บริษัทให้บริการรับส่งชื่อดังจากสิงคโปร์อย่าง Grab (แกร็บ) เตรียมปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนครั้งยิ่งใหญ่ถึง 1,000 คน เพื่อปรับขนาดบริษัทให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวออกมาแกร็บยังไม่ได้เปิดเผยจำนวนที่แน่นอนว่าจะเลิกจ้างพนักงานจำนวนเท่าไหร่ เพียงแต่คาดว่าจะจำนวนมากกว่าปี 2020 ที่ทางแกร็บได้เคยเลิกจ้างพนักงานไป 5% ของบริษัท หรือราว 360 คน ล่าสุด Anthony Tan ซีอีโอของแกร็บ ได้ส่งอีเมลให้พนักงานเพื่อให้รายละเอียดแล้วว่า แกร็บจะ Layoff พนักงานทั้งหมด 1,000 คน เพื่อปรับให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น และเปิดทางให้มีการนำ AI มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนี้แกร็บยังมีเป้าหมายที่จะทำกำไรให้ได้ภายในปีนี้ โดยตั้งเป้าให้อยู่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 ซึ่งเลื่อนเข้ามาจากเป้าหมายแรกที่เป็นช่วงกลางปี 2024 และสำหรับพนักงานที่ถูก Layoff ทั้งหมดจะได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวนครึ่งเดือนสำหรับทุก 6 เดือนที่ทำงานมา หรือตามกฎหมายเงินชดเชยในพื้นที่ดำเนินงาน และยังได้รับความช่วยเหลือในการเปลี่ยนอาชีพหรือหางานใหม่
สำหรับบริษัทเดลิเวอรี่ และอีคอมเมิร์ซในอาเซียน แกร็บถือว่าเป็นบริษัทท้าย ๆ ที่ออกมาประกาศเรื่องการ Layoff พนักงาน เพราะก่อนหน้านี้บริษัท GoTo Group บริษัทคู่แข่งที่ทำธุรกิจรูปแบบเดียวกันจากอินโดนีเซีย และ Sea Group บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee ก็ได้ประกาศลดพนักงานหลายพันคนมาแล้วในปีที่ผ่านมา จึงส่งผลให้ผลประกอบการของทั้งคู่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ Sea ที่พลิกมาทำกำไรได้เป็นครั้งแรกเมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2022
โดยรายงานผลประกอบการของแกร็บ แม้ในไตรมาสแรกของปี 2023 แกร็บจะขาดทุนน้อยลงเหลือ 244 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 423 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่มูลค่ายอดขายและใช้บริการบนแพลตฟอร์มแกร็บยังมีอัตราการเติบโตที่ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด คือ เหลือเพียง 3% ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมปี 2023 จาก 24% ในปี 2022 ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากการที่คู่แข่งสามารถดึงลูกค้าไปได้ด้วยค่าบริการที่ต่ำ และส่วนลดที่น่าดึงดูดมากกว่า
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ
https://today.line.me/th/v2/publisher/102232
#ToJoNews #Grab
