ภาพจาก https://www.thairath.co.th
พระองค์เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๕
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันของประเทศไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี
พระนามเดิมของพระองค์ เดิมว่า สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรง สุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร ซึ่งเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียว ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
พระองค์ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๕
เมื่อเวลา ๑๗ นาฬิกา ๔๕ นาที ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีสมโภช
เดือนขึ้นพระอู่ขึ้น ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ในวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๕
โดยสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าทรงเป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์
ในเย็นวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๕ เช้าวันรุ่งขึ้น (๑๕ กันยายน) พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วางพระราชภัณฑ์ลงในพระอู่ตามพระราชประเพณี แล้ว พระมหาราชครู
เชิญสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ฯ ขึ้นพระอู่แล้ว พระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทเวียนเทียนครบรอบตามประเพณี สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้จัดขับไม้มโหรีขับกล่อมถวายพระพรในวาระนี้ด้วย
ในการนี้มีการถ่ายทอดเสียงในพระราชพิธีทางวิทยุไปทั่วประเทศ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นในโรงเรียนจิตรลดา
แล้วจึงเสด็จศึกษาต่อที่โรงเรียนคิงส์มีด ที่แคว้นซัสเซกส์
และโรงเรียนมิลฟิลด์ แคว้นซอมเมอร์เซท ที่ประเทศอังกฤษ
จากนั้นพระองค์ได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนคิงส์สกูล ซิดนีย์ และ
สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยการทหารดันทรูน กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย
ภายหลังการเสด็จกลับมาประเทศไทย ทรงรับราชการทหารและ ศึกษาต่อในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ ๔๖ พ.ศ. ๒๕๒๐ และทรงผนวช เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ จากนั้นพระองค์ทรงศึกษาที่คณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รุ่นที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕ และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
จากประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓ ทั้งนี้ พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นพลเอกสามเหล่าทัพด้วยกัน
ได้แก่ พลเอกกองทัพบกไทย พลเรือเอกกองทัพเรือไทย และพลอากาศเอกแห่งกองทัพอากาศไทย
เมื่อรัชกาลที่ ๙ สวรรคตในวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ แล้ว พระองค์จะได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่
แต่ทรงขอผ่อนผัน เนื่องจากทรงต้องการร่วมไว้ทุกข์กับชาวไทย จนกว่าจะผ่านพระราชพิธีพระบรมศพ
ไประยะหนึ่งก่อน ในระหว่างนั้น พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
จึงทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์โดยตำแหน่งไปพลางก่อน
วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดประชุมวาระพิเศษตามรัฐธรรมนูญ เพื่อรับทราบการอัญเชิญพระองค์ขึ้นครองราชย์ และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เดินทางไปอัญเชิญพระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม และพระองค์ทรงรับการอัญเชิญ ทรงให้เฉลิมพระปรมาภิไธยชั่วคราวว่า
“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร”
ต่อมา พระองค์โปรดให้ตั้งพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ พระบรมมหาราชวัง
มีการเฉลิมพระปรมาภิไธยตามพระสุพรรณบัฏว่า
“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”
และมีพระปฐมบรมราชโองการว่า
” เราจะสืบสาน รักษา และ ต่อยอด
และ ครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุข
แห่งอาณาราษฎรตลอดไป “
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระโอรสและพระธิดาตามลำดับการสืบพระราชสันตติวงศ์ ได้แก่
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร
มหาวัชรราชธิดา - หม่อมเจ้าจุฑาวัชร มหิดล
- หม่อมเจ้าวัชรเรศร มหิดล
- หม่อมเจ้าจักรีวัชร มหิดล
- หม่อมเจ้าวัชรวีร์ มหิดล
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
- สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
You must be logged in to post a comment Login