ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เกาหลีเหนือ ได้ทำการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ “ฮวาซอง-18” 2 ลูก โดยขีปนาวุธได้ลอยขึ้นฟ้าก่อนจะตกลงไปในทะเลตะวันออก หลังจากการประชุมด้านความมั่นคงระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐ ได้เริ่มต้นขึ้น
เสนาธิการร่วม หรือ JCS ระบุว่าตรวจพบการยิงขีปนาวุธจากพื้นที่เขตซูนันของกรุงเปียงยาง ระหว่างเวลา 03.30 น. ถึง 03.46 น. โดยขีปนาวุธดังกล่าวได้ลอยตัวอยู่ในอากาศไปไกลเป็นระยะทางประมาณ 550 กิโลเมตร ก่อนจะตกลงสู่ทะเลตะวันออก
เสนาธิการร่วม ได้ประณามการยิงทดลองดังกล่าวว่าเป็น “เป็นการจงใจยั่วยุอย่างชัดเจน” ซึ่งเป็นอันตรายต่อความสงบสุขของสันติภาพ ไม่เพียงแต่ในคาบสมุทรเกาหลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาคมระหว่างประเทศด้วย และเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่าง “ชัดเจน”
“กองทัพของเราได้เตรียมพร้อมเพื่อเผชิญหน้าทุกการยั่วยุและพร้อมตอบโต้อย่างทันควันต่อการกระทำของเกาหลีเหนือ” เสนาธิการร่วม กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
การทดลองยิงขีปนาวุธดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่
ทางการเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ได้จัดการประชุม
ของคณะทำงานที่ปรึกษาด้านนิวเคลียร์ (Nuclear Consultative Group – NCG) ร่วมกันเป็นครั้งแรก
ที่กรุงโซล โดยมีรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ และผู้ประสานงานฝ่ายกิจการอินโด-แปซิฟิกประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เป็นประธานร่วมการประชุม
โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับภัยคุกคามนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ ผ่านความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างกัน เฉพาะอย่างยิ่งการประสานงาน การแบ่งปันข้อมูล และการฝึกร่วมกันทางทหารด้านการป้องปรามอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ได้ประกาศจัดตั้งคณะทำงาน NCG เป็นครั้งแรก ระหว่างการประชุมสุด ยอดเกาหลีใต้-สหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อ 26 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีนและเกาหลีเหนือ เนื่องจากมองว่าเป็นการเพิ่มความตึงเครียดให้คาบสมุทรเกาหลี อีกทั้งถูกมองว่าการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อหนุนให้ สหรัฐฯ ขยายอิทธิพลในการป้องปรามและเพื่อใช้ขีดความสามารถทางทหารอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อปกป้องพันธมิตร ในภูมิภาคนี้
โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีเหนือได้ทำการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล ฮวาซอง-18 เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ภาพประกอบจากสำนักข่าวยอนฮับเกาหลีใต้
เกาหลีใต้ #เกาหลีเหนือ #สหรัฐฯ