บทสรุปจากการประชุม World Economic Forum 2020 ในประเด็นเกี่ยวกับ อาชีพหน้าที่การงานในอนาคตที่กำลังจะมาถึงในอีก 5 ปี ข้างหน้า
หลายปีมานี้ ท่ามกลางความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นทุกมุมโลก สงครามแย่งชิงทรัพยากร ทำให้บ้านเมืองในหลายๆประเทศถูกทำลาย ผู้คนบ้านแตกสาแหรกขาด อพยพหนีตายไปยังหลายๆส่วนต่างๆของแต่ละมุมโลก แรงงานไฮเทคที่เข้ามาแย่งอาชีพผู้ใช้แรงงานไร้ฝีมือ วิกฤติที่ถาโถมมาแบบไม่รู้ตัวในปี 2020 ทั้งการเกิดโรคระบาดโควิด-19 เศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก ยิ่งสร้างผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมหาศาลทั่วโลก เครื่องบินพานิชย์ต้องหยุดบิน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การขนส่งทางอากาศ ผู้คนตกงาน อาหารเริ่มขาดแคลนเพราะการขนส่งระยะไกลต้องหยุดไปโดยสิ้นเชิง สภาวะเหล่านี้กำลังเป็นที่วิตกว่าจะสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อไปในอนาคต
แต่วิกฤตก็สร้างโอกาสในการเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอดของมนุษย์มาทุกยุคทุกสมัย เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องระดมเครื่องมือทุกอย่างที่มี เพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับผู้คนในแต่ละฟื้นที่ ใช้ภูมิปัญญาที่สั่งสมตกทอดมาในแต่ละสังคม เพื่อสร้างหนทางให้ผู้คนได้กลับมาใช้ชิวิตร่วมกัน เป็นชุมชนที่เข้มแข็งมั่นคง และเอาตัวให้รอดต่อไปได้ในอนาคต
ในการประชุมของ World Economic Forum ในช่วงปลายเดือนตุลาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา เป็นก้าวสำคัญของภาระกิจเพื่อมนุษยชาติในอนาคต การระดมความคิดจากการประชุมทางไกลร่วมกับพันธมิตรจากหลากหลายวงการทั้งหน่วยงานรัฐ นักธุรกิจชั้นนำ ตัวแทนภาคประชาสังคม ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากทุกมุมโลกในภาวะหลังการระบาดของโควิด -19 จะช่วยสร้างหลักหมุดหมายให้เราก้าวต่อไปในอนาคตในโลกยุค นิว นอร์มอล
สาระสำคัญของการประชุมทั้งสี่วันซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 20-23 ตุลาคม 2020 มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนากรอบในการทำงานรูปแบบใหม่ เพื่อกำหนดนวัตกรรมแนวทางแก้ไขปัญหาและเร่งการดำเนินการใน 4 ประเด็นสำคัญได้แก่
1.การเติบโตทางเศรษฐกิจ การฟื้นฟูและการเปลี่ยนผ่าน
ทำอย่างไรเราจึงจะทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในแง่คุณภาพ เหมาะสมกับแนวทางในอนาคต อย่างยั่งยืน โดยครอบคลุมทั้งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศพัฒนาใหม่และประเทศที่กำลังพัฒนา
2.งานค่าจ้างและการสร้างงาน
ต้องลงทุนอะไรบ้างเพื่อสร้างงานใหม่ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตในยุคดิจิทัล ทั้งการทำงานในที่ทำงานแบบเดิมๆและในรูปแบบใหม่ การทำธุรกิจในแนวทางรักษ์โลกแบบพอเพียง แนวทางการดูแลแรงงานในระบบประกันสังคม ก็ท้าทายตลาดการจัการแรงงานในอนาคต
3.การศึกษา การพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เทคโนโลยีดิจิตอลกำลังเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านในตลาดแรงงานอย่างรวดเร็ว โอกาสในการตกงานมีสูงมากขึ้นเพราะมีการใช้อุปกรณ์ไฮเทคมาทำงานแทนคนจริง คนที่อยู่ในระบบการจ้างงานจำเป็นต้องปรับตัว เพิ่มประสิทธิภาพและทักษะการทำงานในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตำแหน่งงานที่มั่นคงในอนาคต
4.ความเสมอภาค ความเท่าเทียมและความยุติธรรมทางสังคม
ในภาวะชะงักงันของระบบเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในปัจจุบัน ทำอย่างไรผู้ใช้แรงงานในระบบจะได้รับโอกาสที่ดีและความยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน รวมไปถึงโอกาสใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในสถานที่ทำงานยุคใหม่แห่งอนาคต
ในอีก 5 ปีข้างหน้า 2025 คนทำงานทั่วโลก ประมาณครึ่งหนึ่งจะต้องปรับตัวเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เนื่องจากทักษะและความรู้เดิมๆที่ต้องใช้ในการทำงานเปลี่ยนไปมากกว่า 40% ของทักษะเดิมๆ
