Connect with us

Published

on

ซูสีไทเฮา จักรพรรดินีผู้มีอิทธิพลต่อชาวจีน เป็นสตรีที่มีชื่อโด่งดังและถูกจดจำมาอย่างยาวนาน พระนางซูสีไทเฮานั้นแต่เดิมเป็นเพียงสามัญชน มีชื่อเดิมว่า เยโฮนาลา พระนางเกิดในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2378 มีบิดาเป็นขุนนางผู้ต่ำศักดิ์ แต่มันไม่ได้เป็นอุสรรคของพระนางเลยที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากความทะเยอทะยานของพระนาง รวมทั้งโชคชะตาที่ให้พระนางได้กลายเป็นสตรีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ ทำหน้าที่ปกครองบ้านเมือง นำพาชาวจีนนับล้านคน และสามารถนั่งอยู่บนอำนาจนั้นได้ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษเลยทีเดียว

สมเด็จพระจักรพรรดินีสี้ยวชิงเสี่ยน หรือ สมเด็จพระจักรพรรดินีฉือสี่พระพันปีหลวง หรือที่เรารู้จักกันดีคือ “ซูสีไทเฮา” เดิมเป็นชาวแมนจูในประวัติศาสตร์จีนสมัยราชวงศ์ชิง  ในวัยสาวพระนางเป็นสนมของพระเจ้าเสียนเฟิง และให้ประสูติโอรส ต่อมาเมื่อพระเจ้าเสียนเฟิงสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2404 โอรสของพระนางก็ได้ครองราชย์และขึ้นเป็นพระเจ้าถงจื้อ ทำให้พระได้กลายเป็นพระพันปี หลังจากนั้นพระนางก็ได้ยึดอำนาจจากคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แล้วขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการร่วมกับพระพันปีฉืออัน อัครมเหสีพระเจ้าเสียนเฟิง พอพระพันปีฉืออันสวรรคตลง นางจึงสำเร็จราชการแต่ผู้เดียว ต่อมาในปี พ.ศ. 2418 เมื่อพระเจ้าถงจื้อสวรรคต พระนางจึงสภาปนาหลานของพระนางขึ้นเป็นพระเจ้ากวังซฺวี่ ซึ่งถือว่าขัดกับระเบียบการสืบทอด แล้วนางก็สำเร็จราชการแทนพระเจ้าแผ่นดินต่อไป

ในด้านของการปกครองพระนางทรงปฏิเสธการบริหารราชการแผ่นดินอย่างตะวันตก แต่ก็ส่งเสริมการปฏิรูปทางวิทยาการและทางทหารหลายประการ รวมถึงการพัฒนาแบบตะวันตก ในปี พ.ศ. 2441

พระนางพ้นจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเพื่อให้พระเจ้ากวังซฺวี่ปฏิบัติราชกิจด้วยพระองค์เอง พระเจ้ากวังซฺวี่ทรงเริ่มการปฏิรูปร้อยวัน แต่ซูสีไทเฮาเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกิดผลได้จริง นอกจากนี้จะส่งผลเสียต่อระบบราชวงศ์ นางจึงทำการยึดอำนาจและยกเลิกการปฏิรูปร้อยวัน พระนางยังทรงขัดพระเจ้ากวังซฺวี่ไว้ตำหนักกลางสระก่อนดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการอีกครั้ง รวมแล้วทรงเป็นพระราชวงศ์ผู้ปกครองประเทศจีนโดยพฤตินัยถึงสี่สิบแปดปี และเมื่อสวรรคตแล้วไม่นานราชวงศ์แมนจูและระบอบราชาธิปไตยในจีนก็สิ้นสุดลงและประเทศจีนก็เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2455

ถึงแม้ว่านักประวัติศาสตร์ทั้งจีนและต่างชาติมักจะกล่าวว่า พระนางทรงเป็นผู้ปกครองที่กดขี่และเป็นต้นเหตุของการล่มสลายของราชวงศ์ชิง แต่นักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่เห็นว่าการที่พระนางเข้ามานั้นก็เพื่อยุติความวุ่นวายในบ้านเมืองที่เกิดจากการปฏิรูปอย่างไร้ทิศทางของพระเจ้ากวังซฺวี่ และผู้สนับสนุนพระเจ้ากวังซฺวี่ประสบความสำเร็จในการทำให้พระนางกลายเป็นแพะรับบาปในสิ่งที่นอกเหนือความควบคุมของนาง เพราะราชวงศ์ชิงสิ้นสุดลงไปหลังจากที่นางเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ พระนางก็ไม่ได้โหดร้ายมากไปกว่าคนอื่น ๆ ที่มีมา กับทั้งนางยังเป็นนักปฏิรูปที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าการปฏิรูปของนางจะสายเกินไปก็ตาม

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2451 เมื่อซูสีไทเฮา ผู้ที่มีฉายาว่าราชินีหลังม่านได้จากไปในวัย 73 ปี หลังจากสวรรคตแล้วซูสีไทเฮาทรงได้รับการเฉลิมพระนามว่า “สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวชิงฉือสี่ตวนโย้วคังอี๋จาวยู้จวงเฉิงโช้วกงชิงเสี้ยนฉงซีเป่ย์เทียนซิงเชิงเสี่ยน” เรียกโดยย่อว่า “สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวชิงเสี่ยน” ทั้งนี้ พระศพซูสีไทเฮาได้รับการเก็บไว้ ณ สุสานหลวงของราชวงศ์ชิงฝ่ายตะวันออก ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางตะวันออกเป็นระยะทาง 125 กิโลเมตร เคียงข้างกับพระศพของซูอันไทเฮาและสมเด็จพระจักรพรรดิเสียนเฟิง

อย่างไรก็ตามซูสีไทเฮาทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระมหากษัติย์หลายพระองค์ ซึ่งพระนางทรงเป็นผู้ที่มีอิทธิพลคนหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ประวัติของซูสีไทเฮามีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี หลายคนจดจำพระนางในด้านความโหดร้าย แต่อีกด้านหนึ่งที่ทำให้พระนางเป็นที่โด่งดังก็คือ พระนางเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของประเทศและเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์จีนได้สำเร็จ

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: