ต้องบอกเลยว่าในช่วงนี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกผ่อนคลายเวลากักตัวอยู่ที่บ้าน คือการนั่งดูภาพยนตร์บนเก้าอี้ตัวโปรดนั่นเอง และด้วยความที่โรคโควิดเกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้บางคนอาจจะเริ่มกังวลว่า นี่จะเป็นจุดจบของมนุษยชาติรึเปล่า ถ้าถามผม ผมขอบอกว่าอย่าพึ่งเครียดครับ มานั่งดูหนังกันดีกว่า วันนี้ TOJO News ขอแนะนำ 5 ภาพยนต์เกี่ยวกับวันสิ้นโลกให้เพื่อนๆได้ดูกันครับ ผมขอข้ามหนังตลาดที่โด่งดังมากๆอย่าง Armageddon , Deep Impact , I am regend หรือ 2012 นะครับเพราะเชื่อว่าหลายคนน่าจะพอรู้จักอยู่แล้ว ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยยย
Mad Max Fury Road
ภาพยนตร์แอ็กชั่นสุดมันส์ที่มีฉากหลังเป็นโลกที่ล่มสลายแล้ว Mad Max Fury Road เล่าเรื่องของ แม็กซ์ ชายผู้ถูกอดีตตามหลอกหลอน เขาเดินทางเร่ร่อนตามลำพังเพราะคิดว่ามันจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้มีชีวิตรอดในโลกหลังวันโลกาวินาศนี้ แต่แล้วเขากับถูกจับโดยเหล่า วอร์บอย นักรบสงครามลูกน้องของ อิมมอร์ทัน โจ ผู้ครอง citadel ในขณะเดียวกัน ฟูริโอซ่า นักรบหญิงก็ได้ขับ war rigs หนีออกจากการควมคุมของอิมมอร์ทัน โจ อีกทั้งยังพาเหล่าเมียของเขาหนีอีกด้วย แม็กซ์เลยตัดสินใจร่วมมือกับฟูริโอซ่าเพื่อหนีจากเหล่าวอร์บอย เกิดเป็นการไล่ล่าสุดมันส์บนถนนโลกันตร์นั่นเอง
สุดยอดแห่งอภิมหาความมันส์ บอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มันส์ที่สุดตลอดกาลเลยก็ว่าได้ ไล่ล่ากันทั้งเรื่องจริงๆ แต่สิ่ง ที่ทำให้เรื่องนี้สุดยอดคือการเนรมิตฉากแอ็กชั่นสุดเจ๋งโดยแทบไม่ใช้เอฟเฟคคอมพิวเตอร์เลย แทบทั้งเรื่องคุณจะเห็นรถชนกันวินาศสันตะโร จนไม่น่าเชื่อว่าไม่มีใครเสียชีวิตระหว่างการถ่ายทำแม้แต่คนเดียว อีกทั้งฉากหลังยังเป็นทะเลทรายทั้งเรื่อง เข้ากับอารมณ์ของโลกที่ล่มสลายจริงๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดเสียงวิจารณ์อย่างยอดเยี่ยมจากทุกที่ในตอนที่เข้าฉาย อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์แอ็กชั่นไม่กี่เรื่อง ที่สามารถเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้ โดย Mad Max Fury Road เข้าชิง 10 สาขาด้วยกัน และชนะถึง 6 รางวัลเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในปีนั้น แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นภาคที่ 4 ของแฟรนไชส์ Mad Max ที่ 3 ภาคแรกได้ เมล กิ๊บสัน แสดง แต่เพื่อนๆก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะถึงจะไม่เคยดู 3 ภาคแรก ก็ดูรู้เรื่องครับ บอกเลยไม่ผิดหวังแน่นอน
กำกับโดย George Miller นำแสดงโดย Tom Hardy, Charlize Theron, Nicholas Hoult, Hugh Keays-Byrne เข้าฉายในปี 2015
Knowing
ภาพยนตร์ที่มีเนื้อเรื่องสุดแปลกใหม่ และได้นิโคลัส เคจ แสดงนำ Knowing เล่าเรื่องเกี่ยว จอห์น ศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์-ฟิสิกส์ ที่ค้นพบเศษกระดาษที่ถูกเขียนโดยเด็กหญิงปริศนาเมื่อ 50 ปีที่แล้ว โดยในกระดาษนั้นมีตัวเลขมากมายที่ไม่มีความหมายเขียนอยู่ แต่หลังจากวิเคราะห์ข้อมูล จอห์น ก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่าตัวเลขเหล่านั้นได้ทำนาย วันเวลาและจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์หายนะในตลอด 50 ปีได้อย่างแม่นยำ แต่สิ่งที่ทำให้เขายิ่งช๊อค คือตัวเลขได้ทำนายหายนะครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นอีก 3 ครั้ง และครั้งสุดท้ายคือจุดจบของมวลมนุษย์เลยทีเดียว
นี่เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่คุณควรดูจนจบโดยไม่ถูกสปอยล์ก่อน เพราะว่าเนื้อเรื่องคาดการณ์ไม่ได้เลย ระหว่างดู เพื่อนๆจะสงสัยและอยากรู้ที่มาของตัวเลขว่ามันมาจากไหน อีกทั้งยังตั้งตารอว่าจะมีหายนะอะไรเกิดขึ้นต่อไปอีกแน่นอน เป็นอีกเรื่องที่คอหนังภัยพิบัติไม่ควรพลาด
กำกับโดย Alex Proyas นำแสดงโดย Nicolas Cage, Rose Byrne, Chandler Canterbury, Ben Mendelsohn เข้าฉายในปี 2009
This is the End
สุดยอดหนังตลกที่ได้นักแสดงมีชื่อหลายคนมารับบทเป็นตัวเอง This is the End เล่าเรื่องของนักแสดงฮอลลีวูด 6 คน ติดอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง หลังเกิดเหตุภัยพิบัติทำลายล้างในลอสแอนเจลลิส อีกทั้งยังมีคนถูกแสงประหลาดดูดขึ้นไปบนฟ้าอีก พวกเขาต้องอยู่ท่ามกลางเสบียงที่จำกัด แต่ถึงอย่างนั้น สถานการณ์ที่ย่ำแย่และเสบียงที่เริ่มร่อยหรอก็บีบพวกเขาให้ต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก รวมทั้งถูกทดสอบมิตรภาพที่มีต่อกัน พวกเขาจะสามารถรอดไปได้มั้ย แสงประหลาดนั้นคืออะไร ต้องไปดูกันครับ
ตลกและฮามากสำหรับเรื่องนี้ การที่นักแสดงทุกคนมารับบทเป็นตัวเอง และทำอะไรเปิ่นๆบ้าๆบอๆในสถานการณ์วิกฤติแบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ทีเดียว มุขตลกมีทุกแนวเลยครับตั้งแต่ตลกคำพูด ตลกสถานการณ์ แม้แต่ตลกแบบทะลึ่งตึงตังก็มี อีกทั้งยังมีดารารับเชิญเพียบ จะมีใครบ้างต้องคอยสังเกตดูครับ ใครที่อยากคลายเครียดสมอง นั่งดูอะไรเพลินๆ เรื่องนี้ตอบโจทย์ได้แน่นอนครับ
กำกับโดย Seth Rogen, Evan Goldberg นำแสดงโดย James Franco, Jonah Hill, Seth Rogen, Jay Baruchel, Danny McBride, Craig Robinson, Michael Cera, Emma Watson เข้าฉายในปี 2013
Take Shelter
