“เบื้องหลังเคล็ดลับสำเนียงกีตาร์ใน 10 เพลงดังของ Van Halen”

 “เบื้องหลังเคล็ดลับสำเนียงกีตาร์ใน 10 เพลงดังของ Van Halen”

การปรากฎตัวของวงร็อคอย่าง แวน ฮาเลน ในช่วงปลายๆยุค 1970’s สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการเพลงร็อคทั่วโลก ด้วยลีลาการร้องที่เซ็กซี่ ยียวน กวนบาทา ของ เดวิด ลี ร็อธ เสียงกลองที่หนักแน่น มั่นคง ของ อเล็ค แวน ฮาเลน เสียงเบสที่คึกคัก สนุกสนาน ของ ไมเคิล แอนโธนี่ ก็สอดรับกลมกลืนกับทุกจังหวะหวดกลอง และที่ขาดไม่ได้ก็คือ สุ้มเสียงกีตาร์ที่สดใหม่แปลกหูชาวร็อคในยุคนั้น พร้อมทั้งเทคนิคการเล่นกีตาร์ที่แพรวพราว ดูตื่นตาตื่นใจ  ส่งแรงบันดาลใจให้กับมือกีตาร์เพลงร็อครุ่นแล้วรุ่นเล่าของ เอ็ดดี้ แวน ฮาเลน นับตั้งแต่อัลบั้มแรกที่ชื่อ Van Halen ได้ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1978  เพลงของ แวน ฮาเลน ก็ได้รับการจารึกลงหน้าประวัติศาสตร์ดนตรีร็อคอย่างเป็นทางการ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในวง เปลี่ยนตัวนักร้องนำ กลับไปกลับมาอยู่หลายรอบเปลี่ยนตัวมือเบส แต่ แวน ฮาเลน ก็ยังมีผลงานต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอด 40 กว่าปีมานี้อัลบั้มล่าสุดของวงได้แก่ A Different Kind of Truth ออกวางจำหน่ายในปี 2012

แต่แล้วเมื่อ 6 ตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา แฟนเพลงทั่วโลกแทบช็อคเมื่อมีการประกาศข่าวการเสียชีวิตของ เอ็ดดี้ แวน ฮาเลน มือกีตาร์ คนแต่งเพลง ร้องนำ/ร้องประสาน ผู้ร่วมก่อตั้งวง แวน ฮาเลน ร่วมกับพี่ชาย อเล็ค แวน ฮาเลน อนิจจา..โลกได้สูญเสียยอดมือกีตาร์ไปอีกคนนึงแล้ววันนี้จะขอพาทุกท่านทั้งแฟนพันธุ์แท้และแฟนรุ่นใหม่ของวง แวน ฮาเลน ไปรับรู้เบื้องหลังเพลงดังของวง 10 เพลง มาเจาะลึกกันว่าแต่ละเพลงถูกรังสรรค์ขึ้นมาขึ้นมาด้วยกรรมวิธีแบบไหน จึงได้ฮิตติดลมบนมาจนถึงทุกวันนี้และที่สำคัญคนที่จะมาเปิดเผยรายละเอียดในครั้งนี้คือ เอ็ดดี้ แวน ฮาเลน ตัวจริง เสียงจริง 

เชิญติดตามอ่านกันได้เลย

1.Eruption 

Album : Van Halen (1978)

ผมชอบเสียงกีตาร์แบบในเพลง Eruption มาก มันฟังไม่เหมือนเสียงกีตาร์ เสียงเหมือนเครื่องดนตรีจากวงคลาสสิคมากกว่า แถมเบื้องหลังมันก็ออกจะพิลึกกึกกืออยู่สักหน่อย  แถมเพลงแบบนี้ก็ไม่ใช่แนวของ แวน ฮาเลน 

เรื่องมีอยู่ว่าตอนนั้นเรากำลังทำเพลงลงอัลบั้มกันอยู่ วันนึงผมมาถึงสตูดิโอบันทึกเสียงเร็วกว่าปรกติ ก็เลยเริ่มซ้อมมือเล่นกีตาร์ เพราะสุดสัปดาห์ที่จะถึง มีงานต้องเล่น ก็เลยตั้งใจซ้อมลูกโซโลกีตาร์เป็นพิเศษ

จู่ๆ โปรดิวเซอร์ของเรา เท็ด เทมเพิลแมน ก็โผล่มาแล้วเดินเข้ามาถามว่า

“เพลงอะไรเนี่ย อัดเสียงเก็บไว้เลยดีกว่า พวก !!!”

