จากไอเดียวิสาหกิจฯ บ้านดอนกอก สุดล้ำ ทำเทียนหอมที่เปลี่ยนน้ำตาเทียมเป็นน้ำมันนวด

จุดเริ่มต้นของเทียนหอม 2in1 มาจาก ธนพล อัครวาณิชสิริกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมอเล็ก” แพทย์แผนไทยผู้หลงใหลในสมุนไพร ซึ่งเขาเป็นคนจังหวัดราชบุรีที่ย้ายมาอยู่จังหวัดชัยภูมิ และมองเห็นว่า จ.ชัยภูมิ นั้นมีพืชสมุนไพรอยู่เป็นจำนวนมาก จึงต้องการที่จะให้ความรู้กับชุมชน และใช้สมุนไพรยกระดับคุณภาพชีวิตคนที่นี่ให้ดีขึ้น เขาจึงได้จัดตั้ง “วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านดอนกอก” ขึ้นในปี 2560 โดยเน้นการปลูกแบบอินทรีย์ และได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand มาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน

คุณธนพล ได้พูดไว้ว่า “ผมเองเป็นนักธุรกิจเก่า เลยเกิดความคิดว่า จะทำอย่างไรถึงจะสามารถเพิ่มมูลค่าของสมุนไพรให้กับชาวบ้านได้ จึงเริ่มจากไปขอมาตรฐาน Organic Thailand  และใบอนุญาตการผลิตเครื่องสำอาง ถามว่าทำไมต้องเป็นสมุนไพรออร์แกนิก เนื่องจากมันช่วยยกระดับสมุนไพรให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ ที่สำคัญยังดีต่อสุขภาพของตัวเราเองและคนรอบข้างด้วย เราเริ่มจากปลูกสมุนไพรและปลูกผักออร์แกนิก จากนั้นก็เริ่มพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยตัวผมเองมีความรู้เรื่องแพทย์แผนไทยแต่ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องสำอาง จึงเริ่มติดต่อหน่วยงานต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงหาองค์ความรู้มาเติมเต็ม”

และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้วิสาหกิจชุมชนเล็ก ๆ ในจ.ชัยภูมิค่อย ๆ เติบโตขึ้น โดยมีคุณธนพล เป็นประธานวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านดอนกอก และมีสมาชิกในวันแรกเพียง 7 คน ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ที่ 39 คน มีผลิตภัณฑ์ “ผักคุณหมอ” จากแปลงผักที่ได้รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ “ศรีไพรเฮิร์บ” ที่ผลิตจากสมุนไพรออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ และยังมีบริการรับจ้างผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรอีกด้วย

ต่อยอดสมุนไพรสู่เทียนหอมทูอินวัน

แม้จะเริ่มจากวิสาหกิจชุมชนเล็ก ๆ แต่กระบวนการทำงานของที่นี่จะยึดตามแนวทาง BCG Economy (เศรษฐกิจชีวภาพ, เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว) มาตั้งแต่เริ่มต้น โดยพวกเขาพยายามไม่ให้มีของเหลือทิ้ง และหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งนอกจากแปลกผักและสมุนไพรออร์แกนิกแล้ว พวกเขายังได้มีการเลี้ยงไก่, เลี้ยงปลา สำหรับเศษผัก เศษสมุนไพรเหลือทิ้งเอาไปเลี้ยงสัตว์ ส่วนมูลไก่เอามาทำเป็นปุ๋ยใส่แปลงผัก หมุนเวียนใช้อยู่ในกระบวนการ เพื่อเป็นการลดของเสีย

คุณธนพล กล่าวว่า “เราเลยอยากนำสมุนไพรส่วนที่เหลือจากกระบวนการผลิต จากเดิมที่เอาไปให้ไก่กิน นำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม จนมาจบที่เทียนหอมสมุนไพร ที่ไม่ใช่แค่การจุดเพื่อให้แสงสว่าง ให้ความสวยงาม หรือให้กลิ่นอโรมาเท่านั้น  แต่ยังสามารถเอาน้ำตาเทียนมานวดมือ เอามาทาผิว หรือเป็นน้ำมันนวดได้ด้วย เพราะส่วนผสมของมันเป็น ซอยแว๊กซ์ (ไขถั่วเหลืองสำหรับทำเทียนธรรมชาติ) กับน้ำมันไพลสกัดร้อน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวน้ำมันไพลจริงๆ ขายในตลาดกันแพงมาก เพราะเป็นเอสเซนเชียล ออยล์ (น้ำมันหอมระเหย) 100 เปอร์เซ็นต์”

จากเทียนหอมที่ผู้คนคุ้นเคย พวกเขาได้ฉีกตัวเองมาทำเทียนหอมสมุนไพร 3 สูตร โดยระบุสรรพคุณของแต่ละสูตรไว้ว่า   

ฟ้าทะลายโจร :  ทานวดแก้มือเท้าชา แก้ตะคริว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ถอนพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นลมทาขมับ สูดดม ใช้ทาแก้ส้นเท้าแตกและคันตามผิวหนัง

ตะไคร้ : ทานวดช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก อาการอักเสบของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการคันเนื่องจากแมลงสัตว์กัดต่อย ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหอมสดชื่น

ไพล : ทานวดช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก อาการอักเสบของกล้ามเนื้อ ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหอม สดชื่น

ยกระดับสมุนไพรไทยด้วยไอเดียสร้างสรรค์

สำหรับเทียนหอมที่เปลี่ยนเป็นน้ำมันนวดได้นี้ได้ใช้เวลาในการพัฒนาอยู่ประมาณ 1 เดือน และเริ่มออกมาทดลองตลาดผ่านการออกบูธตามงานต่าง ๆ และช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากโดยคนให้ความสนใจเพราะไม่คิดว่าเทียนหอมจะเป็นอะไรได้มากกว่าเทียนหอมที่คุ้นเคย

เทียนหอมนวดได้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากเทียนหอมธรรมดาได้หลายเท่าตัว เนื่องจากเทียนหอมนั้นมีขายกันตั้งแต่ราคาหลักร้อย จนถึงหลักพันบาท ในขณะที่พวกเขาตั้งราคาขายไว้ที่ชิ้นละ 250 ซึ่งคุณธนพลเชื่อว่า ยังสามารถขายแพงได้มากกว่านี้ ถ้ามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นในอนาคต ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนที่สนใจเทียนหอม และยังมองตลาดที่เป็นสปาหรือนวดไทยอีกด้วย โดยเขาสามารถเอาเทียนไปจุดในห้องนวด ซึ่งจะให้แสงที่ไม่สว่างมากนัก และมีกลิ่นที่พิเศษ จากนั้นยังสามารถเล่นสนุกกับลูกค้า โดยหยิบมาทานวดได้ด้วย ซึ่งกลายเป็นจุดขายของร้านอีกด้วย เพราะไม่ได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ทำยาก หรือมีเทคนิคซับซ้อน ในอนาคตก็อาจมีคนลุกขึ้นมาทำเลียนแบบได้

คุณธนพล ได้ฝากข้อแนะนำถึงคนที่อยากลุกมาทำในสิ่งใหม่ ๆ ไว้ว่า “มายด์เซ็ตเป็นเรื่องสำคัญ  โดยเราต้องปรับเปลี่ยนความคิดตัวเองก่อน ต้องศึกษาและเรียนรู้ เข้าใจในข้อจำกัด ซึ่งของทุกอย่างล้วนมีคุณค่าในตัวเอง อยู่ที่ว่าเราจะจับมาวางตรงไหนเท่านั้น  และต้องคิดให้ต่าง ขณะที่ในการทำธุรกิจทำไมต้องมองเรื่องโลกและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น BCG อาจดูเป็นคำใหม่ แต่มันเป็นแค่เรื่องธรรมชาติ แค่เรื่องของความคุ้มค่า ว่าจะทำอย่างไรที่จะไม่ต้องเอาของที่มีไปทิ้งให้เสียเปล่า แต่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เพียงแต่คนอาจจะมองข้ามไปเท่านั้น ซึ่งถ้าทำได้ก็จะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจและโลกเราได้อีกมาก”

ขอบคุณข้อมูลจาก smethailandclub

“ITD Expert Anywhere : แพลตฟอร์มปรึกษาปัญหาสำหรับผู้ประกอบการ โดยผู้เชี่ยวชาญในทุกๆ ด้าน” โดย สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ไม่ว่าธุรกิจคุณจะเป็น SMEs ขนาดเล็กหรือใหญ่ หากมีปัญหา ข้อสงสัย ที่ต้องการปรึกษากับที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งด้านการค้าระหว่างประเทศ และการส่งออก ด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล ด้านการบัญชี การเงิน ภาษี การลงทุน ด้านข้อกฎหมาย การขอใบอนุญาต การสนับสนุนจากภาครัฐ หรือแม้แต่ปัญหาทั่วไป ที่ผู้ประกอบการมีข้อสงสัย แต่ไม่รู้จะปรึกษาใคร เราชาว TOJO NEWS ขอแนะนำ Platform ดีๆ อย่าง ITD Expert Anywhere ที่เปิดให้ทุกท่าน ได้ลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้แอปพลิเคชัน ล่วงหน้า ได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนตาม Link ด้านล่างนี้ และเตรียมพบกิจกรรมดีๆ จาก ITD Expert Anywhere ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

สามารถลงทะเบียนได้ที่ : https://forms.gle/jujLjSokdB34iLJV7
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม : https://expertanywhere.itd.or.th/
Facebook : ITD Expert Anywhere

#SME #SMEThailand #SMEVirtualClinic #ITDExpertAnywhere #ITD
#สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา #DURIAN #DURIANCORP #MakeKnowldegeVisibleandAccessible