ขออภัยจากหัวใจ “ผู้กองเบนซ์” พูดถึงคนเจอวิกฤติโควิด-19 เพราะขี้เกียจ

ขออภัยจากหัวใจ “ผู้กองเบนซ์” พูดถึงคนเจอวิกฤติโควิด-19 เพราะขี้เกียจ  ยึดติด คิดลบ ขี้เกียจ ฟุ้งซ่าน

ออกมาขอโทษแล้วด้วยคำพูดนอบน้อม สำหรับไลฟ์โค้ชหรือนักพูดสร้างแรงบรรดาลใจสไตล์เกรี้ยวกราด “ผู้กองเบนซ์” อดีตตำรวจวัย 34 ปี ที่หันมาเป็นไลฟ์โค้ช หลังถูกซัดดราม่าหนักกรณีที่มีคลิปเจ้าตัวพูดถึงคนที่เจอวิกฤติโควิด-19 เพราะขี้เกียจ ไม่คิดทำอะไร ในเพจ ผู้กองเบนซ์ – Capt.Benz  ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2.6 ล้านบัญชี เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้เป็นกระแสของความไม่พอใจเป็นอย่างมาก หลายคนชี้ว่า ทุกคนไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการและมีต้นทุนทางการเงินที่ต่างกัน การกล่าวเช่นนี้จึงไม่ถูกต้องนัก จนทำให้เกิดแฮชแท็กพุ่งขึ้นอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์

ล่าสุดผู้กองเบนซ์ ได้ลดความเกี้ยวกราดออกมาโพสต์ขอโทษจากหัวใจผ่านเฟซบุ๊ก ว่า 

“ถ้าผมได้พูดหรือทำอะไรผิดพลาดไป หรือ กระทบกระเทือนจิตใจใครไปบ้าง

ผมขออภัยทุกท่านจากใจจริงนะครับ และ ขอขอบคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมจะนำไปปรับปรุง และพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ” 

ก่อนหน้านี้ ผู้กองเบนซ์เคยถูกผู้ใช้ทวิตเตอร์วิจารณ์แล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว หลังจากเผยแพร่คลิปที่ตนพูดโจมตีคนที่วิจารณ์พระพุทธเจ้า โดยระบุว่า คนเหล่านี้ไม่ต่างจาก “เดรัจฉาน” ทั้งยังอธิบายผิดว่าคำว่าเดรัจฉาน มาจากคำว่า “เต” (สาม) กับคำว่า “รัจฉาน” (ทางเดิน) ซึ่งที่จริงแล้วคำว่าเดรัจฉาน มาจากภาษาบาลีว่า ติรจฺฉาน หรือแปลว่า สิ่งที่ไปตามแนวขวางหรือขนานกับพื้นโลก

นอกจากนี้ยังมีผู้นำภาพที่อ้างว่าผู้กองเบนซ์โพสต์มาวิจารณ์ด้วย ซึ่งในภาพดังกล่าวมีข้อความว่า “พวกมึงเคยเสียภาษีรึป่าว ไอ้เด็กกะโ_ก” ซึ่งผู้วิจารณ์แย้งว่า ทุกคนเสียภาษีอยู่แล้ว อย่างน้อยก็เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT/GST) ที่คิดเป็น 7% ของสินค้าที่ซื้อไม่ว่าจะเป็นลูกอมหรือขนมขบเคี้ยว

ไม่ใช่แค่นั้น ผู้ใช้ทวิตเตอร์ยังวิจารณ์ผู้กองเบนซ์ในอีกหลายประเด็น อย่างเช่น การใช้คำพูดรุนแรง การดูถูกคนอื่น การบอกว่าตนไม่ยึดติดกับยศใดๆ แต่ยังคงใช้คำว่า “ผู้กอง” นำหน้าชื่อตัวเอง

#TOJONEWS #โตโจ้นิวส์