“นักการเมืองไทย” กำลังก้าวเข้าสู่กับดักแห่งอำนาจ ที่โควิด-19 ได้สร้างขึ้น

“นักการเมืองไทย” กำลังก้าวเข้าสู่กับดักแห่งอำนาจ ที่โควิด-19 ได้สร้างขึ้น 

ในขณะที่หลายประเทศทั้งโลกต่างกำลังก้มหน้าก้มตาแก้ไขวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่กำลังทำลายล้างเศรฐกิจอย่างย่อยยับที่สุดนับตั้งแต่มีสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้นำในหลายประเทศต่างแสดงฝีมือในการบริหารจัดการให้ประเทศของตัวเองรอดพ้นจากวิกฤตนี้ให้ได้ เช่นประเทศนิวซีแลนด์ ที่ประกาศชัยชนะจากการจัดการโควิดได้อย่างสิ้นซาก ไม่หลงเหลือผู้ติดเชื้อและไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่นานเกือบสามสัปดาห์ เป็นเพราะผู้นำหญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนายกหญิงที่อายุน้อยที่สุด “จาซินดา  อาร์เดิร์น” ที่ออกประกาศมาตรการล็อคดาวน์ขั้นสูงสูดแม้มีผู้ติดเชื้อเพียงไม่สูงมาก และใช้เวลาเพียงไม่นานตอนนี้นิวซีแลนด์ได้ยกเลิกมาตรการทั้งหมด ยกเว้นการข้ามพรมแดน ให้ประชาชน กิจการ ร้านค้า โรงพยาบาล เปิดบริการและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรฐกิจ แต่อีกหลายประเทศ ผู้นำก็ยังต้องประคับประคองสถานการณ์ของโรคระบาดที่ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

กลับมามองผู้นำประเทศในบ้านเรา แม้จะได้รับคำชมจากทั่วโลกว่าเราเป็นเบอร์ต้นๆ ในความสามารถในการรับมือจัดการกับโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีข้อครหาเกี่ยวกับการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่รัฐบาลอ้างไม่ยกเลิกเพราะยังต้องการควบคุมโรค ในทางกลับกันเศรษฐกิจที่กำลังพังลงเพราะมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลยังประกาศใช้ กลับไม่ได้รับคำตอบหรือแนวทางที่ผู้นำในประเทศจะออกมาแก้ไขให้ประเทศได้เห็นทางสว่างของเศษฐกิจ ยังมีนักการเมืองบางกลุ่มที่ยังมีข่าวโยกย้ายตำแหน่ง แย่งชิงเก้าอี้ เพื่อครอบครองอำนาจออกมารายวัน ที่ต่างจากข่าวโควิต-19 ผู้นำในประเทศกำลังหลงอยู่ในกับดักของอำนาจที่โควิดกำลังสร้างขึ้นหรือไม่?

สุทธิชัย หยุ่น ได้พูดถึงการแก่งแย่งอำนาจของนักการเมืองไทยเป็นเรื่องที่น่าละอายผ่านรายการ “5นาทีกับสุทธิชัย”  COVID-19 จะล้างการเมืองน้ำเน่าไทย การเมืองน้ำเน่ายังมีอิทธิพลของเมืองไทย  โควิด19 กำลังสร้าง New normal การเมืองใหม่ด้วย ประชาชนคนไทยไม่ได้กินแกลบ ไม่ได้โง่ ติดตามข่าวเหล่านี้แล้วก็จะรู้ว่า การยื้อแย่งกระทรวง ตำแหน่ง ครม. กับผลประโยชน์นั้นเป็นเรื่องปกติของการเมือง แต่คนเหล่านี้ไม่ทราบว่าคนไทยตื่นแล้ว  เพราะการเมืองหลังโควิด-19 จะเป็นการเมืองที่วัดกันด้วยฝีมือ การบริหารและวิสัยทัศน์ 

มาถึงเวลานี้ยังไม่มีนักการเมืองที่เป็นข่าวเรื่องยื้อแย่งตำแหน่งกัน ที่จะบอกกับประชาชนคนไทยว่า เขาเหล่านี้จะมีแนวคิดวิธีแก้ปัญหาให้เศรษฐกิจสังคม ความเลื่อมล้ำที่สั่งสม อันเกิดจากโควิด-19 ให้ประเทศอย่างไร เราไม่รู้ด้วยซ้ำไปด้วยว่าเขาเข้าใจความรุนแรงของปัญหาเหล่านี้หรือไม่

ดังนั้น ถ้าเขาเหล่านี้ยังพยายามจะบอกกล่าวกับคนไทยทั้งประเทศว่า พวกเขามีที่นั่งในสภา มีส.ส.อยู่ในค่ายเท่านี้ต้องได้ที่นั่งเท่านี้ นักการเมืองเหล่านี้จะต้องถูกโควิด-19 พ่นพิษใส่ และจะต้องตายต่อหน้าต่อตาประชาชน 

สุทธิชัยยังบอกอีกว่า ปัญหาของโควิด-19 จะหนักมาก หนักกว่าที่ความสามารถ และสติปัญหาของนักการเมืองเหล่านี้จะสามารถแก้ได้ 

จำนวนที่นั่ง ส.ส. คะแนนที่จะยกมือในสภา อาจจะไม่ใช่ตัวกำหนดความชอบธรรมของคนที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารประเทศอีกต่อไป เพราะฉะนั้นทุกท่านที่กำลังแก่งแย่งอำนาจกันอยู่ กรุณาได้มองกระจกของตัวเองแล้วถามตัวเอง ว่าคุณมีความสามารถในการบริหารวิกฤตจากนี้ไปในอีก 3 ปี 5 ปี อย่างไรหรือไม่ แต่ถ้าคุณไม่มีแนวคิด ไม่มีความรู้สึกว่าประชาชนกำลังจะตรวจสอบคุณทุกฝีก้าว คุณกำลังเข้าสู่กับดักแห่งอำนาจ เพราะโควิด-19 ไม่อนุญาตให้คนที่มีแต่ความใฝ่ฝันอยากมีอำนาจ แต่ไม่มีฝีมือ ไม่มีข้อมูล ไม่มีความสามารถในการวิเคราะห์ และนำการวิเคราะห์ไปสู่ภาคปฏิบัติ คนเหล่านี้จะอยู่ไม่ได้