ทีมสิงห์บลู เปิดบ้านไล่ถลุง ราชันชุดขาว จากสเปนเอาชนะไปอย่างขาดลอย 2-0 เก็บชัยชนะด้วยประตูรวม 3-1 เข้าไปเตะรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก กับ ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กรุงอิสตันบูล ปลายเดือนนี้
ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง คู่ที่สอง เมื่อเวลาตีสองคืนวันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ทีม”สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดบ้านสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ”ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยอดทีมจากสเปน โดยในนัดแรกของทั้งสองทีมนั้น ทีม”สิงห์บลูส์”เพิ่งไปเยือนสเปนพร้อมกับทำผลงานเสมอกับ”ราชันชุดขาว” มา 1-1 กุมความได้เปรียบจากประตูทีมเยือน
ภาพจาก https://twitter.com/tsilva3/status/1390074423907164160?s=20
โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือของ เชลซี จัดทีมแบบหวังผลในการเก็บชัยชนะให้ได้แบบแน่นอน โดยในแดนหน้า ใช้สามประสานทั้ง เมสัน เม้าท์,ไค ฮาแวร์ทซ์ และ ติโม แวร์เนอร์ ลงเล่นเป็นตัวจริงช่วยกันลงล่าตาข่าย
ภาพจาก https://www.realmadrid.com
ส่วน ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือของเรอัล มาดริด นัดนี้ได้ เซร์คิโอ รามอส กลับมาบัญชาเกมส์ในแนวรับ ส่วนกองหน้าวันนี้จัดให้ เอแด็น อาซาร์ ลงสนามเป็นตัวจริง ดวลกับอดีตต้นสังกัด พร้อมทั้งกองหน้าตัวเก๋าอย่าง คาริม เบนเซม่า และ วินิซิอุส จูเนียร์
ภาพจาก https://twitter.com/realmadriden/status/1390032501163311107?s=20
เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันแบบรัดกุม ค่อยๆทำเกมส์ขึ้นไปในแดนฝั่งตรงข้าม ราชันชุดขาวครองบอลได้มากกว่า แต่ไม่มีโอกาสเข้าไปจบสกอร์ในกรอบเขตโทษของเจ้าบ้าน มีโอกาสยิงจากจากนอกกรอบ สองสามหนจากโทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะได้ประตูขึ้นนำ เจ้าบ้านเองก็มีโอกาสเข้าไปจบสกอร์จากการยิงของ ติโม แวร์เนอร์ ในนาทีที่ 19 แต่กรรมการเป่าเป็นลูกล้ำหน้า
ภาพจาก https://www.realmadrid.com Photo : Antonio Villalba
นาทีที่ 26 ราชันชุดขาวได้ยิงแบบมีลุ้นจาก คาริม เบนเซม่า ลูกพุ่งกำลังจะเข้ากรอบประตู แต่ เอดูอาร์ เมนดี้ นายทวารมือหนึ่งของเชลซี พุ่งบินมาปัดบอลออกไปได้ทันเวลา
นาทีที่ 28 เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะทำเกมส์บุกเข้าไปในแดนของมาดริด กองเต้ ไหลบอลมาให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ โชว์เหนือยิงบอลโดยการตักลูกข้ามหัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารของมาดริดซึ่งทำได้แค่ยืนมอง แต่บอลโด่งเกินไปชนคานบนกระดอนลอยโด่งอยู่หน้าปากประตู ติโม แวร์เนอร์ วิ่งสอดเข้ามากระโดดขึ้นโหม่งบอลโล่งๆในระยะไม่ถึง 3 หลา ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย เชลซี ขึ้นนำ 1-0 สกอร์รวมสองนัดนำอยู่ 2-1
ภาพจาก https://www.skysports.com
เมื่อได้ประตูขึ้นนำ เจ้าบ้านก็ทำเกมส์บุกมากขึ้น มีโอกาสเกือบจะได้ประตูนำห่างในนาทีที่ 43 จากการเข้าทำและระดมยิงของ เมสัน เมาท์ และ ติโม แวร์เนอร์ แต่นายทวารของราชันชุดขาวไม่พลาด ป้องกันเอาไว้ได้ จบเกมส์ในครึ่งแรก เชลซี ขึ้นนำ เรอัล มาดริด 1-0 ประตูรวมสองนัด เชลซี นำ เรอัล มาดริด 2-1
ภาพจาก https://twitter.com/realmadriden/status/1390050493213335552?s=20
เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นกลับมาครองบอลได้มากขึ้น มีโอกาสไปสร้างความหวาดเสียวหน้าประตูทีมเยือนเป็นระยะๆ ในขณะที่เกมส์บุกของราชันชุดขาว แทบไม่มีโอกาสไปสร้างความกดดันให้แนวรับของเชลซีได้เลย จนเกือบจะหมดเวลาการแข่งขัน ในนาทีที่ 80 เจ้าบ้านมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ก็องเต้ ได้บอลแล้วโยนออกทางขวาไปให้ คริสเตียน พูลิซิช ดึงจังหวะหลบ กูร์กตัวส์ ก่อนจะจ่ายบอลเข้าไปในกรอบ 6 หลา เมสัน เมาน์ท วิ่งโฉบเข้ามายิง เป้นประตูปิดกล่อง ดับความหวังของราชันชุดขาวไปโดยปริยาย
ภาพจาก SkySport
เล่นกันจนจบเกมส์เจ้าบ้าน เชลซี เอาชนะ เรอัล มาดริด 2-0 ประตูรวมสองนัด 3-1 ผ่านเข้าไปเตะในนัดชิงชนะเลิศกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจากอังกฤษเหมือนกัน ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 นี้ ที่กรุงอิสตันบูล ตุรกี
ถาพจาก https://twitter.com/realmadriden/status/1390047067477880838?s=20
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (3-4-3) ผู้จัดการทีม โธมัส ทูเคิ่ล : เอดูอาร์ เมนดี้ – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า (รีซ เจมส์ น.88), เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, เบน ชิลเวลล์ – เมสัน เม้าท์ (ฮาริม ซิเย็ค น.88), ไค ฮาแวร์ทซ์ (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.90+4), ติโม แวร์เนอร์ (คริสเตียน พูลิซิช น.67)
เรอัล มาดริด (4-3-3) ผู้จัดการทีม ซีเนอดีน ซีดาน : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – นาโช่ เฟร์นานเดซ, เอแดร์ มิลิเตา, เซร์คิโอ รามอส, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ (เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ น.63) – โทนี่ โครส, กาเซมิโร่ (โรดรีโก้ น.76), ลูก้า โมดริช – วินิซิอุส จูเนียร์ (มาร์โค อาเซนซิโอ้ น.63) , คาริม เบนเซม่า, เอแด็น อาซาร์ (มาเรียโน่ ดิอาซ น.89)
ผู้ตัดสินในสนาม : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)
You must be logged in to post a comment Login