ติดตามรายงานสภาพอากาศโดยละเอียดได้จาก
พยากรณ์อากาศรายวัน
ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ตั้งแต่เวลา 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ลักษณะอากาศทั่วไป
บริเวณ ความกดอากาศสูง กำลังค่อนข้างแรง
ระลอกใหม่จากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณ
ประเทศเวียดนามตอนล่างและประเทศลาวแล้ว
คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และทะเลจีนใต้ในวันนี้ (วันที่ 14 ก.พ. 66)
และจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
และทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้(วันที่ 15 ก.พ. 66)
ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศร้อนโดยทั่วไป
ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง
ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง มีลมแรง
โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส
ส่วนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 – 4 องศาเซลเซียส
ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตราย
จากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง
ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง
สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหาย
ที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้
ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มการสะสมของ
ฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์เล็กน้อยเนื่องจากมีการระบายอากาศดี
เว้นแต่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่ฝุ่นละอองยังสะสมอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก
พยากรณ์อากาศสำหรับทุกภาคของประเทศไทย
ตั้งแต่เวลา 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า
มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 13-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีพายุฝนฟ้าคะนอง
ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร
ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ
นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 16-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว
อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีพายุฝนฟ้าคะนอง
ร้อยละ 30 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ
จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี
อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
มีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ
จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว
ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด
นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง พังงา และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ออกประกาศ 14 กุมภาพันธ์ 2566
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา