News “จิ้งจอกสยาม”เลสเตอร์ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมรองจ่าฝูง”หงส์แดง”ลิเวอร์พูลไปได้ 1-0 ซาล่าห์ พลาดจุดโทษครั้งแรกในรอบ 4 ปี Published 3 ปี ago on ธันวาคม 29, 2021 By Amanee519 Share Tweet และเป็นนัดแรกในรอบ 34 เกมส์ที่ทีม”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้ ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยลงเตะกันเป็นคู่สุดท้ายในเวลา 03:00 น. เวลาประเทศไทย เจ้าบ้าน”จิ้งจอกสยาม”เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านสนามคิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมรองจ่าฝูง”หงส์แดง”ลิเวอร์พูล โดยเกมส์ในนัดนี้ ทั้งสองทีมจัดจัดผู้เล่นชุดใหญ่ เพื่อลงทำศึกบิ๊กแมตซ์กลางสัปดาห์ เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก เป็นเจ้าบ้านเลสเตอร์ ที่ได้โอกาสยิงประตูทักทาย ในนาทีที่ 6 จากจังหวะที่เจมส์ เมดิสัน จ่ายบอลส่งไปให้บูบาการี ซูมาเร่ สับไกยิงด้วยเท้าขวา บอลโด่งข้ามคานออกไป นาทีที่ 8 ทีมเยือนได้โอกาสบ้างเมื่อเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนล เปิดบอลยาวลอยโด่งเข้ามาหน้าปากประตูกองหลังเจ้าบ้านโหม่งสกัด บอลลอยมาเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สันง้างเท้าหวดตูม แต่บอลลอยข้ามคานออกหลังไป นาทีที่ 14 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนล ทุ่มบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาให้เฮนเดอร์สัน ส่งบอลต่อไปให้ซาล่าห์ พยายามเลี้ยงหลบแนวรับเจ้าบ้านจะเข้าไปยิงประตู แต่ถูก เอ็นดิดี้ สกัดล้มลงหน้าปากประตู กรรมการเป่าให้ทีมลิเวอร์พูลได้จุดโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษด้วยตัวเอง แต่ยิงจังหวะแรก บอลไปตรงตัวแคสเปอร์ ชไมเคิล เซฟเอาไว้ได้ บอลลอยโด่งมาเข้าทาง ซาล่าห์โดดขึ้นโหม่งอีกครั้ง ต่อบอลก็ไปชนคานอีก ก่อนที่เจ้าบ้านจะมาเคลียร์บอลออกไปได้ หงส์แดงพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 22 ซิมิคาสพาบอลบุกขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะป้ายบอลต่อไปให้เชมเบอร์เลน ตักบอลโด่งข้ามแนวรับไปหน้าประตูที่เสาแรก เฮนเดอร์สันวิ่งมาพยายามขึ้นโหม่งเปลี่ยนทางบอลแต่ไ่ม่โดน บอลตกลงที่เสาประตู ชไมเคิ่ลยังมาป้องกันเอาไว้ได้ทันนาทีที่ 32 ซาล่าห์ได้โอกาสสับไกยิงระยะจ่อๆ แต่ชไมเคิ่ลก็ยังปัดบอลออกไปได้อีกครั้ง นาทีที่ 35 โอกาสเป็นของเจ้าบ้าน เจมส์ เมดิสันแย่งบอลมาได้ก่อนจะเปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายข้ามมาให้วาร์ดี้ทางฝั่งขวา วาร์ดี้ฝากบอลไว้กับเพื่อนแล้ววิ่งไปรอในกรอบเขตโทษ รับบอลมาแล้วสับไกยิง แต่โฌเอล มาติ๊ป วิ่งตามเข้ามาบล็อคลูกบอลเอาไว้ได้ทันนาทีที่ 38 ซ่าล่าห์เบียดแย่งบอลพลาด ถูกเอ็นดิดี้เตะบอลทิ้งขึ้นหน้า วาร์ดี้วิ่งมาเก็บบอล แล้วลากขึ้นหน้า ก่อนจะจ่ายบอลต่อไปให้เจมส์ เมดิสันที่วิ่งสอดแนวรับหงส์แดงขึ้นมารับบอลหลุดเข้าไปยิง แต่โดนบอลไม่ดี บอลปลิ้นไม่มีน้ำหนัก อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลเตะบอลทิ้งออกมาได้นาทีที่ 43 หงส์แดงได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา อเล็กซานเดอร์-อาร์โนล เปิดบอลลอยโด่งมาหน้าประตู กองหลังเจ้าถินโหม่งสกัด บอลลอยมาเข้าทางเฮนเดอร์สันตั้งป้อมหวดตูมด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเฉียดคานนิดเดียวนาที่ที่ 44 ทีมเยือนเดินเกมส์บุกอีกหน มาเน่เลี้ยงบอลเข้าไปในแดนเจ้าถิ่น ก่อนจะส่งบอลต่อไปให้เชมเบอร์เลนแปะบอลต่อไปให้ออกหลังไปให้อเล็กซานเดอร์-อาร์โนล ทางขวา เทรนต์ตักบอลลอยโด่งมาหน้าประตู แนวรับเจ้าถิ่นพยายามโหม่งสกัด บอลลอยมาถึงโฌต้า สับไกยิงด้วยเท้าขวา บอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อเล่นกันจบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง ในนาทีที่ 54 โฌต้า รับบอลมาจากเชมเบอร์เลน ก่อนจะจ่ายต่อไปให้ซาดิโอ มาเน่ โฉบพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะหวดด้วยเท้าขวาโล่งๆ แต่บอลลอยข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าผิดหวัง อีก 5 นาทีต่อมากลายเป็นเจ้าถิ่นเลสเตอร์ ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ อาเดโมล่า ลุคแมน ได้บอลทีริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วส่งบอลต่อไปให้ คีแรน ดิวสบิวรี-ฮอลล์ จากนั้นเจ้าตัวก็สปีดขึ้นมารอรับบอล แล้วเลี้ยงพาบอลเข้าไปสับไกยิงในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสามุมแคบเข้าประตูไปเจ้าถิ่นในนาทีที่ 59นาทีที่ 80 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวา บอลลอยโด่งมาถึงเสาสองโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ง้างเท้าวอลเลย์แต่บอลแป๊กหลุดกรอบออกหลังไปอีก นาทีที่ 86 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้เปิดบอลจากลูกเตะมุมอีกครั้ง บอลลอยมาหน้าประตู กองหลังเจ้าถิ่นโหม่งบอลทิ้ง มาเข้าทางเจมส์ มิลเนอร์ ที่นอกกรอบเขตโทษ มิลเนอร์ตักบอลเข้าไปใหม่ บอลลอยไปทางเสาสองเข้าทางฟาน ไดจ์ จับบอลแล้วหมุนตัวยิงด้วยเท้าซ้าย ชไมเคิ่ลสกัดบอลด้วยเท้าลูกออกหลังไปนาทีที่ 90+4 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุมอีกครั้ง ทางฝั่งซ้ายอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์เปิดบอลลอยมาหน้าประตู โฌเอล มาติ๊ป เบียดกองหลังเจ้าถิ่นขึ้นโหม่ง แต่บอลก็ข้ามคานออกหลังไปอีกเมื่อเล่นกันจนหมดเวลาการแข่งขัน เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะลิเวอร์พูลได้สำเร็จ เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ลงเตะ 18 นัดมี 25 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ของตารางคะแนน ส่วนลิเวอร์พูล ต้องพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 2 ของฤดูกาล ลงเตะ 19 นัดมี 41 คะแนน เท่ากับเชลซี แต่ประตูได้เสียดีกว่า ยังรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป ภาพจากStatman Dave (@StatmanDave) / TwitterStandard Sport (@standardsport) / TwitterLiverpool FC (@LFC) / TwitterLeicester City (@LCFC) / Twitterhttps://www.facebook.com/ThailandLiverpoolFC/ Share this:TwitterFacebookLineLike this:Like กำลังโหลด... Related Topics:EPLLeicesterCityLiverpoolLiverpoolFCPremier LeagueTOJONEWToJoNewsTojoSportsNewsข่าวกีฬาคิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยมจิ้งจอกสยามพรีเมียร์ลีกพรีเมียร์ลีกอังกฤษฟุตบอลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูลสำนักข่าวโตโจ้นิวส์หงส์แดงเลสเตอร์ ซิตี้โตโจ้นิวส์ Up Next จับตา…จากนี้! ยอดติด โอมิครอน พุ่ง 3 หมื่นคนต่อวัน !! Don't Miss อย่าชะล่าใจ! เตือนคนไทย ต้องรู้ทัน! 10 แก๊งเหล่านี้ ระบาดช่วงปีใหม่!! Continue Reading Advertisement Click to comment You must be logged in to post a comment Login Leave a Reply ยกเลิกการตอบคุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น Advertisement Latest Trending Videos News6 ชั่วโมง ago ด่วน! ไม่รอด!! ออกหมายจับ ”หมอบุญ” พร้อมพวก รวม 9 คน ปมปลอมลายเซ็นลูกสะใภ้ Horoscope6 ชั่วโมง ago รายวันพยากรณ์ ดวงวันนี้ 23 พฤศจิกายน 67 กับ อ.ดีนุ้ย พรหมญาณพยากรณ์ News7 ชั่วโมง ago ปานเทพ ฝากถึงคนใกล้ชิดทนายตั้ม รู้แล้วว่าเป็นใคร ให้รับสารภาพทั้งหมด!! Horoscope2 วัน ago Virtual Mantra ควอนตัมอธิษฐาน ดวงประจำวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 | O2O Horoscope3 วัน ago Virtual Mantra ควอนตัมอธิษฐาน ดวงประจำวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567 | O2O Horoscope13 ชั่วโมง ago Virtual Mantra ควอนตัมอธิษฐาน ดวงประจำวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 | O2O Horoscope4 เดือน ago ดวงความรักที่จะเกิดขึ้นกับคุณ กับ อ.สาธกา พรหมญาณ CLIP4 เดือน ago รางวัลชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นกับคุณ กับ อ.สาธกา พรหมญาณ CLIP4 เดือน ago เรื่องที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วง 7 วันนี้ กับ อ.สาธกา พรหมญาณ
You must be logged in to post a comment Login