โดยในนัดนี้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ นอกจากจะยิงได้ 1 ประตู ทำแอสซิสต์อีก 2 หนแล้วยังสร้างสถิตใหม่
ให้กับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ด้วยการเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ยิงประตูในนัดเปิดได้ 5 ฤดูกาลติดต่อกัน
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายกลางดึกของคืนวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564
เป็นเกมนัดแรกของฤดูกาล 2021/22 ของ“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนรัง “นกขมิ้น” นอริช ซิตี้
ทีมน้องใหม่ของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้
ทีมลิเวอร์พูล ของเยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังตัวเก่งชาวดัตช์
กลับมาลงสนามในแนวรับอีกครั้ง หลังต้องพักยาวมามากกว่า 10 เดือน พร้อมด้วยคู่หู
โฌเอล มาติป ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ในขณะที่เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งรับหน้าที่กัปตันทีมในนัดนี้
ลงคุมเกมส์ในแดนกลางพร้อมทั้งนาบี้ เกต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ทำผลงานดีในช่วงพรีซีซั่น
ส่วนแนวรุกใช้บริการ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่ และ ดิโอโก้ โชต้า เป็น 3 ประสานลงล่าประตู
ในขณะที่ นอริช ซิตี้ ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงสุดของอังกฤษอีกครั้ง เกมส์นี้นำทัพโดย ติโม ปุ๊กกี้
กองหน้าตัวเก่ง โดยมี ท็อดด์ แคนต์เวลล์ และ มิลออต ราชอิชา ปีกตัวใหม่จากบุนเดสลีกา คอยสนับสนุน
ขณะที่ บิลลี กิลมอร์ กองกลางที่ยืมตัวมาจากเชลซี คอยคุมเกมส์ในแดนกลาง
เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เปิดฉากทำเกมส์บุกเข้าใส่เจ้าถิ่นตามถนัด อย่างต่อเนื่อง ไม่เปิดโอกาสให้นอริชได้ทำเกมส์บุกสวนกลับมากนัก ผ่านช่วงครึ่งแรกของเกมส์ไปไม่นาน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอล
เข้ามาหน้าประตูของนอริช โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จับบอลลงฟื้นไม่ดีนัก บอลแฉลบหนีเท้า ดิโอโก้ โชต้า
ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ก็วิ่งเข้ามาซัด ส่งบอลหนีมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าประตูไปในนาทีที่ 26 ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 0-1
เมื่อโดนขึ้นนำ นอริชก็พยายามทำเกมส์บุกเข้าใส่บ้าง แต่ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้น จบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง เมื่อเล่นไปถึงนาทีที่ 60 ของเกมส์ ลิเวอร์พูล ก็ส่งตัวสำรองลงสนาม โดยให้
โรเบอร์โต้ เฟอร์มีโน่ และฟาบินโญ่ สองผู้เล่นจากทีมชาติบราซิลลงมาเล่นแทน ดีโอโก้ โชต้า
และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงมาเล่นได้แค่ 5 นาที เฟอร์มีโน่ ก็แผลงฤทธิ์
เมื่อลิเวอร์พูลได้บอลสวนกลับ เฟอร์มีโน่ เลี้ยงพาบอลเลาะริมเส้นฝั่งซ้ายบุกไปในแดนของนอริช
ก่อนที่จะจ่ายบอลเข้ากลางสนามให้ ซาดิโอ มาเน่ เลี้ยงเข้าไปยิงที่หน้ากรอบเขตโทษ
แต่บอลไปติดขากองหลังเจ้าถิ่น กระเด้งมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จับบอลแล้วปาดบอลเร็วเข้ากลาง
เฟอร์มีโน่ วิ่งมาแปเฉือนๆส่งบอลลอดมือ ทิม ครูล์ เข้าประตูไป ลิเวอร์พูล ออกนำห่างเป็น 0-2
นาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 จากจังหวะลูกเตะมุมจากทางขวา บอลลอยเข้ามาหน้าประตู
กองหลังของนอริช ซิตี้ โหม่งสกัดบอลกระดอนออกมา โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จับลูกลงฟื้น ก่อนที่จะบรรจงปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายหน้ากรอบเขตโทษส่งบอลลอยเข้าประตูไปอย่างสุดสวย
ช่วงเวลาที่เหลือ แม้เจ้าถิ่นจะส่งผู้เล่นสำรองลงมาเปลี่ยนเกมส์ แต่ก็ไม่สามารถทวงประตูคืนจากลิเวอร์พูลได้
หมดเวลาการแข่งขัน หงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ นอริช ซิตี้ ได้ถึงถิ่น 0-3 เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นอริช ซิตี้ ผู้จัดการทีม : ดาเนี่ยล ฟาร์เก้ (4-3-3) : ทิม ครูล์ – มักซ์ แอรอนส์, แกรนท์ ฮันลี่ย์, เบน กิ๊บสัน,
ดิมิตริส จีอันนูลิส – ปิแอร์ ลีส์-เมลู, บิลลี่ กิลมอร์, ลูคัส รุปป์ – ท็อดด์ แคนท์เวลล์, มิลออต ราชอิชา
(โยชัว ซาร์เก้นท์ น.77) – ตีมู ปุ๊กกี้ (อดัม ไอดาห์ น.77)
ลิเวอร์พูล ผู้จัดการทีม : เยอร์เก้น คล็อปป์ (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, คอนสแตนตินอส ซิมิคาส – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ฟาบินโญ่ น.61), เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า (ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต น.83) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า (โรแบร์โต้ เฟอร์มีโน่ น.61), ซาดิโอ มาเน่
ผู้ตัดสินในสนาม : อังเดร มาร์ริเนอร์
You must be logged in to post a comment Login