Connect with us

Business

ในภาวะวิฤติแบบนี้รัฐบาลควรจะมีกระบวนการจัดการ Covid-19 ในภาวะวิกฤติ อย่างไรบ้าง??

Published

on

วันนี้ประเทศไทยเราเรียกได้ว่าเข้าถึงภาวะวิกฤตอย่างมาก หลายคนเกิดคำถามว่า ในภาวะวิฤติแบบนี้รัฐบาลควรจะมีกระบวนการจัดการ  Covid-19 ในภาวะวิกฤติ อย่างไรบ้าง?? 

ซึ่งวันนี้โตโจ้นิวส์ได้รวบรวมประเด็นน่าสนใจจากห้อง Clubhouse “🇹🇭CITY IN CRISIS : มาร่วมฟังกระบวนการจัดการ  Covid-19 ในภาวะวิกฤติ” ซึ่งเป็นห้องที่เอากูรูเก่งๆ ในด้านต่างๆ อย่างเช่น คุณบอม โอฬาร วีระนนท์ , คุณหมู วรวุฒิ อุ่นใจ , คุณโจ พงศ์พรหม ยามะรัต , คุณศรัญญา เสนสุภา มาร่วมคิดร่วมคุยกัน เพื่อหาวิธีการบริหารจัดการในภาวะวิกฤติ  Covid-19 การกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารความสำคัญ การจัดลำดับและอื่นๆ เพื่อนำเสนอ วิธีการต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างหลากหลายและชัดเจน 

เริ่มที่ประเด็นแรก ที่ทุกท่านดูจะมีความเห็นเดียวกัน นั้นก็คือ เรื่องของ Call Center ทุกวันนี้ประเทศไทยเราเป็นประเทศที่มี Emergency Call เยอะมาก เยอะไปหมด เพราะแต่ละหน่วยงานก็อยากจะมีของตัวเอง แต่ขาดสิ่งสำคัญคือการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ รอบข้าง และไม่มีการแชร์ข้อมูลให้ถึงกัน การทำงานซับซ้อน ดังนั้นเวลาคนที่ต้องการความช่วยเหลือโทรไป ก็จะต้องโทรหลายที่ แล้วแต่ละที่ก็ใช้เวลาในการติดต่อนาน บางที่ก็ไม่มีคนรับสาย เนื่องจากบุคลากรไม่เพียงพอต่อคนที่โทรเข้าไป 

ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ และมันเห็นได้ชัดจากสถานการณ์โควิดในตอนนี้ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างหนักในประเทศไทย ประชาชนหลายคนอยากที่จะติดต่อเข้าไปเพื่อหาโรงพยาบาลที่รับตรวจ หรือให้อยู่แต่ไม่สามารถติดต่อได้ บางคนต้องเสียชีวิตภายในบ้านตัวเอง เพราะติดต่อให้คนเข้าไปช่วยหลายรอบแล้วแต่ไม่มีใครเข้าไปเลย

ดังนั้นสิ่งที่พลาดไปก็คือหน่วยงานที่รับมือกับสถานการณ์นี้รัฐจะต้องคิดได้แล้วว่าทำยังไงประชาชนถึงจะสามารถได้รับข้อมูลที่ต้องการโดยเร็วที่สุดได้นั้นคือเราจะพบว่าเราต้องพึ่งพา Digital service มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

เราสามารถที่จะใช้ Digital service ในการจัดคิว รับผลตรวจ หรือการลงทะเบียนฉีดวัคซีน มันจะทำดำเนินการต่างง่ายขึ้นมาก เราควรทำเรื่องนี้ให้เป็น Platform แบบจริงจังได้แล้ว ไม่ใช่แค่การทำขึ้นมาเพื่อโควิดครั้งนี้ แต่ในอนาคตเราอาจจะต้องใช้มันแบบจริงจัง 

หรือแม้แต่การทำ Application ในการเชื่อมระหว่าง อนามัยชุมนม กับฐาน Database กลาง โดยอนามัยชุมนมมีหน้าที่ คือ รายงานว่าตอนนี้มีคนติดบ้างกี่คน เกิดอะไรขึ้น สถานการณ์เป็นอย่างไร รวมรวบแล้วยิงข้อมูลกลับไปที่ Database กลาง เพราะฉะนั้นเราจะรู้ข้อมูลทุกๆวัน หรือทุกชั่วโมง ว่า เตียงพอรึป่าว เกิดอะไรขึ้นบ้างมั้ย ต้องส่งผู้ป่วยไปที่ไหนอย่างไร 

ความจริงในส่วนของนวัตกรรมทั้งหมด คนไทยเรามีอยู่แล้ว มันอยู่ที่ว่าเราจะสามารถรวบรวมเอาสิ่งเหล่านี้ไปต่อยอดได้มากแค่ไหน หรือได้รับการสนับสนุนที่ถูกทางหรือไม่ 

