นายกรัฐมนตรีไทย เดินทางไปเยือนซาอุฯ ครั้งแรกในรอบเกือบ 32 ปี

ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย เดินทางไปเยือนซาอุฯ หลังจากทั้งสองประเทศ
ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ไม่คบหากันมานานกว่า 32 ปี

เมื่อวันอังคารที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ได้เริ่มต้นการเยือน ซาอุดี อาระเบีย อย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วัน ถือเป็นผู้นำไทยคนแรก
ที่เดินทางมาเยือน ชาอุดี อาระเบีย ภายหลังจากความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ราชอาณาจักร
ย่ำแย่ลง และได้ถูกลดระดับลง มานานเกือบ 32 ปี

หลังจากเกิดกรณี คนสวนชาวไทย ซึ่งทำงานอยู่ในวังของกษัตริย์ซาอุ นายเกรียงไกร เตชะโม่ง
ได้แอบขโมยเครื่องประดับ เพชร และของมีค่า มูลค่าราวๆ 20 ล้านดอลลาร์ ในสมัยนั้น กลับเมืองไทย
ต่อมา นายเกรียงไกร ได้ถูกจับกุมและสามารถนำเครื่องประดับล้ำค่าส่งกลับคืน ซาอุฯ ได้
แต่ทางการซาอุฯ แจ้งกลับมาภายหลังว่า เครื่องประดับที่ส่งคืน มีบางส่วนเป็นของปลอม

ไม่ถึงหนึ่งปีถัดมา ในช่วงปี 2533-2534 ก็เกิดคดีฆาตกรรมนักการทูต ซาอุฯ 4 คนตามมาด้วย
คดีนักธุรกิจ ชาวซาอุฯ โมฮัมเหม็ด อัล-รูไวลี่ (Mohammed al-Ruwaili) ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ของ ซาอุฯ
ได้ถูก อุ้ม ฆ่า ในระหว่างที่ โมฮัมเหม็ด อัล-รูไวลี่ กำลังติดตามสืบสวน คดีเพชรซาอุฯ ด้วยตัวเอง

โดยนายกรัฐมนตรีของไทย เดินทางมาเยือนกรุงริยาด โดยได้รับคำเชิญจาก
มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (Crown Prince Mohammad bin Salman)

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ได้เดินทางไปถึงท่าอากาศยาน สนามบินนานาชาติ
คิงคาลิด ที่กรุงริยาด โดยผู้ช่วยผู้ว่าการกรุงริยาด เจ้าชายโมฮาเหม็ด บิน อับเดล รอห์มัน
(Prince Mohamed bin Abdel Rahman) ได้เสด็จมาต้อนรับ ด้วยพระองค์เอง

ตลอดระยะเวลาเกือบ 32 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลซาอุฯ ได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงมาอยู่
แค่ระดับ อุปทูต ไม่ได้ส่ง เอกอัครราชทูต ของตัวเองมาประจำที่ประเทศไทยอีกเลย รวมถึง สั่งห้าม
ไม่ให้พลเมืองของซาอุดีอาระเบีย เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย

ภาพจาก
SPAENG (@Spa_Eng) / Twitter