เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม 2566 มีรายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศว่า อดีตบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รายใหญ่อันดับที่ 2 ของจีน เอเวอร์แกรนด์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลในกรุงนิวยอร์ก เข้าสู่กระบวนการพิทักษ์ทรัพย์สิน ภายใต้กฏหมายล้มละลาย หลังประสบปัญหาหนี้สินรุงรัง และผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา จนอาจจะกลายเป็นวิกฤติทางอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ของจีน
โดยบริษัท เอเวอร์แกรนด์ ยื่นคำร้องขอความคุ้มครองตามกฎหมายล้มละลายในสหรัฐ ในหมวดที่ 15 เพื่อเปิดโอกาสให้ศาลล้มละลายของสหรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีล้มละลายที่ข้องเกี่ยวกับประเทศอื่นได้ โดยหมวดที่ 15 จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างศาลสหรัฐ, ลูกหนี้ กับศาลของประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการล้มละลายข้ามประเทศ
โดยก่อนหน้านี้ บริษัทเอเวอร์แกรนด์ ประสบปัญหาอย่างหนักในการจ่ายหนี้เงินกู้ ที่ทะยานสูงขึ้นแตะ 2.437 ล้านล้านหยวนเมื่อสิ้นปี 2565 หรือคิดเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของจีน
คาดกันว่า การผิดชำระหนี้ของ เอเวอร์แกรนด์ ในปี 2564 เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดวิกฤติลุกลามมากขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน อาจสร้างความเสียหายแก่เจ้าของบ้านและระบบการเงินในจีนเป็นวงกว้าง โดยหลังจากเหตุการณ์นี้ ก็มีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัยพ์รายใหญ่อื่นๆ ในจีน รวมถึง คาเซีย , แฟนตาเซีย และ ชื่อเหมา กรุ๊ป ต่างก็ผิดชำระหนี้เช่นเดียวกัน