ไม่มีศัตรูถาวร ! “เจเอสแอล”กลับลำ คืนจอ 7 สี

   วงการ “ทีวีไทย” คึกคักตั้งแต่ต้นปีทีเดียวเชียว กับเรื่องฮือฮา!!! การประกาศจากหนึ่งบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่าง “เจเอสแอล” ในการหวนคืนจอช่อง 7 HD กด 35 อีกครา

ที่บอกว่าฮือฮา!!! เป็นหนึ่งเรื่องเซอร์ไพรส์รับต้นปี เพราะถ้าย้อนกลับไปปลายปี พ.ศ. 2561 ตอนนั้นเป็นข่าวสะเทือนวงการทีวี เพราะหลังจากร่วมงานกันมา 32 ปี ทั้งสองต่างสวมคอนเวิร์สใส่กัน ประเภท ทางใคร ทางมัน 

   มีจุดเริ่มต้นหลังมีกระแสข่าวว่าเจเอสแอลเตรียมโยกย้ายรายการเกมโชว์กึ่งวาไรตี้ยอดนิยม “กิ๊กดู๋ สงครามเพลง เงินล้าน” ไปออกอากาศที่ช่อง PPTV HD 36 จนนำมาซึ่งการที่ช่อง 7 ยกเลิกการออกอากาศรายการดังกล่าวทันที ครั้งนั้น “จำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี” ประธานกรรมการ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ได้แถลงข่าวเปิดใจถึงครหาว่า “ทรยศ” โดยแจ้งว่าสาเหตุที่ต้องแยกทางกับช่อง 7 เกิดจากเรื่องการต้องขายเวลาโฆษณาแข่งกับช่อง 7 ซึ่งไม่มีทางสู้ได้ อีกทั้งยังรวมถึงการขึ้นค่าเช่าเวลาจากทางสถานี ซึ่งยิ่งทำให้บริษัทต้องแบกรับภาระทางธุรกิจไว้จนยากจะประคับประคองต่อไปได้… 

ก่อนที่สุดท้ายรายการทั้งหมด รวมถึงการผลิตละครของเจเอสแอลจะเกลี้ยงจากหน้าจอช่อง 7 และไปปักหลักร่วมงานกับช่อง พีพีทีวี 36  

ผ่านไป 3 ปีเห็นจะได้ มาเป็นข่าวใหญ่อีกรอบ เมื่อเจเอสแอลขอกลับลำมาร่วมงานกับช่อง 7 สีอีกครั้ง ก็ต้องยอมรับว่า การร่วมงานกับพีพีทีวีของเจเอสแอลนั้นถือว่าอาจไม่ตรงไปตามเป้า ทั้งในแง่กระแสและเรตติ้งรายการที่ผลิต การดิ้นกลับมาช่อง 7 ที่เป็นช่องใหญ่อีกรอบ ก็อาจต้องการกลับมาผงาดอีกครา…

เรื่องนี้ “วัชระ แวววุฒินันท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด เปิดเผยถึงการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งกับวิกหมอชิต ว่า “ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่บริษัท เจ เอส แอล  โกลบอล มีเดีย จำกัด ได้กลับมาร่วมงานกันกับช่อง 7HD ที่ผ่านมาเราได้พิสูจน์ผลงาน ด้านการผลิตรายการโทรทัศน์ที่เป็นมืออาชีพ ทำงานร่วมกันด้วยความรู้ใจมาเป็นเวลานาน  ถึงแม้จะห่างหายกันไป แต่เรายังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาตลอด จึงได้รับความไว้วางใจ ให้มาผนึกกำลังสร้างความบันเทิงเสิร์ฟแฟนๆ ช่อง 7HD อีกครั้ง ด้วยผลงานสร้างสรรค์น้ำดี ที่มีคุณภาพสอดคล้องกับเจตนารมณ์ช่อง ในการผลิตรายการบันเทิงสีขาว มอบความสนุกสนานแด่แฟนๆ”

การกลับมาร่วมงานกับช่อง 7 HD อีกครั้งนั้น เจเอสแอล พร้อมเสิร์ฟ 2 รายการบันเทิง เริ่มต้นด้วย “มาลัยไฟท์เตอร์” การเปิดศึกชิงตัวนักร้องที่ร้องดีที่สุดด้วยการคล้องมาลัย โดยมีแขกรับเชิญ 3 คนดังสลับสับเปลี่ยนกันมาเป็นหัวหน้าทีมที่จะเลือกนักร้องเสียงดีจากทางบ้านเข้าทีมด้วยการคล้องมาลัย ซึ่งหัวหน้าทีมต้องช่ำชองในการมองให้ออกว่าใครร้องดี ร่วมด้วย 2 คณะกรรมการร่วมตัดสิน พร้อมทั้งผู้ชมจากทางบ้าน ที่จะมีส่วนร่วมในการตัดสินนักร้องเสียงดีผ่านระบบซูม งานนี้ได้ “วิลลี่ แมคอินทอช” รับบทบาทเจ้าของเวทีแห่งการคล้องพวงมาลัย และรับหน้าที่ดำเนินรายการ รับชมได้ทุกวันเสาร์ เวลา 17.00 น. เริ่มเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565

อีก 1 รายการคือ  “ไมค์คู่ ไม่รู้ใคร” เมื่อเหล่าดาราและนักร้องทั้ง 5 คนต้องจับไมค์ฟีเจอริ่ง โดยที่จะไม่รู้ว่าเพลงที่จะได้ร้องคือเพลงอะไร ไม่รู้ว่าใครจะร้องคู่กับใคร และจะมีคนดวงตก 1 คน ที่จะไม่ได้ร้องกับใครเลย แถมต้องเจอเซอร์ไพรส์มากมาย ซึ่งจะมาในรูปแบบกล่องสุ่มบอกกติกาเพลงต่อเพลง งานนี้ได้พิธีกรคู่เก๋ามากประสบการณ์ ที่รับประกันความสนุกแบบมีเอกลักษณ์ “กิ๊ก”เกียรติ กิจเจริญ กับ “ดู๋”สัญญา คุณากร รับหน้าที่ดำเนินรายการ ติดตามชมได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.00 น. เริ่มอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565

การหวนมาร่วมงานกันอีกครั้ง น่าจับตามองว่า “เจเอสแอล” จะกลับมาผงาดในวงการทีวีได้อีกครั้งหรือไม่ หลัง 3 ปีที่หายไปนั้นค่อนข้างเงียบกว่าที่เคยเป็น

รวมถึงการกลับช่อง 7 อีกหน เจเอสแอลจะได้ผลิตละครเหมือนที่เคยทำหรือไม่

แต่การแตกหักในครั้งก่อน สู่การสมานมิตรในครั้งนี้ บอกได้ดีว่า ธุรกิจก็คือธุรกิจ ตราบใดที่ผลประโยชน์ลงตัว ก็จับมือกันได้เสมอ ตอกย้ำประโยคที่ว่า วงการบันเทิง “ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร” เสมอเสมอ…