Connect with us

News

ไรเดอร์หนุ่ม เล่าช็อก! ขับผ่านทางลัด เจอชาย ‘ไม่มีหัว’ ใส่เสื้อโปโลสีขาวลายทางสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์

Published

on

ไรเดอร์หนุ่ม เล่าประสบการณ์ขนหัวลุก ไปทางลัดตามแมพ ปรากฎเจอผู้ชายคนเดิมยืนข้างทาง แบบไม่มีหัว

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ จ่าดับ จำเปาะ โพสต์ข้อความเล่าประสบการณ์เจอสิ่งลี้ลับ โดยระบุว่า

มาเริ่มเล่า ภาพและคลิปทุกภาพ เป็นสิ่งที่ถ่ายก่อนจะเจอเรื่อง ส่วนตัวไม่กลัวผี เวลาวิ่งงานเจอที่เปลี่ยวๆก็จะจอดถ่ายรูปส่งให้เพื่อนดูประจำว่าทางเปลี่ยวแล้ว ค่ำแล้ว เลยจอดถ่ายรูปไม่คิดอะไร เรื่องของเรื่องคือ ผมรับงานจากลาดพร้าวมาส่ง2ที่ คือเทพารัก สุดท้ายบางบ่อ ส่งเสร็จตัวสุดท้ายเวลาประมาณ2-3ทุ่ม บ้านลูกค้าคนสุดท้ายอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ8-9โลช่วงต้น ๆ ซอยก็ปกติมีร้านสะดวกซื้อ มีคนเดินไปมา ตามทางจะเป็นบ่อปลา บ่อกุ้ง สุดลูกหูลูกตา ทางเป็นทางตรงโค้งนิดหน่อย มีสะพานข้ามคลองเล็ก ๆ เยอะมาก แต่มันดึกแล้ว คิดว่าเวลานี้ไม่มีงานแล้ว เลยจะตีรถกลับมาบ้านแถวตากสินเลย

เพราะงานไรเดอร์ค่ายนี้หลังจาก5-6โมงเย็นก็งานเงียบแล้ว เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงานส่งพัสดุต่าง ๆ งานจะมีแค่ตอนเวลาทำการปกติ 8-5โมงเย็น เลยตัดสินใจเปิดกูเกิ้ลแมพ ถ้ากลับทางเดิมใช้ระยะประมาณ 60 กิโลได้ออกทางเดิม เข้าสู่ถนนบางนา แล้ววิ่งบางนายาว ๆ จนถึงแยกบางนา แล้วก็กลับตามที่คุ้นเคย แต่แมพเสนอทางอีกทางนึง ประหยัดกิโลไปได้ 17 กิโล ประหยัดเวลาไป 20นาที

ซึ่งมันเยอะมาก แมพเสนอให้ไปอีกทาง ลัดไปในถนนมืด ๆ แต่ใช้เวลาน้อยกว่ามาก ก็เลยตัดสินใจไปทางนั้น แล้วแวะถ่ายรูปตามที่เห็น โดยปกติของไรเดอร์ค่ายนี้ เวลาได้งานไปที่แปลก ๆ จะแคปงานให้เพื่อนไรเดอร์ด้วยกันดูเพื่อจะแนะนำจุดรองานกัน แชทแรกผมคุยกับเพื่อนว่าอยู่ตรงนี้นะ จะมีงานไหมเวลานี้แล้ว เพื่อนผมเลยแนะนำให้ผมกลับเลย สามสี่ทุ่มแล้ว รอถึงเช้าก็ไม่มีงานเข้าเมืองแน่ ๆ

และต่อมาผมก็ส่งรูปชุดเดียวกันที่ถ่ายรอบ ๆ ให้แฟนดูในแชท แฟนบอกว่าในรูปเห็นเงาแปลก ๆ ให้รีบออกมาจากตรงนั้นเพราะรู้สึกไม่ดี แต่โดยนิสัยของผมแล้ว ผมเป็นคนไม่เชื่อเรืองลี้ลับ แต่ก็ไม่อยากเถียงว่าไม่เชื่อ เลยตัดสินใจเดินทางต่อ ผมขับตามแมพไปเรื่อย ๆประมาณ 5-7กิโล ทางก็จะสลับมืดบ้าง มีไฟบ้าง รอบๆก็จะมีแต่บ่อปลาสุดสายตา ไม่มีคนไม่มีอะทั้งสิ้น แม้แต่สุนัขตัวเดียวก็ไม่มี แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แมพบอกให้กลับรถเบี่ยงเข้าใต้สะพานข้ามคลองเล็ก ๆ *(รูปที่ 1)



ก็ขับตามทางเข้าไป เป็นทางดีถนนลาดยางปกติ มีไฟบ้าง ไม่มีไฟบ้างเป็นช่วง ๆ หลังจากวนผ่านใต้สะพานมาแล้วก็ไม่ได้แอะใจอะไร จนขับไปได้ซักพักประมาณ 5 กิโล ความรู้สึกคือเข้ามาได้ไม่นานเลย แต่ดันเจอทางตัน(รูปที่2)



แต่ทางตันนั้นมีช่องให้มอไซขับเข้าไปได้ มีทางให้ไปถนนปูน แต่ไม่มีไฟซักดวง ก็คิดซักพักว่าจะไปต่อดีไหม กลัวถนนขาด กลัวทะลุไม่ได้ เลยนั่งพักสูบบุหรี่กินน้ำ ล้างหน้าล้างตาสักพักนึงไม่ถึงกับนาน ตรงนั้นมีไฟสว่างและบวกกับยังไม่ได้กลัวอะไร เพราะปกติเป็นคนไม่กลัวจริง ๆ พอนั่งได้ซักพักเลยตัดสินใจวนรถกลับทางเดิมดีกว่าเพราะดูจากข้างหน้าแล้ว ไฟที่ยังสว่างมันไม่สุดถนนตามที่แผนที่บอก แผนที่เป็นทางตรงยาวมาก แต่ไฟกลับไปไม่ไกล เลยวนกลับทางเดิมไกลหน่อยแต่ปลอดภัย พอกลับรถมาแล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกมีลมประทะที่หน้า เป็นลมเย็น ๆ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้กลัวอะไร ยังคงพยายามจะมองหาสะพานเดิมที่ลอดมา แต่ไม่เจอซักที

เราขับมาจนเอะใจว่ามันควรจะถึงสะพานที่ลอดมาได้แล้ว เพราะตอนมาก็ไม่ไกลขนาดนี้ เลยพยายามมองหาคนเพื่อถามทางว่าออกถนนใหญ่ยังไง ทางก็คือเหมือนๆกันหมดเลย มีแต่บ่อปลา ทางเป็นถนนฝั่งละ2เลนสวน มีเกาะกลางมีเนินสะพานข้ามคลองหลายจุด ระหว่างมองหาสะพานที่ลอดมานั้น ผมเจอสะพานข้ามคลองแรก เห็นคนยืนอยู่หันหน้าไปทางบ่อปลา ทางคลอง มองตรงออกไป ยืนเฉย ๆ นิ่ง ๆ รูปร่างท้วม ๆ ไปทางอ้วนใส่เสื้อโปโลสีขาวลายทางสีน้ำเงิน กางเกงยีนสีเข้มขายาว แต่ด้วยความเร็วในการขับถนนโล่ง ๆ ก็มาเกิน80แล้ว เลยถามไม่ทันขับเลยไป เลยจอดดูแมพอีกครั้ง ชั่งใจว่าจะกลับรถไปถามดีไหม แต่ก็ไม่ด้วยความที่ย้อนไปกลัวอันตราย กลับรถก็ไกลเพราะมีเกาะกลาง ผมเลยตัดสินใจขับมาเรื่อย ๆ พยายามมองหาคนเพื่อจะถาม