ภาพยนตร์นอกกระแสที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่คุณภาพเต็มเปี่ยม Take Shelter เป็นเรื่องราวของ เคอร์ติส ชายหนุ่มที่มีชีวิตเรียบง่ายกับภรรยาและลูกสาวหนึ่งคน แต่แล้วเขาเกิดฝันร้ายประหลาดซ้ำไปซ้ำมาเกี่ยวกับพายุครั้งใหญ่ที่อาจทำให้โลกเกิดจุดสิ้นสุด เคอร์ติสเชื่อสุดใจว่า นี่ไม่ใช่แค่ฝัน แต่เป็นลางบอกเหตุถึงหายนะที่กำลังใกล้เข้ามา เพื่อรับมือถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เค้าจึงสร้างหลุมหลบภัยไว้ที่บ้านเพื่อปกป้องครอบครัว อีกทั้งยังได้เตือนผู้คนรอบข้าง ปัญหามีอยู่ว่า ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เขาพูดแม้แต่คนเดียว อีกทั้งยังมองว่าเขาเป็นบ้าอีก สรุปแล้วเคอร์ติสมีปัญหาทางจิต หรือว่าจะมีหายนะเกิดขึ้นจริง ไปหาดูกันครับ
ภาพยนตร์เกี่ยวกับวันสิ้นโลกที่ทั้งเรื่องแทบจะไม่เห็นฉากหายนะเลย ฉะนั้นใครที่เข้าไปดู โดยคาดหวังจะเห็นฉากวินาศสันตะโร ก็ขอให้ปรับความคิดใหม่ครับ เพราะโดยเนื้อแท้แล้วนี่คือภาพยนตร์ชั้นดีเชิงจิตวิทยาที่มีการแสดงอันสุดยอดของ ไมเคิล แชนนอน (นายพลซอด ผู้ร้ายเรื่อง Man of Steel) เป็นตัวชูโรง ซึ่งเขาแสดงได้สมจริงมาก ดูเหมือนคนที่ป่วยทางจิต และหวาดระแวงสุดขีดจริงๆ แต่ประเด็นที่น่าสนใจและเล่นกับความคาดหวังคนดูคือ ทั้งหมดเป็นนิมิตหรือปัญหาทางจิตกันแน่ คอหนังสายดราม่าไม่ควรพลาดครับ
กำกับโดย Jeff Nichols นำแสดงโดย Michael Shannon, Jessica Chastain, Shea Whigham เข้าฉายในปี 2011
The road
เช่นเดียวกับเรื่อง Take Shelter ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ดราม่าชั้นดี ที่แทบไม่มีฉากหายนะเลย โดยเรื่องของชายหนุ่มกับลูกชายที่พยายามเอาชีวิตรอดในโลกหลังเหตุการณ์หายนะที่ทำให้มนุษย์เกือบสูญพันธุ์ พวกเขาต้องเร่ร่อนไปตามถนน และต้องคอยหลบผู้คนที่จะมาชิงสิ่งของของพวกเขา อีกทั้งยังต้องระวังพวกมนุษย์กินคนที่หิวโซ ทั้งคู่จะสามารถเอาชีวิตรอดในโลกอันโหดร้ายนี้ได้หรือไม่
ภาพยนตร์เรื่องนี้โชว์ให้เราเห็นถึงสันดานของมนุษย์ที่ว่าถึงแม้จะเกิดเหตุวิกฤต แทนที่ร่วมมือช่วยกันผ่านปัญหา ลึกๆแล้วมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เห็นแก่ตัว ที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดโดยไม่คำนึงถึงชีวิตผู้อื่น เช่นเดียวกับตัวละครต่างๆ ที่ตัวเอกพ่อลูกต้องพบเจอระหว่างทาง ใครที่ต้องการจะดูหนังสบายๆไม่กดดัน ไม่เครียด เรื่องนี้อาจไม่ใช่สำหรับคุณ แต่หากคุณต้องการดูภาพยนตร์ชั้นดีที่สะท้อนจิตใจมนุษย์ ในโลกหลังหายนะละก็ เรื่องนี้เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย
กำกับโดย John Hillcoat นำแสดงโดย Viggo Mortensen, Kodi Smit-McPhee, Robert Duvall, Guy Pearce, Charlize Theron เข้าฉายในปี 2009
You must be logged in to post a comment Login