ผู้ใหญ่บ้านสาว สละเงินเดือน เปิดครัวทำกับข้าวแจกลูกบ้าน หุงเพียงข้าวรอ

ผู้ใหญ่บ้านสละเงินเดือนตัวเอง เปิดครัวทำกับข้าวแจกลูกบ้านมื้อเย็น ลดการสัมผัส เป็นกำลังใจร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19

นางพรพรรณ แก้วทอง อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านหนองราโพ ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้สละเงินเดือนประจำตำแหน่ง รวมทั้งเงินส่วนตัว ทำกับข้าวมื้อเย็นให้ลูกบ้านรวม 154 ครัวเรือน ไม่ต้องออกไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวมื้อเย็น เพียงแต่หุงข้าวไว้รอเท่านั้น โดยระดมทีม อสม.ในหมู่บ้าน และคนที่มีฝีมือทำกับข้าว มาร่วมกันเปิดครัวชั่วคราว เพื่อทำกับข้าวมื้อเย็นให้ลูกบ้านทุกหลังคาเรือน ซึ่งแต่ละวันก็จะมีกับข้าว 2 อย่าง ทั้งแบบเผ็ด และจืด เสร็จภารกิจตรวจเยี่ยมวัดไข้ลูกบ้านที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัดแล้วมากักตัวอยู่กับบ้านแล้ว ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นคนไปจ่ายกับข้าวจากตลาด และระดมช่วยกันทั้งพ่อครัวแม่ครัวจำเป็น เพื่อทำกับข้าวมื้อเย็น แต่ละมื้อต้องใช้งบประมาณ 2,500-3,000 บาท หรือบางมื้อก็อาจจะกว่า 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับเมนูที่ทำแต่ละวัน จากนั้นช่วยกันตักใส่ถุง แล้วนำใส่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างตระเวนไปส่งให้ลูกบ้านถึงหน้าบ้าน เพื่อให้ทุกคนอยู่บ้านตามมาตรการสาธารณสุข

นางพรพรรณ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนหันมาทำกับข้าวเพื่อช่วยเหลือลูกบ้านเพราะเห็นแล้วว่าสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก รัฐบาลและจังหวัดก็ออกมาตรการออกมา เพื่อให้ประชาชนช่วยกันหยุดเชื้อ ด้วยการอยู่บ้าน เพื่อจะได้เกิดความปลอดภัย จึงไม่สะดวกที่จะออกไปข้างนอก ประกอบกับชาวบ้านขณะนี้ขาดรายได้ เพราะไม่สามารถจะประกอบอาชีพได้ตามปกติ บางครอบครัวลูกหลานซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด และเคยส่งเงินมาช่วยเหลือครอบครัว ก็ถูกสั่งหยุดงาน ก็ต้องถูกกลับมาอยู่บ้าน ทำให้ไม่มีรายได้ ส่วนสวนยางพาราก็อยู่ระหว่างการปิดกรีด ทำให้ชาวบ้านทุกคนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ดังนั้น จึงมีแนวคิดว่าอยากจะมีส่วนช่วยเหลือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนด้วยการเปิดครัวขึ้น ส่วนงบประมาณก็มาจากเงินส่วนตัว เงินพี่ๆ น้องๆ รวมทั้งคนในหมู่บ้านที่ไปทำงานต่างจังหวัดและพอมีกำลัง เห็นว่าตนเองทำแบบนี้ ก็สนับสนุนช่วยเหลือมา กับข้าวมื้อเย็นจะถึงหน้าบ้านในเวลาประมาณ 16.00 น. ของทุกวัน นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านจากจังหวัดอื่น หรือพื้นที่อื่นที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่มีเลขที่บ้านก็จะทำกับข้าวเกินไว้ทุกครั้ง เพื่อแจกจ่ายให้กับครอบครัวเหล่านั้นด้วย

#TOJONEWS #โตโจ้นิวส์