เปิดใจผู้ค้าในห้างมาบุญญครอง เงียบเหงาไร้คนเดิน อ่วมค่าเช่า เดินหน้าร้องเรียน

เปิดใจผู้ค้าในห้างมาบุญญครอง เงียบเหงาไร้คนเดิน อ่วมค่าเช่า เดินหน้าร้องเรียน 

หลังจากที่เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ผู้ค้าภายในศูนย์การค้ามาบุญครองได้ออกมาเดินร้องเรียนให้ทางห้างช่วยลดค่าเช่า เพราะว่าได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ก่อนที่จะมีคำสั่งจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องเปิดห้างทุกแห่ง และกลับมาเปิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา 

18 พ.ค. 63 ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์ได้รายงานจากห้างมาบุญครอง ถึงบรรยากาศของการเปิดห้างเป็นวันที่สอง ทีมงานดพูดคุยกับ เจ๊แดง แม่ค้าภายในห้างมาบุญครองถึงสถานการณ์ของศูนย์การค้ามาบุญครอง เจ๊แดงเปิดเผยกับทีมข่าวว่า “ห้างยังเงียบเหงามีเพียงแค่ชั้น 4 เท่านั้นที่ผู้ค้ามาเปิดร้าน เพราะชั้น 4 เป็นโซนสินค้าไอที จะพอมีลูกค้าประจำอยู่บ้าง” 

บรรยากาศที่รอบข้างไร้คนเดิน มีเพียงกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เดินออกมาสอดส่องหน้าร้าน ต่างส่งยิ้ม พูดคุยให้กำลังใจกันเท่านั้น เจ๊แดงเล่าให้เราฟังต่อว่า “เปิดห้างเมื่อวานวันแรกก็ไม่มีคนเลย หายไปจากเดิมประมาณ 95%” 

แม้ว่าบรรยากาศจะเงียบเหงาไม่เหมือนศูนย์การค้าที่อื่นๆ ที่มีคนต่อคิวรอเข้า แต่ทางผู้ค้าภายในห้างมาบุญครองยังคงต่อสู้เพื่อที่จะยืนหยัดทำมาค้าขายภายในห้างแห่งนี้ ด้วยการ เรียกร้องให้ทางศูนย์การค้าลดค่าเช่าพื้นที่ให้ 80% นาน 3-6 เดือน แม้ทางห้างจะออกประกาศยกเว้นค่าเช่าเดือน พ.ค.แล้วก็ตาม

“ถ้าเราอยู่ได้ มีคนเดือน จะให้เราจ่ายค่าเช่าเท่าเดิม เราไม่มีปัญหาหรอก แต่นี่มันไม่มีใครเดินเลย หลายร้านก็ไม่เปิด ทำให้คนไม่อยากมาเดิน ร้านค้าหลายร้านก็อยู่ไม่รอด ถ้าเรารอด MBK ก็รอด” เจ๊แดงกล่าว 

เจ๊แดงยังเล่าให้ฟังถึงเหตุผลที่ต้องร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่องว่า การยื่นหนังสือร้องเรียน ไม่ได้มีเพียงการลดค่าเช่า แต่รวมไปถึงมาตรการที่ชัดเจนในการลดค่าเช่าพื้นที่ เพราะในสัญญาค่าเช่านั้น ไม่ได้มีเพียงค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ยังมีค่าเช่าอื่นๆ เช่นอุปกรณ์ต่างๆ ที่ระบุในสัญญา ผู้ค้าจะต้องจ่ายส่วนไหนบ้าง เพราะค่าเช่าที่ทางห้างออกมาบอกจะลดให้ ครอบคลุมหมดหรือยัง ตอนนี้ยังไร้คำตอบจากทางห้าง เพราะที่ผ่านมาห้างก็ยังตอบไม่ชัดเจน 

นอกจากการร้องเรียนไปยังห้างแล้ว ทางผู้ค้ายังได้มีการรวมกลุ่มกันไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมาอีกด้วย 

ข้อเรียกร้องที่ทางผู้ค้าได้ร้องเรียนไป เมื่อยังไร้ความชัดเจน อนาคตของกิจการก็ค่อยๆเลือนหาย เฮือกสุดท้ายของลมหายใจของพ่อค้าแม่ค้าภายในศูนย์การค้า จะมีผลมากน้อยเพียงใด ก็คงต้องติดตามและเป็นกำลังใจให้ต่อไป เราขอให้กำลังลังกับทางศูนย์การค้าเช่นเดียวกัน ในการจะผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน