การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 18 – 20 เม.ย. 65
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง
จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้
ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้
พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง
ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
สำหรับลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้
ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น
ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น
ส่วนในช่วงวันที่ 20 – 24 เม.ย. 65
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น
ที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง
ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้น
จากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้บริเวณดังกล่าว
มีอากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 18 – 19 เม.ย. 65
ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณประเทศไทยตอนบน
ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง
ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน
และระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 18 – 20 เม.ย. 65
พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 เม.ย. 65
อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 19 – 24 เม.ย. 65
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 18 – 20 เม.ย. 65
พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 เม.ย. 65
ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 18 – 19 เม.ย. 65
พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 20 – 24 เม.ย. 65
ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 18 – 21 เม.ย. 65
ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 24 เม.ย. 65
ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 18 – 21 เม.ย. 65
ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 24 เม.ย. 65
ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 18 – 19 เม.ย. 65
พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 20 – 24 เม.ย. 65
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ออกประกาศ 18 เมษายน 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา