Connect with us

News

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ

Published

on

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวโตโจ้นิวส์รายงานโดยอ้าแหล่งข่าวจากรอยเตอร์และเอพีว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2564 ตามเวลาสหรัฐฯ  ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เต็มตัวมากว่า 2 เดือน การแถลงข่าวและตอบคำถามสื่อมวลชนครั้งแรกนี้ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเศษ แต่เต็มไปด้วยประเด็นร้อนทั้งในและต่างประเทศที่รอให้ผู้นำสหรัฐฯ ตอบทุกข้อสงสัย ไปดูกันว่าในแต่ละเรื่องแต่ประเด็นผู้นำสหรัฐฯคนล่าสุด ตอบคุถามสื่อมวลชนเอาไว้อย่างไร

– ตั้งเป้าใหม่แจกวัคซีนครบ 200 ล้านโดส ภายใน 100 วันแรก

ประธานาธิบดีไบเดน ใช้เวทีนี้ ประกาศเป้าหมายใหม่ในการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนชาวอเมริกัน ให้ได้ถึง 200 ล้านโดส ภายในกรอบเวลา 100 วันแรก ที่ปธน.ไบเดนปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เวลาสั้นกว่าเป้าหมายเดิมถึงเท่าตัว หลังจากที่ปธน.ไบเดน สามารถแจกจ่ายวัคซีน 100 ล้านโดสแรกก่อนหน้านี้โดยใช้เวลาเพียง 42 วันเท่านั้น

พร้อมกันนี้ ยังระบุไว้อีกว่าการแจกเงินช่วยเหลือชาวอเมริกันก้อนใหม่จะถึงมือประชาชนครบ 100 ล้านคนภายในเวลา2 สัปดาห์ หลังจากที่ผ่านกฎหมาย American Rescue Plan ด้วยเช่นกัน และเชื่อมั่นว่าแผนช่วยเหลือชาวอเมริกันจากพิษโควิด-19 จะหนุนให้เศรษฐกิจอเมริกันเติบโตได้ในปีนี้

– ออกโรงป้องนโยบายคนเข้าเมือง

เมื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามได้เป็นครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง ปธน.ไบเดน ออกโรงป้องนโยบายคนเข้าเมือง และการช่วยเหลือผู้อพยพที่เป็นเด็กที่ข้ามพรมแดนมาจากเม็กซิโกอย่างแข็งขัน ท่ามกลางความกังวลถึงคลื่นผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้าสหรัฐฯ มากที่สุดในรอบ 20 ปี

โดยปธน.ไบเดน ยืนยันว่าคลื่นผู้อพยพที่เข้ามายังสหรัฐฯ เป็นสถานการณ์ปกติ และยืนยันว่าไม่มีรัฐบาลชุดใดที่ปฏิเสธให้ความช่วยเหลือและให้ที่พักพิงกับเด็กที่เดินทางข้ามพรมแดนจากเม็กซิโก เว้นแต่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมกันนี้ ปธน.ไบเดน ยังกล่าวว่า ได้มอบหมายให้รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส นำทีมเจรจากรณีผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ โดยจะหารือกับประเทศในแถบอเมริกาที่เป็นเส้นทางของผู้อพยพเพื่อแก้ปัญหานี้โดยตรง

– ลงชิงเก้าอี้ปธน.สมัยสองแน่นอน

ประเด็นนึงที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกสำนักก็คืออนาคตทางการเมืองในสมัยหน้าของประธานาธิบดีไบเดน หลังจากมีการตั้งข้อสังเกตว่า ปธน.ไบเดน ในวัย 78 ปี อาจดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เพียงสมัยเดียวเท่านั้น แต่ปธน.ไบเดน ก็ยืนยันหนักแน่นว่า มีแผนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี ค.ศ. 2024 แน่นอน และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส จะยังคงเป็นคู่ชิงในฐานะรองประธานาธิบดีกับเขาอีกเช่นเดิม 

– เตือนเกาหลีเหนือ

ส่วนประเด็นนโยบายต่างประเทศ จากกรณีที่เกาหลีเหนือ เปิดฉากทดสอบขีปนาวุธ ในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นของเกาหลีเหนือก่อนหน้าที่ปธน.ไบเดนจะแถลงต่อสื่อมวลชน ปธน.ไบเดน ได้ใช้เวทีนี้เตือนเกาหลีเหนือว่า จะต้องเตรียมรับมือกับผลที่ตามมาจากการกระทำดังกล่าว และว่าสหรัฐฯอยู่ระหว่างการหารือกับชาติพันธมิตรในการรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือโดยผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า หากเกาหลีเหนือเลือกที่จะยกระดับความตึงเครียดของสถานการณ์ สหรัฐฯก็พร้อมที่จะตอบโต้ แต่อีกด้านหนึ่ง สหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะเปิดการเจรจาทางการทูตกับเกาหลีเหนือ เพื่อยับยั้งการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือต่อไป ในขณะที่เกาหลีเหนือเองก็คง ต้องการให้สหรัฐฯ และนานาประเทศ ผ่อนคลายมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือเสียก่อน

ส่วนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทางปธน.ไบเดน ย้ำในการแถลงข่าวว่า ตนยืนยันกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มาโดยตลอดว่า สหรัฐฯไม่ได้ต้องการการเผชิญหน้ากับจีน และขอให้จีนทำตามกฎระเบียบระหว่างประเทศในการแข่งขันทางการค้า

ส่วนการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน ปธน.ไบเดน เลี่ยงจะที่ตอบคำถามเรื่องกรอบเวลาที่ชัดเจน เพียงแต่บอกว่า จากเดิมเส้นตายวันที่ 1 พฤษภาคม อาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่

– เร่งประสานความร่วมมือ-ยุติความขัดแย้งแบ่งแยกในสังคม

ปธน.ไบเดน เรียกร้องให้สมาชิกสภาฯจากพรรครีพับลิกัน ยุติการแบ่งแยกทางการเมืองอเมริกัน และสนับสนุนการปฏิรูปกฎหมายต่างๆ อาทิ กฎหมายครอบครองปืน การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนโยบายคนเข้าเมือง โดยยืนยันว่า ตนเข้ามาทำหน้าที่นี้เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่เข้ามาสร้างความขัดแย้งแบ่งแยก

นับตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดน ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อ 20 มกราคมที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯ วัย 78 ปี เผชิญกับความท้าทายทั้งศึกนอกศึกใน ไม่ว่าจะเป็นเหตุยิงกราด 2 ครั้งในรอบ 2 สัปดาห์ ที่คร่าชีวิตผู้คนนับสิบราย การแบ่งแยกภายในพรรคเดโมแครตที่ส่อแววหนักหนาขึ้น ผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้าสหรัฐฯ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ศึกนอกจากบททดสอบบทบาทผู้นำของไบเดน จากฝั่งเกาหลีเหนือและรัสเซีย

ทั้งนี้ ในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ใช้วาทกรรมถึงสื่อมวลชนว่าเป็น “ศัตรูของประชาชน” และยกเลิกการแถลงข่าวประจำวันที่ทำเนียบขาว ก่อนที่ปธน.ไบเดนจะกลับมาฟื้นฟูช่องทางระหว่างทำเนียบขาวกับสื่อมวลชนนี้กลับคืนมา

แต่ ปธน.ไบเดน ยังเจอแรงกดดันให้จัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ หลังดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯมาร่วม 2 เดือน โดยไม่เคยจัดการแถลงข่าวให้สื่อได้ซักถามอย่างตรงไปตรงมา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทีมงานปกป้องผู้นำสหรัฐฯ จนเข้าถึงยาก

ข่าวและภาพจาก https://www.voathai.com/

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: