โครเอเชีย เจ๋งกว่า บดเอาชนะ โมร็อกโก ไปได้ 2-1 คว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก เป็นสมัยที่ 2

หลังจากเคยทำได้เมื่อปี 1998 ลูก้า โมดริช ประกาศอำลาทีมชาติ ส่วน โมร็อกโก แม้จะจบที่อันดับ 4
แต่สร้างประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ ในฐานะชาติจากแอฟริกาทีมแรกที่ทะลุมาถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงอันดับ 3 ซึ่งลงสนามเตะกันในคืนวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2565
ที่สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม เป็นการพบกันระหว่างทีมตาหมากรุก ทีมชาติโครเอเชีย
และทีมสิงโตจากแอตลาส ทีมชาติ โมร็อกโก

เริ่มเกมส์ในครึ่งแรก เล่นกันมาได้เพียง 7 นาที โครเอเชีย ก็ได้ประตูขึ้นนำเร็ว 1-0 จากจังหวะที่
ลูก้า โมดริช เปิดบอลจากลูกฟรีคิก บอลลอยเข้ามาในกรอบเขตโทษ อีวาน เปริซิช โหม่งบอล
ได้จังหวะแรก บอลลอยโด่งมาเข้าทาง ญอสโก้ กวาร์ดิโอล วิ่งเข้ามาพุ่งโหม่ง ส่งบอล
เข้าประตูไป

แต่โครเอเชีย ก็ขึ้นนำอยู่ได้ไม่นาน ถัดมาอีกแค่ 2 นาที โมร็อกโก ก็ตามมายิงประตูตีเสมอได้ทันควัน
จากจังหวะได้ลูกตั้งเตะ จากนอกกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา โจซิป สตูตาโล่ พยายามโหม่งสกัดบอล
แต่บอลลอยย้อยเข้ามาที่หน้าปากประตู อาชราฟ ดารี วิ่งสอดเข้าไปโหม่งกดบอลลงฟื้นในระยะเผาขน
ส่งบอลไปกองที่ก้นตาข่าย โมร็อกโก ตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 9

เมื่อสกอร์กลับมาเสมอกัน เกมส์ก็กลับมาสู้กันสนุกมากขึ้น ทั้งสองทีมเปิดเกมส์บุกเข้าใส่กันเต็มตัว
โมร็อกโก มีโอกาสพาบอลไปสร้างความหวาดเสียวที่หน้าปากประตูของ โครเอเชีย ได้บ่อยครั้ง
แต่ก็ไม่คมพอที่จะได้ประตูขึ้นนำ

ท้ายเกมส์ นาทีที่ 42 โครเอเชีย ดาหน้าทำเกมส์บุกขึ้นมาทั้งแผง พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษของ
โมร็อกโก หลังจากต่อบอลกันไปมาอยู่ 2-3 จังหวะเพื่อหาช่องเข้าทำ บอลทะลักมาถึง จะไปถึง
มิสลาฟ ออซิช บรรจงปั่นบอลพุ่งโค้ง ลอยไปชนเสาไกล เด้งเข้าประตูไป จบเกมส์ในครึ่งแรก
โครเอเชียขึ้นนำโมร็อกโก 2-1

เกมส์ในครึ่งหลัง แม้ทั้งสองทีมจะยังเดินหน้าทำเกมส์บุกเข้าสู้กันอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสลุ้นประตูทั้งสองทีม
แต่เมื่อเล่นกันจนหมดเวลาการแข่งขัน ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่ม

จบเกมส์ โครเอเชีย เอาชนะ โมร็อกโก ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 คว้าอันดับ 3 ในศึกฟุตบอลโลก 2022
ไปครอง พร้อมรางวัลรวม 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 940.76 ล้านบาท
ส่วนโมร็อกโก ทีมอันดับ 4 รับเงินรางวัลไป 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 871 ล้านบาท