนนี้องค์การค้าสกสค.ก็เป็นเพียงหน่วยงานกลางเปรียบเสมือนพ่อค้าคนกลางจ้างเอกชนพิมพ์หนังสือเท่านั้น เพราะไม่มีแท่นพิมพ์ม้วนที่สมบูรณ์มาใช้เลย ”นายนัทธพลพงศ์ กล่าวและว่า

ถ้าร้องกันไปกันมาไม่จบสิ้นแบบนี้ เด็กก็คงไม่ได้รับตำราเรียนตามวัน เวลาที่กำหนด แล้วอนาคตของชาติในอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าองค์การค้าของ สกสค ปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่างก็จบแต่เท่าที่ดูก็ปฏิบัติขัดต่อกฎหมายซ้ำซากมาต่อเนื่อง โดยไม่ย่ำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: