อ.เจษฎาให้ความรู้กรณีนักฟุตบอลถูกฟ้าผ่ากลางสนามแข่ง เผย หากอยู่กลางแจ้งขณะฝนฟ้าคะนอง มีโอกาสเสี่ยงสูง แนะสังเกต หากขนลุก ต้องหาที่หลบภัย
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า จากกรณีนักฟุตบอลอินโดนีเซียถูกฟ้าผ่ากลางสนามระกว่างการแข่งขัน จนสุดท้ายบักฟุตบอลคนดังกล่าวเสียชีวิต ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ล่าสุด รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ให้ความรู้เรื่องกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
ดังนั้น ในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ก็ควรให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง ดังเช่น การเล่นกีฬาในสนามกีฬา สนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ สนามกอล์ฟ ฯลฯ ครับ
หรือแม้ว่าฝนจะยังไม่ตก หรือตกแล้วหยุดแล้ว แต่ถ้าระหว่างเล่นกลางสนามนั้น เกิดอาการขนลุก ขนชัน หรือรู้สึกว่าเส้นผมลุกตั้งชันขึ้น ก็แสดงว่ามีการสะสมของประจุไฟฟ้า ในอากาศบนบริเวณสนาม ….. และควรสั่งให้หยุดการแข่งขัน หยุดเล่นกันโดยทันที แล้วหาที่หลบภัย ที่แข็งแรงมั่นคงเพียงพอ
บางท่านถามว่า แล้วสนามฟุตบอลไม่มี “สายล่อฟ้า” หรือ ? ก็ต้องบอกว่า สายล่อฟ้า (หรือบางคนเรียก เสาล่อฟ้า) นั้น มันมีหน้าที่เพื่อรับกระแสไฟฟ้าแรงสูงจากฟ้าผ่า ที่อาจจะผ่าลงมาตรงอาคารหรือเสาสูงที่ติดตั้งไว้ (เพราะจุดสูงเด่น จะมีความเสี่ยงมากที่สุดที่จะถูกฟ้าผ่า) แล้วส่งผ่านกระแสไฟฟ้านั้นลงดินไป ลดความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารสถานที่ … ไม่ได้แปลว่า สายล่อฟ้าจะ “ล่อฟ้าผ่า” ทั่วทั้งสนามไปยังตัวมัน (ปรกติ อย่างมากก็จะครอบคลุมแค่รัศมีประมาณ 15 องศาจากยอดเสาลงมา)
ส่วนประเด็นเรื่อง นักกีฬาคนนั้นใส่สร้อยโลหะ กำไลโลหะ หรือแม้แต่รองเท้าโลหะ เลยทำให้ถูกฟ้าผ่า !? ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุปัจจัยอะไรครับ เป็นเพียงความโชคร้ายเท่านั้นเอง
เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
