“What’s up, Doc?” In 1940 Bugs Bunny made his official debut with “A Wild Hare”
ภาพจาก https://images.app.goo.gl/42ENUo4Cdkktywu46
โดย บักส์ โผล่ออกมาจากโพรงกระต่าย ทักทาย เอลเมอร์ ฟัดด์ ว่า “What’s Up Doc?” รูปลักษณ์
ที่ปรากฏตัวในตอนนี้ เป็นภาพลักษณ์ของตัวการ์ตูน ที่ได้ถูกพัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้ว
บั๊กส์ บันนี (Bugs Bunny) เป็นตัวการ์ตูนส์ในชุด ลูนีย์ทูนส์ และ เดอะ ลูนี่ตูนส์ โชว์
ซึ่งเป็นการ์ตูนส์ซีรีส์แบบเป็นตอน ๆ เป็นหนึ่งในตัวการ์ตูนส์ ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
บั๊กส์ บอกว่าเขาเกิดในย่าน บรู๊กลิน ในนครนิวยอร์ก
แต่เสียงของ เมล แบลงก์ ซึ่งเป็นผู้ให้เสียงพากย์ของ บั๊กส์ บันนี
เป็นสำเนียงผสมระหว่างคนย่านบร็องซ์กับบรู๊กลิน
จากบันทึกของนักประวัติศาสตร์ ภาพยนตร์ และ การ์ตูน บั๊กส์ บันนี
ปรากฏตัวครั้งแรกใน การ์ตูนสั้นเรื่อง Porky’s Hare Hunt ออกฉายครั้งแรก วันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1938
การ์ตูนนี้กำกับร่วมกันโดย แคล ดัลตัน และ โจเซฟ เบ็นสัน ฮาร์ดอเวย์ (รู้จักต่อมาในชื่อว่า เบ็น ฮาร์ดอเวย์)
โดยตัว ฮาร์ดอเวย์ นั้นมีชื่อเล่นว่า “บั๊กส์”
การ์ตูนเรื่องนี้ ลอกเค้าโครงเรื่องมาจาก Porky’s Duck Hunt ที่ออกมาก่อนหน้าแล้ว
ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1937 กำกับโดย เท็กซ์ เอฟวรีย์ ซึ่งเป็นตอนแนะนำตัวของ แดฟฟี ดั๊ก
แต่ในการ์ตูนเรื่องแรกของ บั๊กส์ บันนี นี้ เป็นเรื่องราว ที่นักล่าสัตว์ พอร์คกี้ พิก
ออกไล่ล่าเหยื่อที่ต๊องๆพอๆ กัน เพราะแทนที่จะหนี กลับอยากที่จะทำให้ผู้ล่านั้นคลั่งเสียสติ
โดยเหยื่อในเรื่องนี้ก็คือ กระต่ายขาวตัวเล็ก และยังไม่มีชื่อ แทนที่จะเป็น เป็ดดำ แดฟฟี ดั๊ก เช่นเคย
การ์ตูนส์ตอนนี้ เมล บลังค์ เป็นผู้พากษ์เสียงของกระต่าย มักจะเปิดตัวด้วยคำว่า“Jiggers, fellers!”
และตามด้วยคำคม (ซึ่งถือเป็นลักษณะบ่งชี้เฉพาะตัวของกระต่ายตัวนี้) ก็คือ
คำที่คัดลอกมาจาก เกราโช มาร์กซ ที่ว่า “Of course, you know, this means war.”