ผมผ่านสะพานที่ 2 เจอคนยืนอยู่อีกครั้ง เสื้อตัวเดิม กางเกงตัวเดิม หันหน้าไปทางเดิม นิ่ง ๆ เหมือนเดิม ตอนนั้นใจกลัวแล้ว ว่าไม่ใช่คนแน่ ๆ จากสะพานแรกมาตรงนี้ไม่มีทางเร็วกว่ามอไซแน่ ๆ จึงตัดสินใจเร่งความเร็งกว่าเดิม ตอนนั้นขนหัวลุก จะร้องให้แต่ร้องไม่ออก ได้แต่อึกๆอักๆ อยู่ในลำคอ น้ำตาคลอแล้ว พอเร่งไปอีก

เจอสะพานที่3 เจอคน ๆ เดิมชุดเดิมอีก แต่! ไม่มีหัว มีแค่ส่วน คอลงมาถึงเท้า ถอยหลังประมาณ3ก้าวลงมาบนพื้นถนนนิดหน่อย แล้ววิ่งกระโดดลงน้ำไป ได้ยินทั้งเสียงและภาพชัดเจน เพราะเป็นถนนทางตรงไม่มีทางที่จะหลบตาไปทางไหนจำใจต้องมองยังไงก็ต้องเห็น ตอนนั้นคือกลัวมากแล้ว พยายามไม่มองอะไรทั้งนั้น รีบขับให้ไวที่สุดเท่าที่รถมอไซคันนึงจะทำได้

จนมาถึงสะพานที่ 4 ผมเห็นตั้งแต่ไกล ๆ แล้วว่ามีอะไรอยู่เพราะมันเป็นทางตรง ยังไงก็ต้องมองทาง แต่รอบนี้เขาไม่ได้อยู่บนฟุตบาท แต่ยืนอยู่เลนซ้าย เลนที่ 1 ส่วนผมขับรถอยู่เลนที่2 ระยะห่างกันไม่ถึง3เมตร เดินแค่ก้าวเดียวและยื่นมือน่าจะถึงตัวผม แต่รอบนี้มีหัว และ หันหน้ามาทางถนน แต่ไม่ได้หันมองทางผม ด้วยความที่ทางมันตรง ห้ามตาไม่ให้มองไม่ได้ เลยมองไป ปรากฏว่า ชุดเดิม คนเดิม รอบนี้มีหัว แต่ ….
ไม่มีหน้า ไม่มีตาไม่มีคิ้วไม่มีจมูกไม่มีปาก มีแค่ผมกับลำตัว ยืนนิ่ง ๆ แต่หันมา ตอนนั้นสติแตกมาก พยายามคิดถึงพ่อแม่ หรืออะไรก็ได้ที่เรารัก จนผ่านสะพานที่4มาสักพัก ได้มีลมแบบเดิมปะทะที่หน้าอีกครั้ง ขับต่อมาไม่ไกลก็เจอสะพานที่ลอดลงมา

ตอนนั้นผมขับอยากเดียว เชื่อแล้วว่ามีผี ไม่มองกลับหลังมาดู ขับมาเรื่อย ๆ มาทางหมู่บ้านที่เคยมาส่ง รีบขับกลับทางเดิมและยังขับรถเร็วอยู่ จนมาซักพักก่อนถึงหมู่บ้านที่ส่งก็เจอวัยรุ่นสองคน กำลังนั่งเล่นกัน ดื่มเครื่องดื่มกัน เลยได้ถามทาง ว่าออกบางนาตรงไหนเขาได้บอกทางและออกมาถูก วัยรุ่นถามว่ามาจากไหน ข้างในถนนมันยังสร้างไม่เสร็จ มาได้ยังไงผมได้แต่ยิ้มดีใจที่เจอคนพร้อมกับโล่งใจ พอได้รู้ทางก็รีบกลับมาเล่าเลย เชื่อแล้วว่ามีจริง ใครจะไปยืนมืด ๆ แบบนั้น เจอถึง4 ครั้ง ไม่มีทางที่คนจะเร็วกว่ารถได้

เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: