Connect with us

News

ค่าแรงสูตรนี้จบ…ไม่ทะเลาะกันแน่! “หน.พรรคสร้างอนาคตไทย” ชงเสนอ วิธีแก้ค่าแรง รูปแบบใหม่ !!

Published

on

อุตตม ชู ค่าแรงตามฝีมือแรงงาน แบ่งตามประเภทแรงงานแล้วยึดเอาประสิทธิภาพหรือทักษะของแรงงานเป็นตัวกำหนดอัตราค่าแรง

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลังจากพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งเปิดเผยนโยบายของพรรคโดยชูประเด็นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่สูงมาเป็นจุดขายของนโยบายหลัก ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทั่วไปในวงสังคมว่า “ช่วง 2 วันที่ผ่านมา กระแสสังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่วนตัวแล้วเห็นว่าประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ภายใต้ความสมดุลใน 2 ประเด็นหลัก คือ

1.ปรับเพื่อให้แรงงานสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพสอดคล้องกับต้นทุนค่าใช้จ่ายการใช้ชีวิตในปัจจุบัน

2.ปรับขึ้นค่าแรงต้องไม่กระทบกับผู้ประกอบการ เนื่องจากวันนี้ในภาพรวมผู้ประกอบการส่วนใหญ่โดยเฉพาะเอสเอ็มอียังไม่หายบาดเจ็บจากโควิด และเชื่อว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะฟื้นตัว
อยากเชิญทุกท่านร่วมกันคิดหาทางออกว่า

การปรับค่าแรงขั้นต่ำบนพื้นฐานของความสมดุล ควรทำอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่า เราต้องใช้ระบบกำหนดค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำแบบใหม่ จากเดิมที่กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำตามพื้นที่ โดยพื้นที่ใดค่าครองชีพสูงก็ได้ค่าแรงสูง ค่าครองชีพต่ำก็ได้ค่าแรงต่ำ เปลี่ยนเป็นการกำหนดค่าแรงที่ยึดเอาประสิทธิภาพของแรงงานเป็นหลัก ซึ่งจะตอบโจทย์ความเป็นไปในสถานการณ์ปัจจุบัน และการพัฒนาประเทศในโลกอนาคตมากกว่า

วันนี้ประชากรในวัยแรงงานของไทยมีประมาณ 38 ล้านคน แบ่งเป็นภาคบริการและการค้า 18 ล้าน ภาคเกษตร 10 ล้าน และภาคการผลิตอุตสาหกรรม 10 ล้าน (ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ) นับเป็นกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ จึงควรได้รับการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสม และส่งเสริมให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอย่างเต็มที่

ทั้งนี้เราควรกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำ โดยแบ่งตามประเภทแรงงานแล้วยึดเอาประสิทธิภาพหรือทักษะของแรงงานเป็นตัวกำหนดอัตราค่าแรง คือ

  • หากเป็นประเภทแรงงานเข้มข้นหรือแรงงานที่ไม่มีทักษะก็กำหนดค่าแรงอัตราหนึ่ง ที่สามารถอยู่ได้ในคุณภาพชีวิตที่ดีพอ แต่
  • หากเป็นแรงงานที่ต้องใช้ทักษะเพิ่มก็ควรได้รับอัตราค่าแรงที่สูงกว่า

ขณะเดียวกันภาครัฐก็จะต้องมีมาตรการยกระดับทักษะแรงงาน เพื่อให้แรงงานขั้นพื้นฐานสามารถ ยกระดับขึ้นไปขั้นที่สูงกว่า ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับของประเทศสิงคโปร์ ตัวอย่างอาชีพแม่บ้านที่นั่นหากเป็นแม่บ้านทั่วไปก็จะได้ค่าแรงราคาที่ต่ำกว่าแม่บ้านที่ทำงานสถานที่บริการหรือในสถานที่ราชการ เพราะถือว่าต้องใช้ทักษะการบริการด้วย หากทำได้เช่นนี้ก็จะเป็นการสนับสนุนให้แรงงานเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดกิจกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ในส่วนของแรงงานในระดับมีการศึกษาสูง เช่น อนุปริญญา ปริญญาตรี ซึ่งถือเป็นกลุ่มหัวขบวนในการพัฒนาประเทศ เราน่าจะใช้โอกาสนี้ปรับโครงสร้างรายได้แรงงานกลุ่มนี้ ให้รองรับกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศในโลกยุคใหม่ตามที่ผมเคยกล่าวไว้ก่อนหน้า โดยหากเรียนจบสาขาอาชีพที่ตรงกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ก็ควรได้รับค่าแรงสูงกว่าอาชีพอื่น เช่น สาขาเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นต้น ซึ่งก็จะเป็นการจูงใจให้มีตลาดแรงงานป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเป้าหมายในการพัฒนาประเทศมากขึ้น และเช่นกันภาครัฐก็ต้องมีมาตรการช่วยพัฒนาในทุกสาขาอาชีพให้มีโอกาสเพิ่มพูนทักษะและรายได้ด้วยเข่นกัน

การปรับแนวคิดวิธีกำหนดค่าแรงขั้นต่ำแบบยึดประสิทธิภาพแรงงาน นอกจากจะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อผู้ใช้แรงงานเองแล้ว ยังเป็นการช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมให้มีความเข้มแข็งขึ้นด้วย เป็นการสร้างสมดุลทั้งด้านแรงงานและผู้ประกอบการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศทั้งระบบ สิ่งที่นำเสนอนี้อยู่บนฐานความคิดว่าวันนี้เราไม่ควรย่ำอยู่กับแนวทางแบบเดิมๆ แต่ต้องเร่งพัฒนาด้วยวิถีทางใหม่ๆให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก

และครั้งหน้าจะมาขยายแนวคิดนี้เพิ่มเติม เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าหากประเทศไทยไม่เดินบนวิถีทางใหม่จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจประเทศอย่างไร เช่นกรณีล่าสุดการประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ย. อยู่ที่ร้อยละ 5.55 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวนั้น อย่าประมาทเพราะมีอะไรซ้อนอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งอีกเยอะ ครั้งหน้าจะนำเรื่องนี้มาแลกเปลี่ยนกับทุกท่านอีกครั้ง
ขอบคุณครับ”

เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: