ล็อกดาวน์มาเลเซียห้ามเดินทาง ข้ามรัฐ

นาย มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกฯ มาเลเซีย ประกาศมาตราการล็อกดาวน์กรุงกัวลาลัมเปอร์กับอีก 5 รัฐนาน 2 สัปดาห์ ห้ามเดินทางระหว่างรัฐ เพื่อหวังจำกัดควบคุมอัตราการระบาดของโควิด-19 

         ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าวันละ 3,000 คนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ นาย มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ต้องตัดสินใจประกาศใช้มาตราการขั้นเด็ดขาดด้วยการสั่งล็อกดาวน์เมืองหลวง กรุงกัวลาลัมเปอร์กับอีก 5 รัฐ เพื่อควบคุมการระบาด

         โดยนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้กล่าวแถลงการผ่านโทรทัศน์มีใจความว่า “ระบบสาธารณะสุขของเรามาถึงจุดที่อาจจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้”

         โดยมาตราการล็อกดาวน์จะเริ่มตั้งแต่เที่ยงวันพุธที่ 13 มกราคม 2564 โดยห้ามชุมนุมทำกิจกรรมทางสังคม ห้ามเดินทางไปมาระหว่างรัฐ แต่ภาคธุรกิจเช่นโรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้าง การค้าและการขนส่ง ภาคการเกษตรและภาคสินค้าสินค้าโภคภัณฑ์สามารถดำเนินการต่อไปได้โดยอาจจะต้องปรับลดขนาดลง

         ส่วนห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร คลีนิครักษาโรค ให้เปิดทำการได้ ส่วนร้านอาหารให้จำหน่ายเฉพาะที่นำกลับไปกินที่บ้านประชาชนในพื้นที่ล็อกดาวน์จะสามารถออกนอกบ้านเพื่อทำกิจธุระจำเป็นเช่นซื้อข้าวของเครื่องใช้ ได้เพียงครัวเรือนละ 2 คน ทำให้มาตราการนี้จะมีผลกระทบต่อประชากรประมาณ 20 ล้านคนจากประชากรทั้งประเทศ 32 ล้านคน

         โดยในขณะนี้ รัฐบาลมาเลเซียกำลังรอวัคซีนสำหรับป้องกันโดวิด-19 ชุดแรกจากไฟเซอร์ ซึ่งได้สั่งจองไว้ 12.8 ล้านโดสโดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยก่อนหน้านี้ ในวันเดียวกันรัฐบาลมาเลเซียเพิ่งประกาศว่าได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์เพิ่มอีก 12.2 ล้านโดส และยังได้ทำการจองวัคซีนจากแอสตราเซเนกา รวมถึงวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ด้วย มาเลเซียมีเป้าหมายว่าจะฉีดวัคซีนโควิดให้ประชากร 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันระดับชุมชน