ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนในงาน “AOT Planting the future – สร้างท่าอากาศยานที่ยั่งยืนรองรับนักเดินทางทั่วโลก” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับท่าอากาศยานของไทยให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางที่ไม่เพียงแต่รองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ยังสอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล ดูเนื้อหาบน O2O Forum
AOT บริหารท่าอากาศยาน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ที่เชื่อมโยงการเดินทางทางอากาศทั่วโลก ส่งผลให้ AOT มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสร้างมาตรฐานการบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก มีศักยภาพในการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมทั้งร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงโครงการ “Sustainism ยั่งยืนนิยม” ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ช่วยสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวแบบครบวงจรที่ยั่งยืน และเชื่อมโยงกับประเทศภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก
ด้วยทำเลที่ตั้งของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง สามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาสนามบินที่ยั่งยืน ซึ่งรองรับการเดินทางทั้งภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค ส่งผลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยและมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับโลก
AOT มีแผนพัฒนาที่ชัดเจนภายใต้แนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) โดยมุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ เช่น การใช้พลังงานทดแทน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะลงทุนและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดเป็นเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบิน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) และระบบการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อลดความแออัดและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างยั่งยืน
การผสมผสานนวัตกรรมสีเขียวและการขยายโอกาสทางธุรกิจในท่าอากาศยาน ทำให้ AOT ก้าวสู่การเป็นผู้นำในการพัฒนาท่าอากาศยานที่ยั่งยืนได้อย่างครบวงจร ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบิน แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ เช่น การลงทุนผลิต SAF และการพัฒนาระบบการจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ AOT กลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางและการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับโลก
ท่าอากาศยานไทย คือ ประตูสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน เชื่อมโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
คุณชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมถึงโอกาสที่ไทยจะได้เป็นผู้นำการท่องเที่ยวโลกผ่านความร่วมมือระหว่างกันว่า ภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการที่ AOT สร้างความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร หรือบริษัทนำเที่ยว การสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งภาคเอกชนสามารถใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาและปรับปรุงการบริการให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว เช่น การสร้างโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการจัดทัวร์ที่เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น
การที่ AOT เป็นผู้นำในการใช้พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะส่งผลให้ธุรกิจในเครือข่ายการท่องเที่ยวต้องปรับตัวตาม ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวทั้งในและนอกสนามบิน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ แต่ยังทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวสามารถลดต้นทุนได้จากการใช้พลังงานทดแทน นอกจากนี้ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ยั่งยืนภายในท่าอากาศยานยังช่วยให้ธุรกิจภาคเอกชนเชื่อมโยงกับท่าอากาศยานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อีกทั้งจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มความร่วมมือในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เมื่อ AOT ชูจุดขายการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน การดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยแนวคิดนี้จะช่วยกระตุ้นความต้องการในตลาดท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริการ การจัดการทัวร์ หรือการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งการท่องเที่ยวแบบมีความรับผิดชอบนี้จะช่วยให้ภาคธุรกิจได้รับการพัฒนาที่ยั่งยืนไปพร้อมกับการสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล
ดร.ธิราช รุ่งเรืองกนกกุล ผู้อำนวยการสมาคมการตลาดเพื่อการเกษตรและอาหารแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกใน องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และ ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจ สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจแห่งคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) กล่าวว่าไทยจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยต้องมีการกำหนดเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจนและเน้นการทำงานในลักษณะของ “Partnerships for Sustainable Development Goals (SDGs)” ซึ่งเป็นหลักการสำคัญขององค์การสหประชาชาติ (UN) ที่สนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน
การที่ AOT ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในการผลักดันให้ไทยเป็นประตูสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน ถือเป็นโครงการที่สอดคล้องกับแนวคิดของ UN โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 13 (Climate Action) และเป้าหมายที่ 8 (Decent Work and Economic Growth) ของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) แนวทางนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน แต่ยังมีส่วนช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เน้นการอนุรักษ์และความยั่งยืน ซึ่งเป็นทิศทางที่ UN สนับสนุนอย่างมากในระดับสากล
จากมุมมองของ UNESCAP ที่มุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก การสนับสนุนแนวคิดของ AOT จะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างงานในธุรกิจการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน แนวทางนี้ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย แต่ยังสามารถประยุกต์ใช้ในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เพื่อสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับโลก
ดังนั้น การที่ AOT มีวิสัยทัศน์ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง จึงถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่ UN มองว่าสามารถนำพาประเทศไทยสู่บทบาทผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ AOT ดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิดการเป็นสนามบินที่เป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของชุมชน (Corporate Citizenship Airport) ดูเนื้อหาบน O2O Forum
สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O
เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220, 0952156145