“เอ ศักดา” กับทางออกการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เกษตรไทย

Value Added Design การออกแบบมูลค่าเพิ่ม ถือเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าการเกษตรของไทย ให้สามารถขยายตลาด สร้างยอดขายเพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้มีความยั่งยืนมากขึ้นกว่าเดิม โดยเป็นการรวมกลุ่มกันของ คน 7 คน สร้างแนวคิดในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรของไทยให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

นายศักดา ใช่วิวัฒน์ ผู้ริเริ่ม Value Added Design ของไทยได้อธิบายว่า ที่ผ่านมา ไทยเรายึดติดเรื่องการแปรรูปเป็นเพียงเรื่องของการถนอมหาร แต่ในหลักการของ Value Added Design เป็นการลบความเชื่อที่ว่าการแปรรูปเป็นเพียงแค่การถนอมอาหาร ในปัจจุบัน มันเป็นเรื่องของการ ยกระดับการ Creative และ Design ให้ผลิตภัณฑ์ เหล่านั้น อยู่ในรูปแบบของ Ready to eat (พร้อมทาน) Ready to mix (พร้อมใช้ในการผสม)  Ready to merge (เอาไปใช้เป็นส่วนประกอบ) แต่ผลิตภัณฑ์ของไทยส่วนมาก หยุดอยู่แค่เป็นอาหารพร้อมทาน แต่ไม่ได้มีการดัดแปลงเพื่อเพิ่มมูลค่า เพิ่มช่องทางการตลาดใหม่สำหรับวัตถุดิบชนิดนั้นมาตลอด

ที่จริงแล้วแนวคิด Value Added Design มีมานานแล้วในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ยุโรป เพียงแต่ที่ผ่านมา เราไม่ได้จริงจังกับวัตถุดิบอาหารไทย แต่ไปจริงจังกับวัตถุดิบสินค้าจากต่างประเทศ เพราะยังขาดการสนับสนุน หรือยังมีทัศนคติว่ามูลวัตถุดิบของไทยนั้นต่ำไม่คุ้มค่ากับการเสียเวลา หรือการลงทุน แต่ถ้าได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง เชื่อว่าการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างดี เพราะเรื่องของอาหารไทยเรายังมีโอกาสที่สดใสมากกว่า เพราะชื่อเสียงของไทยในเรื่องของกินเราถือว่าได้รับการยอมรับอันดับต้น ๆ ของโลก ถ้ามีการยกระดับขึ้นมาอย่างจริงจัง ตลาดของกินของไทยที่นักท่องเที่ยวจะซื้อกลับไปเป็นของฝาก จะขยายตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่มีอยู่เพียง 2 % จากมูลค่าของฝากที่นักท่องเที่ยวซื้อกลับบ้าน เพราะส่วนมากจะซื้อเป็น เสื้อผ้า เครื่องประดับ และของตกแต่ง 

ที่ผ่านมา ทางกลุ่มได้นำแนวทางของ Value Added Design ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทย โดยได้เริ่มจาก ผลิตภัณฑ์ ลำไย ทั้งสดและอบแห้ง ที่ทุกปีจะประสบปัญหากับราคา และการล้นตลาด โดยเป็นร่วมมือกับทางบริษัท O2O กลุ่ม young smart farmer เชียงใหม่ และ ททท. จัดแคมเปญ ในการเชิญร้าน กาแฟ และคาเฟ่ ทั่วประเทศ มาร่วมกัน คิดค้น เครื่องดื่มและขนม ที่นำเอาลำไยมาเป็นส่วนประกอบ และจำหน่ายเป็นเมนูในร้าน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนเกิดการแพร่หลายกลายเป็นเครื่องดื่มน้ำลำไยมากมายหลายชนิดที่ได้รับความนิยม เช่นกาแฟอเมริกาโน่ลำไย  และ ลงสู่ตลาดแมสเป็นน้ำลำไยสดที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ปีนี้ปัญหาราคาลำไยตก และล้นตลาดลดลง เนื่องจากมีช่องทางการตลาดที่เกิดจากนำลำไยมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มที่หลากหลาย

นายธีรพงศ์ พงษ์ศิริเดชา ผู้ร่วมผลักดันโครงการ Value Added Design เสริมว่า จากโครงการนี้ เป็นการสร้างกระแสการบริโภคให้กับผลิตภัณฑ์ลำไยขยายเพิ่มมากขึ้น เพราะ ทุก ๆ เมนูเครื่องดื่มที่ เกิดขึ้นมาใหม่นั้น เท่ากับเป็นการสร้างช่องทางการตลาดให้กับลำไยไทยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งตอนนี้ทางกลุ่มเริ่มมีการวางแผนเผยแพร่เครื่องดื่มที่ผสมลำไยไปยังต่างประเทศ เท่ากับเป็นการเปิดช่องทางในการส่งออกลำไยของไทย ไปสู่ตลาดเครื่องดื่มยังต่างประเทศ เพราะลำไยของไทย ถือว่ามีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่ดี รวมไปถึงยังคงมีโครงการสนับสนุนให้เกิดการนำผลิตภัณฑ์วัตถุดิบสินค้าเกษตรของไทย ถูกเอามาใช้ในการพัฒนาต่อยอดอีกหลาย ๆ ชนิดในอนาคต

อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา

Line Today TOJO NEWS , ToJoNews