ตำรวจปรับกฎหมายจราจรฉบับใหม่ เพิ่มอัตราโทษ ปรับความผิดตามกฎหมายจราจร ในข้อหาที่เป็นปัจจัยต่อการเกิดอุบัติเหตุ เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการสูญเสียของผู้ขับขี่ และผู้ใช้ทาง อาทิ
• ขับรถเร็วเกินกำหนด ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
• ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
• ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
• ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
• จอดรถในที่ห้ามจอด ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
• ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
• ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
• ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยกฎหมายจราจรฉบับใหม่จะมีผลพร้อมกัน
ทั่วประเทศในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ในฐานะที่ปรึกษาพิเศษ ตร. รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) ได้เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายจราจรฉบับใหม่ ควบคู่ไปกับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องโทษปรับที่กฎหมายใหม่
เพิ่มอัตราโทษสูงขึ้น เพื่อบังคับใช้ให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนน บางความผิดมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 4,000.-บาท
แต่ในห้วง 3 เดือนแรก จะยังใช้เกณฑ์ค่าปรับใบสั่งจราจรตามกฎหมายเดิมไปพลางๆก่อน (ตามประกาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องเกณฑ์ค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ พ.ศ.2563) เช่น ข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง แม้โทษสูงสุดตามกฎหมายใหม่จะปรับได้ถึง 4,000.-บาท แต่ค่าปรับตามใบสั่งจะกำหนดไว้ที่ 500.-บาท เพื่อให้เวลาประชาชนได้ปรับตัวและปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ในระยะต่อไปจะปรับปรุงเกณฑ์ค่าปรับตามใบสั่งให้สอดคล้องกับกฎหมายจราจรฉบับใหม่และบางข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือปัจจัยเกิดความสูญเสียต่อผู้ขับขี่ เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายทางม้าลาย ขับรถเร็วเกินกำหนด
ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ตร. จะพิจารณากำหนดอัตราโทษปรับเป็นขั้นบันได ตามจำนวนครั้งและประวัติการกระทำผิดด้วย เช่น ทำผิดครั้งที่ 1 โทษปรับตามใบสั่ง 500.-บาท หากทำผิดข้อหาเดิมเป็นครั้งที่ 2 โทษปรับตามใบสั่งเป็น 1,000.-บาท เป็นต้น
พล.ต.อ.ปรีชาฯ กล่าวอีกว่า ใบสั่งทุกใบจะถูกกำกับโดยระบบฐานข้อมูลใบสั่งที่เรียกว่า PTM (Police Ticket Management) ซึ่งจะระบุจำนวนค่าปรับตามเกณฑ์ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ในใบสั่งทุกใบ ดังนั้น ค่าปรับจึงเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
สำหรับเรื่องการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา ตร. ได้พิจารณาตามหลักกฎหมายแล้ว จะไม่นำประวัติการกระทำผิดที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 5 กันยายน 2565 มาประกอบการพิจารณาเพิ่มโทษ แต่จะเริ่มบันทึกประวัติการทำผิดครั้งแรกตั้งแต่ 5 กันยายน 2565 เป็นต้นไป ส่วนเรื่องการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้สั่งการให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติตามมาตรฐาน SOP การตั้งจุดตรวจงานจราจร ตามที่ ตร. ได้กำหนดไว้แล้วอย่างเคร่งครัด
“ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่ และผู้ใช้ทาง ทำความเข้าใจกฎหมายจราจรฉบับใหม่ และร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับผู้ใช้ทางคนอื่น ๆ” พล.ต.อ.ปรีชาฯ กล่าว
สามารถดูเกณฑ์ค่าปรับใบสั่งจราจรได้ที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/195/T_0009.PDF
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
@สำนักงานตำรวจแห่งชาติ