พอร์คกี้ ก็เลยเป็น คู่กัด คนแรกของ บักส์ โดยมีจุดจบคือ ได้เข้าไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มในโรงพยาบาล
เรื่องที่สองที่ปรากฏตัว คือ Prest-O Change-O ออกฉายเมื่อ 25 มีนาคม ค.ศ. 1939 กำกับโดย ชัค โจนส์
โดย บั๊ก รับบทเป็นกระต่าย ของนักมายากลล่องหน แชม-ฟู เมื่อสุนัข 2 ตัว เข้ามาในบ้านตอนที่นักมายากลไม่อยู่เพื่อหลบพายุ กระต่ายก็เริ่มกลั่นแกล้งเจ้าสุนัขทั้งสอง ในเรื่อง บั๊กส์ จูบ สุนัขตัวหนึ่งถึง 2 ครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่บั๊กส์จูบศัตรูของเขา เพื่อสร้างความสับสน และเรื่องนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ บั๊กส์พ่ายแพ้แก่ศัตรู
ในเรื่องที่สาม Hare-um Scare-um ฉายวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1939 กำกับโดย ดัลตัน และ ฮาร์ดอเวย์
ในตอนนี้ กิล เทอร์เนอร์ ซึ่งเป็นผู้วาด ได้ให้ชื่อกับ กระต่ายของเรา โดยเขียน “บั๊กส์ บันนี” ไว้ที่ภาพร่างของเขา
ซึ่งมีความหมายว่า ตัวกระต่ายนี้เป็นตัวการ์ตูนของ ฮาร์ดอเวย์ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรกที่กระต่ายมีสีเป็นสีเทาแทนที่จะเป็นสีขาว เนื้อเรื่องนั้นเป็นเนื้อเรื่องง่ายๆ คือ บั๊กส์ เจอกับนักล่าสัตว์ และ สุนัขล่าเนื้อของเขา
สิ่งที่เด่นในตอนนี้ก็คือ เป็นครั้งแรกที่บั๊กส์ร้องเพลง และแต่งตัวเป็นกระเทยเพื่อล่อหลอกศัตรู
นับจากเรื่องนี้เป็นต้นมา กระต่ายก็ได้ชื่อว่า “บั๊กส์” โดยผู้ตั้งชื่อให้คือ
เหล่าผู้วาดของกลุ่ม “เทอร์ไมท์ เทอเรซ” เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้สร้าง คือ เบ็น บั๊กส์ ฮาร์ดอเวย์
ตอนที่สี่ Elmer’s Candid Camera โดย ชัค โจนส์ ออกฉายในวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1940
ตอนนี้ ทั้ง บั๊กส์ และ เอลเมอร์ ฟัดด์ ได้ถูกออกแบบรูปร่างหน้าตาใหม่ เพื่อง่ายแก่การจดจำของผู้ชม
ตอนนี้เป็นการพบกันครั้งแรกของตัวการ์ตูนทั้งสอง เอลเมอร์ นั้นต้องการเพียงจะถ่ายรูปพื้นที่
แต่ บั๊กส์ก็ทำตัวเองราวกับตกเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ความจริงนั้นทำไปก็เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น
บุคลิกจริง ๆ ของบั๊กส์นั้น ได้ปรากฏครั้งแรก ในเรื่อง A Wild Hare ของ เท็กซ์ เอฟวรีย์
ซึ่งออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 โดยมีบั๊กส์โผล่ออกมาจากโพรงกระต่าย
มาทักทายเอลเมอร์ ฟัดด์ ว่า “What’s Up Doc?” ซึ่งถือเป็นภาพลักษณ์ของตัวการ์ตูน
ที่ได้พัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้ว
บั๊กส์ ได้ปรากฏตัวใน Patient Porky ของ โรเบิร์ต แคลมเพ็ต ซึ่งออกฉายในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 1940
ในช่วงสั้นๆ เพื่อมาประกาศการเกิดของกระต่าย 260 ตัว
การปรากฏตัวครั้งที่ 7 ของบั๊กส์ ในวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 1941 ในชื่อตอน Elmer’s Pet Rabbit
ของ ชัค โจนส์ นั้น เป็นครั้งแรกที่มีการประกาศชื่อของ บั๊กส์ บันนี ให้ผู้ชมได้รับรู้
ตอนนี้เป็นตอนแรกที่บั๊กส์เริ่มได้รับความนิยม เขาได้กลายมาเป็นตัวการ์ตูนหลักใน ลูนีย์ทูนส์
มีภาพลักษณ์ของความใจเย็น ตลบตะแลง ไม่ทุกข์ร้อนอะไรทั้งนั้น อันเป็นลักษณะเด่น
ที่ทำให้เขาได้กลายเป็นที่รักของชาวอเมริกัน ทั้งในช่วงสงคราม และ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ข้อมูลจากบางส่วนของ บักส์ บันนี – วิกิพีเดีย (wikipedia.org)
You must be logged in to post a comment Login