ประเด็นที่สอง การที่รัฐบาลมีแผนรับมือแค่แผนเดียว คือการทำที่ผิดพลาด เพราะผู้นำที่มีความเชื่อมั่นมากเกินไป เลยไม่ได้มีการเตรียมแผนฉุกเฉินไว้ หมายความว่า รัฐบาลควรจะต้องมองไปที่ worst แต่เชื่อว่ารัฐบาลไม่ได้มองไปที่ worst  

ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไป มันจึงไม่ใช่เรื่องของการเตรียมแผนฉุกเฉิน เพราะมันฉุกเฉินไปแล้ว และตอนนี้รัฐบาลต้องทำเรื่องของการเยียวยาชัดมาก และสิ่งที่ยังไม่ได้ทำแน่ๆ ในตอนนี้ และยังสามารถที่จะทำทัน คือเรื่องการจัดการกับสถานที่ทั้งหมดที่เป็นต้นเหตุ ที่เราเรียกว่า คลัสเตอร์ ย้อนกลับไป ตั้งแต่ 1. เรื่องการลักลอบเข้าเมือง 2. บ่อนการพนัน 3. เรื่องโควิดที่ทองหล่อ คลัสเตอร์พวกนี้ล้วนแล้วแต่ไม่จ่ายภาษี เมื่อไม่จ่ายภาษี ปัญหาตอนนี้เรื่องการเยียวยาจะต้องใช้ภาษี เพราะฉะนั้นการจะพิสูจของรัฐบาลที่ดีที่สุดในตอนนี้ ควรเก็บภาษีจากธุรกิจพวกนี้ทั้งหมด 

วันนี้มันอยู่ที่ DO or NOT DO เท่านั้นเองยังไง Action always speak louder than word”

ประเด็นที่สาม หยุดแบ่งฝั่งกันได้แล้ว วันนี้เกมการเมืองใช้ไม่ได้กับวิกฤติที่เราเจอกันอยู่ในตอนนี้ ทุกคนควรมาช่วยกันคิดถึงวิธีรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้แล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะดึงคนเก่งๆ หน่วยงานเก่งๆ มาร่วมกันให้หมด 

รัฐบาลควรจะจับมือกับเอกชนได้แล้ว เพราะยังไงทุกคนยินดีช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่รัฐบาลต้องแสดงให้เค้าเห็นว่า รัฐบาลยินดีสนับสนุน ยินดีให้ความร่วมมือ และให้สิทธิการเป็นผู้นำกับพวกเขา 

ประเด็นที่สี่ประเด็นสุดท้ายก็ คือสิ่งที่ประชาชนตั้งคำถามอยู่ตลอดแต่รัฐไม่เคยตอบได้ นั้นก็คือ

แผนการรับมือต่างๆ ที่ควรจะมีได้แล้ว แต่วันนี้รัฐบาลยังไม่มีแผนนั้นออกมาให้ประชาชนเห็นด้วยซ้ำ อย่างเช่น แผนวัคซีน แผนรับมือในอีก 30 วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร การเตรียมโครงสร้าง การเตรียมทุกๆ อย่างไว้ว่าเมื่อวัคซีนมาถึงปุ๊ป จะจัดการกระจายไปยังที่ต่างๆ อย่างถูกต้อง สิ่งที่ต้องคิดถึงมาก เช่น  เรื่องการ Logistics , เรื่องอุณภูมิที่วัคซีนแต่ละชนิดต้องการ เป็นต้น 

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ วันนี้เราต้องเริ่มเตรียมแล้ว มันไปเตรียมตอนที่วัคซีนมาถึงแล้วมันไม่ทัน 

หรือแม้แต่กระทั่งเรื่องของข้อมูลทั้งหมดควรเป็นระบบข้อมูลกลาง เพราะตอนนี้มันมีแต่คำถามว่า ทำไมคนนี้ได้ ทำไมคนนี้ไม่ได้ คิวคืออะไร ทั้งหมดนี้มันคือเรื่องของกระบวนการสื่อสารที่รัฐขาดไปอย่างมาก 

สุดท้ายนี้ ทีมโตโจ้นิวส์ก็อยากจะขอให้ประเด็นต่างๆ ที่เรารวบรวมขึ้นมานี้ นั้นสามารถส่งต่อไปถึงภาครัฐ ให้ภาครัฐได้รับรู้ถึงสิ่งที่ผู้คนคาดหวัง เพราะเรามีความตั้งใจอย่างมากที่อยากจะช่วยเป็นที่กระจายเสียงให้คนที่อยากส่งเรื่องไปถึงภาครัฐ 

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: