นกแอร์ ยื่นล้มละลาย ตามการบินไทย เพื่อฟื้นฟูกิจการก่อนโควิด-19 หมด ให้พร้อมกลับมาให้บริการอย่างเต็มความสามารถอีกครั้ง
เมื่อวานนี้ (30 ก.ค. 63) สายการบินนกแอร์ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและให้เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เช่นเดียวกับสายการบยินไทยก่อนหน้านี้ เพื่อแก้ไขสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการได้ต่อไป โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2553 มีหนี้สินต่อเจ้าหนี้หลายรายรวมกันเป็นจำนวน 26,522,203,418 บาท
ขณะที่ สำนักข่าวฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า นายวุฒิภูมิ จุฬารกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน นกแอร์ ได้ทำหนังสือยื่นต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรณียื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง พร้อมทั้งชี้แจง 5 สาระสำคัญ ดังนี้…
1. บริษัท นกแอร์ ในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ทั้งนี้ เพราะบริษัทเห็นว่า การฟื้นฟูกิจการนั้นเป็นแนวทางที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับการปัญหาสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราวของบริษัท ภายใต้การกำกับดูแลของศาล เพื่อให้กิจการของบริษัท สามารถดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ
2. การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ บริษัท นกแอร์ ไม่ได้มีจุดหมายในการที่จะเลิก หรือชำระบัญชีบริษัท หรือไม่ได้มุ่งหมายให้บริษัทต้องตกเป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม บริษัทกลับมีความมุ่งมั่นและแน่วแน่เป็นอย่างยิ่งใ นการที่จะดำเนินกิจการต่อไปให้มีความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง เพราะปัญหาในปัจจุบันของบริษัท ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ แต่เกิดจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงสถานการณ์โรคระบาดโควิด19 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อธุรกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้บริษัท เกิดข้อติดขัดและอุปสรรคในการดำเนินกิจการ หากมีการปรับโครงสร้างภายใต้กระบวนการฟื้นฟูอย่างเหมาะสม บริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตก้าวหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน
3. การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัท นกแอร์ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีกฎหมายรองรับและให้ความคุ้มครองแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม และบริษัทยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ตามปกติ ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการให้การบริการขนส่งผู้โดยสาร การขนส่งสินค้า และไปรษณีย์ภัณฑ์ทางอากาศ
4. แนวทางเบื้องต้นของการพื้นฟูกิจการ คือ
4.1 การปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อแก้ไขหนี้สินที่มีอยู่ให้เสร็จสิ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรมและสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท
4.2 การบริหารจัดการกิจการของลูกหนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและสามารถชำระหนี้ได้ตามแผนพื้นฟูกิจการ เช่น ปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบินและปรับฝูงบิน การปรับปรุงกลยุทธ์ด้านการพาณิชย์ และความสามารถในการหารายได้ การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น พัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคล
5. บริษัท นกแอร์ ได้เสนอให้ บริษัท แกรนท์ ธอนตัน สเปเซียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับ นายปริญญา ไววัฒนา, นายไต้ ชอง อี, นายเกษมสันต์ วีระกุล, นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร และนายชวลิต อัตถศาสตร์ กรรมการของบริษัท เป็นผู้ทำแผน
การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการที่จะเปลี่ยนแปลง บริษัท นกแอร์ ไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้โดยสาร ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางการค้า ลูกหนี้ เจ้าหนี้ พนักงาน บริษัทฯ ผู้ลงทุน ประชาชน รวมถึงระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย โดยบริษัท เล็งเห็นแล้วว่าในขณะนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังมีการเดินทางกันไม่มากนัก เพราะการระบาดขอโควิด-19 ซึ่งจะทำให้บริษัท สามารถฟื้นฟูกิจการได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วมากกว่าในภาวะปกติ
ทั้งนี้ บริษัท นกแอร์ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องพื้นฟูกิจการให้สำเร็จก่อนการระบาดโควิด-19 จะยุติลง ซึ่งนั่นหมายถึงบริษัทจะมีความพร้อมอย่างเต็มที่และสามารถให้บริการอย่างดีเยี่ยม เพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ บริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการ รวมถึงความคืบหน้าอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป
You must be logged in to post a comment Login