ภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์ มาเลย์รวบ3 ผู้ต้องสงสัย เอี่ยวบึมราชประสงค์ เชื่อช่วยโยงสืบหาตัวเอ้ (thairath.co.th)
เหตุระเบิดครั้งนี้ เกิดจากระเบิดแสวงเครื่อง จุดระเบิดด้วยระเบิดทีเอ็นที โดยเบื้องต้น
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บประมาณ 70 ราย เสียชีวิต 15 ราย
วันที่ 17 ส.ค. 58 เวลาประมาณ 18.55 น. มีรายงานว่า ได้เกิดระเบิดขึ้น เสียงดังกึกก้อง
พร้อมกับมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ด้านใกล้ศาลพระพรหม เอราวัณ
เขตปทุมวัน กทม. โดยมีรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณสี่แยกดังกล่าวได้รับความเสียหาย
พร้อมกับมีเศษชิ้นส่วนจากการระเบิด ที่หลุดออกจากตัวรถ ตกกระจายอยู่บนฟื้นถนน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกู้ภัย ได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ ทำการปิดกั้นการจราจรทันที
เนื่องจากเกิดการไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจากรถคันที่เกิดระเบิด และเกรงว่าจะเกิดการระเบิดตามมาอีกได้
เบื้องต้น นอกจากรถคันเกิดเหตุ ยังมีรถจักรยานยนต์ล้มกองอยู่กับฟื้น และมีผู้บาดเจ็บหลายคน
มีเศษชิ้นเนื้อที่คาดว่าอาจจะเป็นชิ้นเนื้อของมนุษย์กระเด็นมากองบนถนน
รายงานเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ ปภ. แจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บประมาณ 70 ราย
มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 15 ราย ส่วนสาเหตุของการระเบิดคาดว่าจะเป็นการวางระเบิด
เป็นระเบิดแบบแสวงเครื่อง โดยใช้ระเบิดทีเอ็นทีเป็นตัวจุดระเบิด
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น คาดว่า คนร้ายนำระเบิดซุกซ่อนมาในรถจักรยานยนต์
แล้วมาจอดไว้บริเวณศาลพระพรหม ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น และมีคนอยู่ใกล้กับจุดระเบิด
เสียชีวิตทันทีอย่างน้อย 2 คน
ต่อมาในวันที่ 18 ส.ค. 2558 เวลา 13.20 น. ก็เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งบริเวณท่าเรือสาทร
ใต้สะพานสมเด็จเพราะเจ้าตากสิน เนื่องจากเกิดการระเบิดในน้ำ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ต่อมา ในช่วงบ่ายของวันที่ 29 ส.ค. 2558 ตำรวจและทหารสนธิกำลังเข้าบุกค้นอพาร์ตเมนต์
แห่งหนึ่งย่านหนองจอก และสามารถควบคุมตัวนายอาเดม คาราดัก จากการตรวนค้น
พบอุปกรณ์และวัตถุที่ใช้สำหรับประกอบระเบิดจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกปรายแบบกลม
เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 ซม. ชนิดเดียวกับที่พบจากระเบิดที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทร
และในวันที่ 1 ก.ย. 2558 ในวันที่ 1 ก.ย. 2558 ทหารกองกำลังบูรพา ตำรวจ ทหารพราน
ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตระเวนและสกัดกั้น
การหลบหนีของนายเมียร์ไรลี ยูสูฟู ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดไว้ได้
ขณะกำลังลัดเลาะป่าหลบหนีเข้าประเทศกัมพูชา และนายยูสูฟูสารภาพในเวลาต่อมาว่า
เป็นผู้นำระเบิดไปส่งมอบให้ “ชายเสื้อเหลือง” ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยว่า
เป็นผู้นำระเบิดมายังบริเวณศาลพระพรหมฯ และกดระเบิด
ทางด้านของนายอาเดม หลังจากปฏิเสธมาตลอด ในที่สุด เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558
ก็รับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ต้องหาในดคีลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์
อีกทั้งยังเป็นชาวอุยกูร์โดยกำเนิดด้วย โดยการวางระเบิดนั้นเป็นไปตามคำสั่ง
ของนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน หนึ่งในผู้ต้องหา
ซึ่งเป็นนายหน้าพานายอาเดมเข้ามาในประเทศไทย
วันที่ 24 พ.ย. 2558 อัยการทหารพิจารณาสั่งฟ้องนายอาเดมและนายมีไรลี
ใน 10 ข้อหาหนัก โดยเป็นข้อหาเกี่ยวกับการครอบครอง พกพา และใช้วัตถุระเบิด
การเจตนาฆ่าผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์ รวมไปถึงการเข้าเมืองผิดกฎหมาย
ข้อมูลจาก
You must be logged in to post a comment Login