เป็นอีกนัดที่ทั้งสองทีม ไม่สามารถเอาชนะกันได้อย่างเด็ดขาดในเวลาการแข่งขันปรกติ โดยก่อนหน้านี้ทั้งลิเวอร์พูลและเชลซี ลงสนามเผชิญหน้ากัน 4 นัดล่าสุด โดยเป็นการพบกันในฟุตบอลถ้วย นัดชิง 2 หน และเจอกันในฟุตบอลลีกอีก 2 ครั้ง
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่ 21 ของฤดูกาล 2022/23 ลงสนามเตะกันเป็นคู่แรกของค่ำคืนวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 เป็นเกมส์บิ๊กแมตช์ระหว่าง
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 9 ของตาราง เปิดบ้านสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมอันดับ 10 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ทีมหงส์แดงยังประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ โดยเฉพาะในตำแหน่งกองหน้า เกมส์ในนัดนี้ส่งโคดี้กัคโป ลงยืนเป็นกองหน้าตัวเป้ามี โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต คอยสนับสนุนเกมส์รุกทางฝั่งซ้ายขวา
ส่วนทางฝั่งทีมเยือนส่งไค ฮาแวร์ตซ์ ลงยืนเป็น
กองหน้าตัวเป้า มีเมสัน เม้าท์ และคอนเนอร์ กัลลาเกอร์ คอยสนับสนุนเกมส์รุกในแดนหน้า ส่วน มิคายโล มูดริค ปีกดาวรุ่งทีมชาติยูเครน นักเตะใหม่ป้ายแดง นั่งสำรองข้างสนาม
เริ่มครึ่งแรก เกมส์ผ่านไปได้เพียง 3 นาที เชลซี ก็ส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ จากจังหวะได้ลูกเตะมุมจากทางฝั่งซ้าย เปิดบอลลอยโด่งมาที่หน้าปากประตูเจ้าถิ่น ติอาโก้ ซิลวา จิ้มบอลจังหวะแรก บอลพุ่งไปชนเสาเด้งกลับออกมาเข้าทาง ไค ฮาแวร์ตซ์ ยิงซ้ำจ่อๆ ระยะเผาขน แต่เมื่อเช็คภาพจาก VAR แล้ว กรรมการในสนามให้เป็นลูกล้ำหน้าของ ฮาแวร์ตซ์
10 นาทีแรกของเกมส์ผ่านไป เจ้าถิ่นเริ่มตั้งเกมส์ของตัวเองได้ ครองบอลเดินหน้าเปิดเกมส์บุกเข้าใส่ทีมเยือนบ้าง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสพาบอลเข้าไปลุ้นทำประตูได้อย่างชัดเจน
ทั้ง 2 ทีมผลัดกันทำเกมส์บุกสวนกลับไปมา เป็นระยะๆแต่เมื่อเล่นกันจนหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก ก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
เริ่มครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเปิดฉากเดินหน้าทพเกมส์บุกกดดันทีมเยือนตั้งแต่ต้นเกมส์ แทบจะพับสนามบุก แต่ก็ยังไม่มีโอกาสพาบอลเข้าไปจบสกอร์
เชลซี เปลี่ยนเอา มิคายโล มูดริค ลงสนามในนาทีที่ 55 ซึ่งมูดริค ลงมาสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับเจ้าถิ่น อย่างเห็นได้ชัด มีส่วนร่วมกับเกมส์และมีโอกาสได้สับไกยิงอยู่ 2-3 หน แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนมาเป็นประตูขึ้นนำได้
ท้ายเกมส์ทางฝั่งเจ้าถิ่นก็เปลี่ยนตัวเอา ดาร์วิน นูนเญซ ลงสนามมาช่วยเกมส์รุกทางฝั่งซ้าย ทำให้แดนหน้าของลิเวอร์พูลในช่วงท้ายเกมส์ มีจังหวะได้ลุ้นทำประตูมากขึ้น แต่เมื่อเล่นกันจนหมดเวลาการแข่งขัน 90 นาทีก็ไม่มีประตูเกิดขึ้น
ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอกับ เชลซี ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน ทีมหงส์แดง มีเพิ่มเป็น 29 คะแนน ขยับขึ้นรั้งอันดับ 8 ของตาราง ส่วน ทีมสิงโตน้ำเงินคราม มี 29 แต้มเท่ากัน แต่รั้งอันดับ 10 เนื่องจากประตูได้เสียเป็นรอง ทั้งลิเวอร์พูล และ เบรนท์ฟอร์ด ทีมอันดับ 9 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก