“หงายการ์ดยอดฮิต” ของข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น ของเหล่าคดีที่สังคมสนใจ

ข่าว 5 ครู กับรุ่นพี่อีก 2 ข่มขืนนักเรียนนานนับปี เป็นที่ฮือฮาและสลดเป็นอย่างมาก แม้คดีนี้ศาลยังไม่ได้ตัดสิน ก็มีเสียงจากฝั่งของคนใกล้ชิดผู้ต้องหาออกมาให้สัมภาษณ์ แสดงความเห็นใจผู้ต้องหามากมาย ทั้งครู นักเรียน ญาติ และคำที่ได้ยินบ่อยๆ คือ “คนดี”

ฟังแล้วอยากจะพูดคำว่า “แหมมมมม……” ไปจนถึงดาวอังคาร คำว่า “คนดี” นี้เป็นคำที่ใช้ปกป้องและแสดงความเห็นใจให้กับผู้ต้องหาที่กำลังถูกสังคมรุนประนามกับการกระทำมาอย่างมากมาย วันนี้เราจะมารวบรวมเอา “ข้ออ้าง” ของเหล่าผู้กระทำผิดที่มักถูกใช้ปกป้องความผิดของตัวเอง

ลูกฉันเป็น “คนดี”

เป็นประโยคที่ฟังทีไรก็ต้องถอนหายใจแล้วกรอกตามองบนทันที พ่อแม่ที่ลูกกำลังถูกใส่กุญแจมือไม่ว่าจะข้อหาอะไรก็ตาม มักออกมาแสดงความรักต่อลูกที่กำลังคอตกเตรียมเข้าคุกว่า “ลูกฉันเป็นคนดี” ตั้งใจเรียน ช่วยพอแม่ทำมาหากิน พร้อมกำน้ำตาที่เสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัว

รู้เท่าไม่ถึงการณ์

ประโยคสุดฮิตที่ต้องให้คะแนนเต็ม 10 ไม่ว่าคดีเล็ก คดีใหญ่ เรื่องดราม่าใดๆ ในสังคมออนไลน์ จำเลยต้องออกมาอัดคลิปร้องไห้สะอื้น แล้วยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมประโยคนี้ว่า “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” แม้จะฟังดูเป็นข้ออ้างที่ไร้วุฒิภาวะ แต่ถือว่ายังเป็นประโยคที่ใช้ป้องกันตัวเองได้ดีจากเรื่องดราม่าต่างๆ 

ภาพตัดต่อ

มาถึงคิวของข้ออ้างทางเทคนิคที่ดูล้ำสมัย จะเป็นภาพหลุดดารา นักการเมืองที่ถูกโจมตี ทั้งภาพ คลิป และเสียง ซึ่งข้ออ้างนี้ อาจจะไม่ได้ผลเท่าไหร่นักเนื่องจากสามารถตรวจสอบได้ จากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แต่ถ้าเรื่องราวไม่ได้เป็นคดีใหญ่โตขนาดต้องฟ้องร้องขึ้นศาล ก็มักเอาข้ออ้างนี้มาใช้ ให้กับคนที่ไม่ได้รู้ทันเทคโนโลยีขนาดที่จะแยกแยะออกได้ว่าอันไหนจริงอันไหนถูกตัดต่อ

ทำคุณประโยชน์ให้สังคม

ข้ออ้างนี้ฟังแล้วถึงกับสำลักน้ำที่กำลังกินอยู่ออกมา เมื่อถูกใช้ต่อเมื่อเหล่าข้าราขการ หรือผู้บริหารบ้านเมืองระดับสูงได้รับสิทธิพิเศษยกเว้นมากความประชาชนตาดำๆคนธรรมดา ก็มักจะเอาคุณงามความดีมาอ้างต่างๆ นาๆ จะเรียกว่าทวงบุญคุณก็ไม่ผิดเท่าไหร่  ถึงแม้ว่าจะถูกทักท้วงถึงความไม่มีน้ำหนักของข้ออ้างนี้ที่ไร้รูปธรรม แต่ก็ยังถูกใช้บ่อยๆ 

“ป่วยทางจิต”

“อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา” เมื่อผู้กระทำความผิด เกิดป่วยทางจิตเวชทำให้การได้รับความผิดตามรัฐธรรมนูญนั้นถูกยกเว้ย ข้ออ้างนี้เลยฮิต ในหมู่ของคนที่กระทำความผิดอย่างมีสติแต่อยากป่วยทันที เพื่อลดทอนความผิดของตัวเอง จนทำให้เดือดร้อยไปถึงผู้ป่วยจริง ที่ทำให้โรคนี้กลายเป็นโรคที่สังคมมองดูไม่ดี แม้โรคนี้จะต้องถูกวินิจฉัยโดยจิตแพทย์ก็ตาม

“ต้องหาเลี้ยงครอบครัว“

ในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ หรือการถูกแฉเรื่องการทำมาหากินที่ไม่สุจริต และกระแสสังคมเริ่มไล่ต้อนบุคคลในข่าวจนทำมาหากินไม่ได้ อีกหนึ่งประโยคคลาสสิคที่เราได้ยินกันบ่อยๆ นั่นคือข้ออ้างว่า “ต้องหาเลี้ยงครอบครัว” แน่นอนว่ามันน่าเห็นใจนะกับการเอาครอบครัวมาอ้าง แต่ก็อย่างลืมนะว่า…ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่ต้องหาเลี้ยงตัวเองและคนทางบ้าน และความอยากจนก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการทำผิดกฎหมาย 

อย่างไรก็ตาม การกระทำความผิด เมื่อมีการกล่าวอ้างเหตุผลใดๆ ขึ้นมา ก็ไม่มาสามารถลบสิ่งที่ตัวเองได้ทำไว้ได้ แม้คนรอบข้างจะออกมาอ้างว่าผู้กระทำผิดเป็นคนดีขนาดไหนก็ตาม แต่อย่าลืมว่า คนเราไม่มีใครดีไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นดีกับเราไม่ได้แปลว่าจะไม่ทำตัวแย่ๆกับคนอื่น การใช้ข้ออ้างใดๆ ก็ตามไม่ใช่ทางออกของปัญหา การรับรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำนั่นคือทางออก แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการไม่สร้างปัญหานั้นเอง