หงส์ ปีกหัก พ่าย ราชันย์ชุดขาว คาบ้าน ในศึกฟุตบอลยุโรป วินิซิอุส, เบนเซม่า เหมาคนละ 2 ประตู ยิงแซงรวดเดียว 5-2

เจ้าถิ่นเริ่มเกมส์ได้ดี ยิงประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว 2 ประตู ภายในเวลา 14 นาที
ก่อนที่จะถูกทีมเยือน มายิงประตู พลิกแซงนำแบบรวดเดียวจบ 5 ประตู

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ลงสนามเตะกันเมื่อกลางดึก
ของคืนวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ผ่านมา

หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของทีม ราชันย์ ชุดขาว
เรอัล มาดริด ทีมแกร่งแห่งลาลีก้า สเปน

ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอ ส่วน เรอัล มาดริด
ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม เอฟ

เริ่มครึ่งแรก เล่นกันไปได้เพียงแค่ 4 นาที ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0
จากจังหวะที่ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ พาบอลบุกขึ้นหน้าทางจากทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะจ่ายบอล
ขวางสนามตัดเข้าใน ดาร์วิน นูนเญซ วิ่งสอดมาไขว้ขายิงด้วยเท้าขวาส่งบอลผ่านตัว
ติโบต์ กูร์กตัวส์ เข้าไปตุงตาข่าย

อีก 10 นาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ รับบอลคืนหลังมาจากเพื่อนร่วมทีม แล้วจับบอลพลาดเสียจังหวะ บอลโดนเข่ากระดอนหนีตัว โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ วิ่งมาดีดบอลด้วยเท้าซ้าย ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายแบบสุดเฮง ซาล่าห์ ทำลายสถิติยิงประตูในฟุตบอลยุโรปของสตีเว่น เจอร์ราด ที่เคยทำเอาไว้ที่ 41 ประตูได้สำเร็จ

นาทีที่ 21 ทีมเยือน มาได้ประตูตีไข่แตก ไล่ตามมา เป็น 2-1 จากลูกยิงอันเฉียบคมของ วินิซิอุส จูเนียร์ ซึ่งสับไกยิงด้วยเท้าขวา ส่งบอลโค้งหนีมือ อัลลิสัน เบ็คเกอร์ พุ่งเข้าหน้าต่างทางเสาไกลไปแบบสุดสวย

นาทีที่ 36 เรอัล มาดริด ไล่ตามตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะที่ โจ โกเมซ ส่งบอลคืนหลังกลับมาให้ อัลลิสัน เบ็คเกอร์ หวดตูมตั้งใจเตะบอลขึ้นหน้า แต่กลายเป็นว่าบอลไปติดตัว วินิซิอุส จูเนียร์ ที่วิ่งตามมาบีบกดดัน เด้งลอยย้อยเข้าประตูตัวเองไปแบบเหลือเชื่อ

ช่วงท้ายครึ่งแรก ทีมเยือนเริ่มโหมเกมส์บุกกดดันเจ้าถิ่นมากขึ้น มีโอกาสลุ้นทำประตูขึ้นนำอีก 2-3 ครั้งแต่เมื่อเล่นกันจนหมดเวลาการแข่งขัน 45 นาทีแรกก็ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติม
ลิเวอร์พูล เสมอกับ เรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ 2-2

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง เล่นกันไปได้แค่ 2 นาที ทีมเยือนก็มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 3-2 จากจังหวะได้ลูกตั้งเตะจากมุมธงทางฝั่งซ้าย ลูก้า โมดริช เปิดบอลลอยมาหน้าปากประตูเจ้าถิ่น เอแดร์ มิลิเตา วิ่งโฉบมาสะบัดหัวโหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย ในนาทีที่ 47

นาทีที่ 55 ทีมราชันย์ชุดขาว ก็มาได้ประตูหนีห่างไปเป็น 4-2 จากจังหวะต่อบอลทำชิ่งในเขตโทษเจ้าถิ่นระหว่าง ร็อดรีโก้ โกเอส และ คาริม เบนเซม่า ก่อนจะตวัดยิงบอลพุ่งไปแฉลบขา โจ โกเมซ เปลี่ยนทางเข้าประตูไปแบบสุดเฮง

นาทีที่ 67 ทีมเยือน ก็มาได้ประตูหนีห่างไปเป็น 5-2 เมื่อ ฟาบินโญ่ เสียบอลตรงกลางสนาม ลูก้า โมดริช ฉกบอลแล้วจ่ายออกซ้ายไปให้ วินิซิอุส จูเนียร์ จ่ายบอลตัดเข้าในไปถึง คาริม เบนเซม่า รับบอลแล้วโยกจังหวะดึงบอลหลอก อัลลิสัน เบ็คเกอร์ ก่อนจะแปบอลยิงเข้าประตูไปแบบเหนือชั้น

ช่วงเวลาที่เหลือ แม้เจ้าถิ่นจะเปลี่ยนตัวสำรองลงสนาม หวังพลิกเกมส์ ทวงประตูกลับคืนมาได้บ้าง
แต่เมื่อเล่นกันจนหมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติม

จบเกมส์ ทีมราชันย์ชุดขาว เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้ถึงถิ่น 5-2
กุมความได้เปรียบจากการลงสนามเตะในนัดแรก ก่อนจะไปตัดสินกันในนัดที่ 2 ซึ่งจะลงสนาม
เตะกันที่ ซานดิอาโก้ เบร์นาเบว บ้านของ เรอัล มาดริด ในวันที่ 15 มีนาคม นี้.

ขอบคุณภาพประกอบจาก
@ Liverpool FC
@ Real Madrid C.F.