ย้อยรอยหนังผียุค 2000’s ที่จะทำให้ทุกคนกลับไปลุ้นระทึก สหยดสยอง และภาพติดตาไปพร้อมๆกัน

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เนื่องในวันฮาโลวีนแบบนี้โตโจ้นิวส์เลยอยากจะมาแนะนำหนังผีกันสักหน่อย แต่โตโจ้มาทั้งทีบอกเลยธรรมดาไม่ได้ พาเพื่อนๆย้อนวัยกันสักนิดกับ “หนังผียุค2000’s” มากันแบบจุใจถึง 10 เรื่องกันเลยทีเดียว จะมีเรื่องอะไรบ้างไปดูกัน

2001 : ผีสามบาท

เป็นภาพยนตร์ประเภทผีและสยองขวัญ ที่แบ่งออกเป็น 3 ตอนใหญ่ๆ ดังนี้ ท่อนแขนนางรำ น้ำมันพราย และ จองเวร ทำรายได้ไปกว่า 90 ล้านบาท บทภาพยนตร์ในเรื่องนี้ถูกดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นแนวสยองขวัญของ มนัส จรรยงค์ นักเขียนผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาเรื่องสั้นของเมืองไทย”

2002 : 999-9999 ต่อติดตาย

ภาพยนตร์ไทยแนวระทึกขวัญเหนือธรรมชาติจากสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล โดยคอนเซปของเรื่อง คือ “ความอยากรู้อยากเห็น คือ ประตู่สู่ความหายนะ” จะเป็นเรื่องของเบอร์โทรศัพท์ปริศนา “999-9999” ที่ไม่ว่าใครโทรไปก็สามารถได้รับในสิ่งที่เขาปรารถนาได้อย่างง่ายดายแต่ไม่นานก็พรากชีวิตของผู้ที่โทรไปทีละคน สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ไม่เคยมีที่สิ้นสุดของมนุษย์แม้จะมีตำนานเล่าต่อๆกันว่าถึงเรื่องเบอร์มรณะนี้มานักต่อนักแต่ก็ไม่ทำให้ผู้คนเกิดความเกรงกลัวขึ้นเลยกลับยิ่งทวีคูณความอยากรู้อยากลองมากขึ้นเรื่อยๆ

2003 : บุปผาราตรี

ภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญปนตลก และมีเรื่องของความรักเข้ามาเกี่ยว บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดาเพราะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง “รางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 12” สาขา ผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม, กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม สร้างรายได้ไปกว่า 40 ล้านบาท

เป็นเรื่องราวของเจ๊สี่ที่เป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์ต้องการปราบผีสาวตนนึงที่ทำให้ผู้เช่าทั้งหลายหวาดกลัวไปตามๆกัน จนกระทั่งวันนึงมีชายหนุ่มนิรนามหายตัวเข้าไปในห้องของผีสาวตนนั้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรอยากให้ทุกคนกลับไปดูกัน ตอนดูแอดกลัวเรื่องนี้มากกกกก

2004 : ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่โตโจ้เชื่อว่าทุกคนต้องตราตรึงใจกับความหลอน ความภาพติดตา เพราะแอดก็เป็นหนึ่งในนั้น จำได้ว่าตั้งแต่ดูหนังผีของฝั่งไทยมาเรื่อง “ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ” เป็นเรื่องที่แอดกลัวมากที่สุด ภาพติดตามากที่สุด !

เรื่องนี้ไม่ธรรมดาจริงๆเพราะแค่ฉายในประเทศไทยก็ทำรายได้ไปถึง 107.1 ล้านบาท แถมยังได้ขายสิทธิ์ไป 30 ประเทศทั่วโลก และยังได้รับรางวัล 

1. “Best Asian Film” จากเทศกาล Fantasia Film Festi val 2005 ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา 
2. “รางวัลหนังแฟนตาซีที่ดีที่สุด” ในงาน Fantastic’s Arts Festival of Gerardmer ประเทศฝรั่งเศส

2005 : ลองของ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือได้ว่าปังแบบฉุดไม่อยู่จนถึงขั้นนำมาสร้างเป็นซีรีส์ฉายทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 มีทั้งสิ้น 10 ตอน โดยค่ายโฟว์สตาร์ อีกทั้งยังได้รับรางวัล “ดูไม่ดู” กับฉากที่สยองที่สุดในรอบ 10 ปีของวงการหนังไทย จัดขึ้นโดย นิตยสารแฮมเบอร์เกอร์ 

โดยเรื่องราวจะเกี่ยวกับครูสาวเสน่ห์แรงอย่าง “ครูพนอ” ที่ทำให้ลูกศิษย์ต่างหลงไหลในเสน่ห์ของเธอจนทำให้เกิดการทำของใส่ครูพนอเพื่อให้เธอหลงใหล จนทำให้เกิดเรื่องบานปลายขึ้น

