นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมการบิน เป็นผลให้ในเวลาต่อมา ต้องยุติการใช้งานเครื่องบินคองคอร์ดในเชิงพานิชย์ทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2546
เครื่องบินคองคอร์ด (Concorde) เป็นเครื่องบินขนส่งเพื่อการพานิชย์แบบ ความเร็วเหนือเสียง
หนึ่งในสองแบบของเครื่องบินที่มีความเร็วเหนือเสียง สำหรับใช้เป็นเครื่องบินโดยสาร และนำมาให้บริการ
ในเชิงพาณิชย์ เครื่องบินคองคอร์ดต้นแบบเครื่องแรก ใช้เวลาศึกษาวิจัยเป็นเวลา 7 ปี
ก่อนที่จะทดลองทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2512 หลังจากนั้นก็ใช้เวลาทดสอบและพัฒนาอีก 4 ปี
โดยเครื่องบินคองคอร์ดลำแรกออกจากสายการผลิตและเริ่มบินทดสอบเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2516
รวมๆแล้วใช้เวลาตั้งแต่เริ่มโครงการ จนนำมาผลิตเพื่อใช้งานจริง มากกว่า 13 ปี
ใช้เงินในการพัฒนาไปกว่า 1,000 ล้านปอนด์
เครื่องบินคองคอร์ดมีความเร็วปกติ 2,158 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เพดานบินสูงสุด 60,000 ฟุต (18.288กิโลเมตร) มีปีกสามเหลี่ยม
การบินเชิงพาณิชย์ของคองคอร์ด ดำเนินการโดย บริติชแอร์เวย์ (British Airways) และ
แอร์ฟรานซ์ (Air France) โดยเริ่มต้นทำการบินครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2519
และเที่ยวบินสุดท้าย ก่อนที่จะถูกยกเลิก เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2546
โดยปรกติ เที่ยวบิน ลอนดอน-นิวยอร์ก และ ปารีส-นิวยอร์ก ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 3 ชม.
เครื่องบินคองคอร์ด มีข้อจำกัดในการออกแบบด้านพลศาสตร์ โดยที่ส่วนหัวของเครื่องบินจะเชิดขึ้น
ส่งผลให้ทัศนวิสัยของนักบินไม่ดี ผู้ออกแบบได้แก้ไขโดยเพิ่มกลไกปรับส่วนหัวของเครื่องบิน ให้กดก้มต่ำลงมา เพื่อให้นักบินมองเห็นสนามบินขณะเครื่องบินขึ้น และลงจอด ขณะอยู่บนแทกซี่เวย์
ส่วนหัวของคองคอร์ดปรับทำมุมกดได้ 12.5 องศา
เครื่องบินคองคอร์ดถูกผลิตขึ้นมาทั้งสิ้น 20 ลำ เป็นเครื่องที่ใช้ในการพัฒนา 6 ลำ
ใช้งานเชิงพาณิชย์ 14 ลำ ประสบอุบัติเหตุตก 1 ลำ
ข้อมูลทางเทคนิคของเครื่องบินคองคอร์ด
- ผู้สร้าง: บริษัท บีเอซี/แอโรสปาติออง (อังกฤษ/ฝรั่งเศส)
- ประเภท: เครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง ทำการบินด้วยนักบิน 3 คน
จำนวนที่นั่งผู้โดยสาร 128 ที่นั่ง - เครื่องยนต์: เทอร์โบเจ๊ต รอลส์-รอยซ์/สเนคมา โอลิมปัส 593 หมายเลข 610
- กางปีก: 25.60 เมตร
- ยาว: 62.17 เมตร
- สูง: 12.19 เมตร
- พื้นที่ปีก: 358.25 ตารางเมตร
- น้ำหนักเปล่า: 78,700 กิโลกรัม
- น้ำหนักบรรทุกปกติ: 11,340 กิโลกรัม
- น้ำหนักบรรทุกสูงสุด: 12,700 กิโลกรัม
- น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด: 185,065 กิโลกรัม
- น้ำหนักร่อนลงสูงสุด: 111,130 กิโลกรัม
- อัตราเร็วเดินทางขั้นสูง: 2,180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- อัตราไต่ที่ระดับน้ำทะเล: 1,525 เมตร
- เพดานบินใช้งาน: 60,000 ฟุต
- อัตราเร็ววิ่งขึ้น: 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- อัตราเร็วร่อนลง: 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ระยะทางวิ่งขึ้นพ้น 10.7 เมตร: 3,600 เมตร
- ระยะทางร่อนลงจาก 10.7 เมตร: 2,220 เมตร
- พิสัยบิน: 4,900 กิโลเมตร เมื่อมีสัมภารบรรทุกสูงสุด
- พิสัยบิน: 7,215 กิโลเมตร เมื่อบรรทุกเชื้อเพลิงสูงสุด
สถิติการเกิดอุบัติเหตุตกเพียงครั้งเดียวของเครื่องบินคองคอร์ด คือ เที่ยวบิน 4590 ของแอร์ฟรานซ์
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 หลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานใกล้กรุงปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 113 คน
ผลการสอบสวนสรุปว่าสาเหตุการตก เนื่องมาจาก มีชิ้นส่วนโลหะที่หลุดออกมาจากเครื่องบินดีซี-10
ของสายการบิน คอนติเนนตัลแอร์ไลน์ ซึ่งทำการบินขึ้นก่อนไปหน้านั้น 4 นาที กระแทกกับยางล้อด้านซ้าย
ของเครื่องเที่ยวบิน 4590 ขณะกำลังเร่งเครื่องเพื่อบินขึ้น ยางล้อเกิดระเบิดและมีชิ้นส่วนของยาง
กระเด็นไปกระแทกถังน้ำมัน และสายไฟ ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น
ในขณะที่เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินได้แจ้งนักบิน นักบินได้ตรวจสอบแล้วแจ้งว่า
เกิดปัญหากับเครื่องยนต์หมายเลข 1 อีก 4 วินาทีต่อมา นักบินได้แจ้งว่าเกิดปัญหากับเครื่องยนต์หมายเลข 2 ด้วย มีสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้นในห้องนักบิน นักบินพยายามนำเครื่องร่อนลง ที่สนามบินใกล้เคียง
แต่เครื่องบินเสียการทรงตัว ดิ่งหัวลงสู่โรงแรมที่ตั้งอยู่ในละแวกนั้นจนเกิดการระเบิด
ทำให้ผู้โดยสาร 100 คน เจ้าหน้าที่บนเครื่อง 9 คน และแขกผู้เข้าพักในโรงแรม 4 คน เสียชีวิต
เพื่อการสอบสวนหาสาเหตุการตก ได้มีการระงับการบินของคองคอร์ดทุกเที่ยวบิน
ก่อนที่เครื่องบินคองคอร์ดจะกลับมาทำการบินทดสอบอีกครั้งเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2544
และพร้อมทำการบินแบบมีผู้โดยสาร เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544
แต่ความตกต่ำของอุตสาหกรรมการบินหลังเหตุการณ์ 9/11 ทำให้แอร์ฟรานซ์และบริติชแอร์เวย์
ตัดสินใจประกาศยกเลิกการใช้งานเครื่องบินคองคอร์ดทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2546
เนื่องจากมีผู้ใช้บริการน้อยและมีต้นทุนสูง
ข้อมูลจาก Concorde – Wikipedia
คองคอร์ด – วิกิพีเดีย (wikipedia.org)
แอร์ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ 4590 – วิกิพีเดีย (wikipedia.org)
You must be logged in to post a comment Login