นั่นหมายความว่าคนทำงานทุกคนจากนี้ไปต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ใครเรียนรู้ไม่ได้ ปรับตัวไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ก็มีสิทธิที่จะตกงานในเร็ววัน หรือหมดอนาคตในไม่ช้า
จากการคาดการของการประชุม World Economic Forum 2020 ในส่วนที่เกี่ยวกับอาชีพ การงาน มีข้อมูลว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนการใช้แรงงานไฮเทค หุ่นยนต์อัตโนมัตในการทำงานจะเพิ่มขึ้นอีกจากตอนนี้ อยู่ราว 33% ของงานกลายเป็น 47% ของงานปัจจุบัน แปลว่า งานเดิมที่เคยใช้คนทำจะหายไป และทดแทนด้วย แรงงานไฮเทค หุ่นยนต์อัตโนมัต รวมถึงปัญญาประดิษฐ์จากคอมพิวเตอร์ จะเข้ามาทำแทนคน ลดขั้นตอน ลดเวลา ลดการตรวจสอบ ในการทำงาน
ดังนั้น คนทำงานปัจจุบัน จะต้องทำงานในหน้าที่อื่น โดยใช้ทักษะใหม่ๆ ซึ่งต้องเรียนรู้เพิ่มเติม และต่อไปนี้คือ 10 ทักษะสำคัญที่คนทำงาน จำเป็นต้องมีเพิ่มมากขึ้นใน อีก 5 ปีข้างหน้า
1. การคิดวิเคราะห์ และให้เกิดนวัตกรรม
2. การวางกลยุทธ์ และสร้างการเรียนรู้
3. การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน
4. การคิด และวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึก
5. ความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ และแหวกแนว
6. ความเป็นผู้นำ และมีอิทธิพลต่อสังคม
7. การใช้ เทคโนโลยีในการติดตาม และควบคุมงาน
8. การออกแบบเทคโนโลยี และการเขียนโปรแกรม
9. การปรับตัวได้รวดเร็ว ยืดหยุ่น และรับมือความเครียดได้ดี
10. ความมีเหตุผล คิดอย่างมีแบบแผน ในการรับมือกับปัญหา
ทักษะใหม่บางอย่าง ไม่เคยมีมาก่อน เช่นข้อ 2 การสร้างการเรียนรู้ ในการทำงาน ไม่ใช่แค่ส่งไปนั่งเรียน หรือมีคนมาสอนงาน แต่ต้องมีการออกแบบมาอย่างดี ในเกิดประสบการณ์ในการเรียนรู้ เพื่อสร้างพฤติกรรม และวัฒนธรรมขององค์กร
ครึ่งหนึ่งของทักษะที่คาดหวังว่าคนควรจะเรียนรู้เพิ่มเติม เป็นทักษะเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา รับมือกับปัญหาจากการทำงาน แต่ก็ต้องการความรู้และการจัดการในเชิงลึกมากขึ้น คิดวิเคราะห์ยิ่งกว่าเดิม คนที่เป็นผู้นำ ผู้บริหาร หัวหน้า ก็จำเป็นต้องมีให้ครบทั้ง 10 อย่าง ถึงจะสร้างการแข่งขัน และสร้างผลงานที่ดีได้
ตำแหน่งงานใน อีก 5 ปีข้างหน้า จะเกิดการพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่
10 ตำแหน่งงานที่จะหายไปส่งผลกระทบกับคนราว 85 ล้านคนทั่วโลกเช่น เสมียน บัญชี คนงานในโรงงาน ฯลฯ และ 10 ตำแหน่งงานใหม่ เช่น นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลจำนวนมาก,การตลาดบนแพลตฟอร์มดิจิตอล ที่กำลังเป็นที่ต้องการอีก ราว 97 ล้านคน
หมายความว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจยังต้องการคนทำงานมากขึ้น แต่เป็นตำแหน่งงานใหม่ เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น คนในตำแหน่งงานเดิม จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ข้ามมาทำในตำแหน่งงานใหม่ได้มากน้อยแค่ไหน ใครที่กำลังจะเริ่มเข้าเรียน หรือมองหาความก้าวหน้าในการทำงาน ก็ต้องวางแผนที่จะพัฒนาตัวเองให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงและพร้อมจะรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ในงานรูปแบบใหม่
จากงานวิจัยยังพบว่า การย้ายฝั่งจาก 10 ตำแหน่ง ที่กำลังจะหายไป มาสู่ตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการนั้นต่องใช้เวลาเรียนรู้ อย่างจริงจัง เพียง 2-6 เดือน เท่านั้น ขึ้นกับความรู้พื้นฐานเดิมของแต่ละบุคคล
เวลาอีก 5 ปี จากนี้ ไม่ใช่เวลาที่นานมากนัก เราจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วอีกมากมายใครปรับตัวได้เร็ว ก็รอด และอาจจะเป็นดาวรุ่งในอนาคต ส่วนใครปรับตัวไม่ทัน ก็คงต้องคิดให้ดีว่า ในอนาคตที่เหลือจะมีเวลาเริ่มทำอะไรใหม่ๆ อีกมากน้อยเพียงใด
เครดิตรูปจาก World Economis Forum 2020
You must be logged in to post a comment Login