ผมก็เลยเล่นเพลงนี้อยู่สองสามรอบ เพื่อบันทึกเสียง แล้วก็เลือกเอาไว้เทคนึงซึ่งเท็ด และ แลนดี้(ดอนน์ แลนดี้ ซาวด์ เอนจิเนียร์) ชื่นชอบเพราะเพลงฟังกลมกลืน ลื่นไหล 

ตอนนั้นทุกคนที่เหลือก็เห็นว่า เพลงนี้เสร็จแล้ว ทำเพลงอื่นกันต่อดีกว่า !!! ตอนหลังพอมาฟังเพลงนี้ ก็เลยรู้ว่าผมเล่นเพลงนี้พลาดไปหลายจุด โดยเฉพาะช่วงที่เล่นลึกเข้ามาในคอกีตาร์ ผมได้แต่รำพึงกับตัวเองว่า แหม่..เอ็งน่าจะเล่นได้ดีกว่านี้นะ เอ็ดดี้ !!!!

ท่อนท้ายของเพลง ผมเล่นกีตาร์ผ่าน Univox Echo Chamber ด้านในเครื่องมีเทปแบบ 8 แทรคอยู่ทำให้เราปรับอัตราการเล่นเสียงซ้ำได้ โดยปรับที่ความเร็วของมอเตอร์หมุนเทปไม่ใช่ที่หัวอ่านเทป ดังนั้นถ้าเล่นโน้ตด้วยความเร็วเกินกว่าที่มอเตอร์จะหมุนได้ทัน สักพักมันก็ส่งกลิ่นฉุนๆและมอเตอร์ก็จะไหม้

อัลบั้มแรกของเราใช้งบโคตรถูก เรียกได้ว่าต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์เลยล่ะ ทั้งบันทึกเสียง มิกซ์ และทำมาสเตอร์ใช้งบแค่ 46,000 เหรียญดอลล่าร์ บอกไปใครจะเชื่อ ใช่ไหมล่ะ 

ในสมัยนั้นจะทำเพลงอัลบั้มๆนึงอย่างน้อยๆก็ใช้งบราวๆ 150,000 – 200,000 เหรียญดอลล่าร์ แถมในยุคนั้นบางวงอย่าง Fleetwood Mac และ Boston ใช้เวลาทำอัลบั้มกันทีนึง 3 ปี มันต้องใช้งบเท่าไหร่คุณน่าจะคำนวณได้นะในเพลง Eruption เราเล่นกันสดๆ เหมือนกับเพลงอื่นๆในอัลบั้มชุดแรก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่วงได้บันทึกเสียงกันในสตูดิโอ ก่อนหน้านั้นสักปีนึงเราเคยร่วมงานกับ จีน ซิมมอน แห่งวง คิส ซิมมอน ช่วยเราทำเพลงตัวอย่าง 3 เพลง ก็มีเพลง Runnin’ with the Devil, House of Pain แล้วก็เพลงที่เรารักมากเพลงนึงชื่อ Don’t Leave Me Alone 

อาจจะเป็นเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสบันทึกเสียงกันในสตูดิโอจีน ซิมมอนเลยสอนเราเรื่องบันทึกเสียงว่า “ก่อนอื่น นายก็เล่นกีตาร์ริธึ่ม บันทึกเอาไว้ก่อน แทรคนึง จากนั้นนายค่อยบันทึกเสียงกีตาร์โซโล่ลงไปอีกแทรคนึง”

ผมแม่งรู้เลยว่าไม่ชอบการบันทึกเสียงซ้ำๆกันภายหลังแบบ Overdubbing เพราะจำได้ว่ารู้สึกอึดอัดที่ต้องแบ่งการเล่นกีตาร์ทั้งในส่วนเล่นโซโลและส่วนริธึ่มออกจากกัน เพราะยังไงตอนเล่นบนเวทีผมต้องเล่นมันไปควบคู่กันอยู่แล้วตามทางเดินคอร์ดของเพลงดีที่ไม่ถึงขั้นต้องให้ออกปากบอกว่า “ขอเล่นแบบที่ต้องเล่นสดบนเวทีได้ไหม”

แต่ในท้ายที่สุดเทปตัวอย่างที่เราทำก็ไม่ได้ใช้งาน เพราะหลังจากบันทึกเสียงกับ จีน เสร็จ เราไปพบ บิล อูคอย ผู้จัดการวงคิสที่ออฟฟิศของเค้า บิล สวมรองเท้ามันปราบบอกเราว่า”เพลงของพวกนายไม่มีจุดขายว่ะ แถมตอนนี้งานอั๊วก็งานล้นมือ เพราะเพิ่งเซ็นสัญญากับวง Piper (มีBilly Squierเป็นสมาชิกหลัก)”

“ตอนนั้นโคตรผิดหวัง รู้สึกแม่งต่ำต้อยด้อยค่า จีน ให้เงินค่ารถกลับบ้าน 200-300 เหรียญ เราเลยกลับไปเล่นดนตรีประจำที่ The Whisky แล้วก็ที่ The Starwood ใน ลอสแอนจิลิส อยู่เป็นปี ก่อนที่จะมาเจอและได้เซ็นสัญญากับ Warner Bros.

2. Ain’t Talkin’ ‘Bout Love 

Album : Van Halen II (1978)

เป็นเรื่องงี่เง่าเต่าตุ่น เพราะเดิมทีเราจะทำเพลง Ain’t Talkin’ ’Bout Love เพื่อล้อเลียนเพลงพั้งค์ร็อค ทั้งเพลงมีแค่ 2 คอร์ด แต่ตอนท้ายๆเพลงก็ฟังไม่เหมือนเพลงพั้งค์สักเท่าไหร่ แต่ก็จงใจให้เป็นแบบนั้นแหละ

ผมเพิ่มเสียงโซโลด้วย ซีตาร์ไฟฟ้า น่าจะยี่ห้อ Coral ของโหลราคาถูก ดูเผินๆก็คล้ายยี่ห้อ Danelectro ผมก็ไม่รู้ว่าเสียงมันเหมือนซีตาร์ของจริงไหม เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน เสียงมันคล้ายๆเวลาเล่นกีตาร์แล้วสายกระทบเฟรตอยู่ตลอดเวลา สุดจะพิลึกพิลั่น

3. Dance the Night Away

Album : Van Halen (1978)

เคยเล่นริฟฟ์เพลงนี้กับพรรคพวกในวงมาก่อน แต่พวกนั้นก็ไม่ชอบ พอเล่นให้ เท็ด ฟังเค้าก็ชอบมันมาก เราก็เลยเอาเพลงนี้มาทำต่อเป็นเรื่องเป็นราวในสตูดิโอ

เพลงต้นแบบจะต่างจากเวอร์ชั่นนี้นิดหน่อย ชื่อเพลงไม่ใช่แบบนี้แต่เพื่อตัดความรำคาญเราเลยเรียกมันว่า Dance the Night Away ประชดกระแสคนบ้าเห่อเรื่องเพลงเต้นรำในยุคนั้น

ตอนทำอัลบั้มที่สองจำได้ว่ามันกดดันมหาศาล ตอนนั้นเราออกทัวร์ที่อังกฤษเพื่อสนับสนุนอัลบั้มชุดแรก เป็นครั้งแรกที่ต้องเรียกสมาชิกในวงมาประชุม กันเพื่อแจ้งว่า “ให้ตายเถอะ เราจำต้องทำอัลบั้มใหม่อีกชุดนึง ต้องเริ่มลงมือกันเลยหลังจากจบแต่ละโชว์ แล้วมาดูว่าเราจะได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันรึเปล่า”

งานเข้าสิทีนี้ เพราะเราไม่เคยทำเพลงกันด้วยแนวคิดสดใหม่แบบนี้มาก่อน วิตกจริตไปหมดว่า ตัวเพลงมันแม่งจะห่วย แล้วพลอยทำให้อัลบั้มเจ๊งไปด้วย

เราใช้วิธีการบันทึกเสียงเหมือนตอนทำอัลบั้มชุดแรก ขนอุปกรณ์ทุกอย่างไปรวมกันที่ห้องโถง แล้วก็เริ่มต้นบันทึกเสียง โคตรถูกใจกับเพลงที่ออกมาแต่ละเพลง ฟังแล้วรู้เลยว่าเป็นเสียงของ แวน ฮาเลน แต่ทรงพลังมากกว่า

4. And the Cradle Will Rock

Album : Women and Children First (1980)

ผมเล่นริฟฟ์เพลงนี้กับ อัล(อเล็ค แวน ฮาเลน มือกลอง ,พี่ชาย) วันละสองชั่วโมง เล่นกันอยู่ร่วมสองสัปดาห์ ยังคิดอยู่ว่ากูจะเล่นทำไมวะเนี่ย ฮ่า ฮ่า เพราะเพลงแม่งฟังดูโหดร้ายน่ากลัว แล้วก็ไม่รู้อีท่าไหน อยู่ๆก็ได้ท่อนประสานมา  ทำให้เพลงฟังเป็นเพลงขึ้นมาหน่อย 

บางครั้งก็ต้องลงมือลงแรงเพื่อสร้างสิ่งดลใจ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นภาระเพราะผมกับอัลชอบเล่นแจมกันอยู่แล้ว

สำหรับท่อนโซโลเพลงนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะก่อนหน้านี้ผมเพิ่งได้ฟังมือกีตาร์ที่เจ๋งมากอย่าง อลัน โฮลด์สเวิร์ธ มา ผมจะเล่นลิคค์เป็นท่อนสั้นๆปล่อยมันไหลมาเองตามที่ควรจะเป็น เทคเดียวจบ  เพลงทั้งอัลบั้มนี้ส่วนใหญก็อัดแบบเทคเดียวจบ

และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นเครื่องคีย์บอร์ดบันทึกเสียงในสตูดิโอ แต่หลายคนอาจจะฟังไม่ออกเพราะเสียงมันฟังไม่เหมือนเสียงคีย์บอร์ด !!!!           

ผมใช้เปียโนไฟฟ้าเก่าแก่ตัวนึงยี่ห้อ Wurlitzer โดยต่อมันผ่าน MXR flanger แล้วเสียบมันเข้ากับตู้แอมป์มาร์แชล เพื่อให้ได้เสียงประหลาดๆพิลึกกึกกือ

เท็ดถึงกับอุทานว่า เสียงห่าอะไรวะเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมบอกว่า”ฝีมืออั๊วเองว่ะ ฮา ฮา ” เราเลยบันทึกเสียงกันเอาไว้ด้วย พรรคพวกในวงพากันบอกว่า อย่าให้เอ็ดดี้แม่งยุ่งกับคีย์บอร์ดอีกนะ ฮา ตอนเล่นสด ไมค์ (ไมเคิล แอนโธนี มือเบส)เลยต้องเล่นแทน เค้าไม่อยากให้กีตาร์ฮีโรเสียภาพพจน์ เพราะเล่นคีย์บอร์ดเพี้ยนๆบนเวที ฮ่า ฮ่า 

อัลบั้มนี้จะทำให้แฟนเพลงได้เผชิญความท้าทายเพราะมีเพลงอย่าง Women and Children First เพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม แล้วก็เพลงอย่าง Could This Be Magic and In a Simple Rhyme

ใครๆมักจะบอกว่าอัลบั้ม Fair Warning เป็นอัลบั้มที่พิลึกเพราะหน้าปกอัลบั้มมันดูประหลาด แต่ตัวเพลงก็ว่ากันไปตรงๆซื่อๆ

เรื่องความพิลึก ผมว่าอัลบั้ม Women and Children First  แม่งพิลึกกว่าเยอะ.

5. Unchained 

Album : Fair Warning (1981)

ผมแม่งโคตรรักเพลงนี้ เป็นหนึ่งในเพลงที่เมื่อย้อนมาฟังตัวเองเล่นกีตาร์แล้ว ขนลุก !!!

อัลบั้ม Fair Warning เป็นอัลบั้มที่ผมแม่งชี้นิ้วบงการทุกอย่างที่อยากทำ เมื่อก่อนเราจะช่วยกันคิด แต่ชุดนี้เป็นเรื่องของผมกับพรรคพวกในวงที่เหลือ

จำได้ว่าครั้งนึง ลงมาสตูดิโอตอนตี 4 พร้อมกับ ดอน (ดอน แลนดี้) ซาวด์เอนจิเนียร์คู่ใจ เพื่อบันทึกเสียงใหม่อีกครั้งในแบบที่ผมอยากได้

เมื่อพรรคพวกมาที่สตูดิโอในวันถัดมา พวกนั้นอุทานว่า “เฮ้ย เแม่งเยี่ยมมาก นายอัดเสียงตอนไหมวะเนี่ย”

ฟังแล้วเหมือนเห็นแก่ตัว แต่ต้องทำเพื่อให้ได้อย่างที่ต้องการ.

ตอนนี้ขอว่ากันแค่ 5 เพลงก่อน เพลงที่เหลือเดี๋ยวมาเหลาให้ฟังใหม่

โคตรเศร้าที่เอ็ดดี้จากเราไปแล้ว ได้ฟังเพลงเหล่านี้อีกครั้งยิ่งคิดถึงว่ะ เอ็ดดี้ 

 เรียบเรียงโดย

อมาณี๕๒๔๘

ข้อมูลจาก

https://www.guitarworld.com/features/eddie-van-halen-10-tracks