2006 : เด็กหอ

เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญที่ได้รับรางวัลมากมายมานับไม่ถ้วน อาทิ

1. รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 28 ประจำปี พ.ศ. 2549 
2. รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 16 
3. รางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 15 และอื่นๆอีกมากมาย 

โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่แน่นแฝ้น ตัวละครหลักในเรื่องนี้คือ “ชาตรี” และ “วิเชียร” ที่ชาตรีเองไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนที่เขาสนิทด้วยไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ชาตรีเองพลีชีพเพื่อช่วยเหลือเพื่อนรักของเขา จนกระทั่งมันถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องบอกลากัน แม้จะเป็นคำบอกลาสั้นๆแต่สายตาแฝงไปด้วยความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง

2007 : บอดี้ศพ 19

เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญแนวจิตวิทยา โดยได้พระเอกชื่อดังอย่าง “เป้ อารักษ์” ที่เรียกได้ว่าแสดงได้ถึงบทบาท ถ่ายทอดทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึกได้ออกมาดีเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้นได้รับถึง 3 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ 

1. การสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม จาก รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 17 ประจำปี พ.ศ. 2550 
2. รางวัลนักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม จาก คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 5 ประจำปี พ.ศ. 2550 
3. นักแสดงหญิงในบทสมทบจากภาพยนตร์ไทยแห่งปี จาก เฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ 5 ประจำปี พ.ศ. 2550  

อีกทั้งยังได้รับเข้าชิงรางวัลต่างๆอีกมากมาย

2008 : โปรแกรมหน้าวิญญาณอาฆาต

เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญโดยผู้เขียนบทเผยว่าให้ “ผี” เป็นตัวตั้งต้นของเรื่องว่าอะไรคือสิ่งที่คนกลัวที่สุดเวลาดูหนังผี พร้อมทั้งยังออกฉายในต่างประเทศอีกด้วย ได้แก่ ฮ่องกง อิตาลี มาเลเซีย เม็กซิโก เปรู สิงคโปร์ ไต้หวัน ตุรกี ทำรายได้รวมต่างงประเทศกว่า 3,716,394 เหรียญสหรัฐ 

2009 : 5 แพร่ง

ภาพยนตร์แนวสยองขวัญถ่ายทอดผ่านหนังสั้น 5 เรื่อง ประกอบไปด้วย หลาวชะโอน ห้องเตียงรวม Backpacker รถมือสอง และ คนกอง ที่มีโครงเรื่องเกี่ยวกับผีและความกลัว เรียกได้ว่าทุบสถิติรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในประวัติศาตร์ของวงการหนังไทยกันเลยทีเดียว ทำรายได้ถึง 113.5 ล้านบาท (เฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล) แถมยังได้ออกฉายในต่างประเทศอีกด้วย อาทิ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และ ไต้หวัน นอกจากนั้นยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ “สตอก โฮล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลฟิล์ม เฟสติวัล” ณ ประเทศสวีเดนอีกด้วย

2010 : แฟนใหม่

เป็นภาพยนตร์โรแมนติก-สยองขวัญที่ต่อมาจากเรื่อง “แฟนเก่า” ที่ผู้สร้างตั้งใจอยากจะให้ผู้ที่เคยชมเรื่อง “แฟนเก่า” แล้วได้มาดู “แฟนใหม่” แล้วรู้สึกสนุกมากกว่าเดิม โดยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักความผูกพันธ์ของตัวละครที่จะพาผู้ชมทุกคนสัมผัสถึงเรื่องราวความรักที่มีรสชาติจัดจ้าน สนุก ตื่นเต้น และได้คิดตามเนื้อเรื่องไปพร้อมๆกับการมีคราบเลือดนิดๆ กับคำถามที่ว่า “รักแท้ คือการแย่งชิง รักไม่จริง คือ การเสียสละ…?” 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ ยังพอจะจำหนังผีในแต่ละปีกันได้มั้ยคะหากใครรู้สึกอยากกลับไปดูหนังผีเก่าๆ หลอนๆ ภาพติดตาสามารถย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ที่โตโจ้แนะนำมานี้ได้ สุดท้ายแล้วเพื่อนๆดูแล้วมีเรื่องไหนที่ประทับใจหรือเรื่องไหนติดตาเพื่อนๆหลอนจนเก็บไปฝันก็อย่าลืมมาแชร์ให้โตโจ้ฟังกันด้วยนะคะ สุขสันต์วันฮาโลวีนทุกคนค่าาา ^^