Connect with us

Sports

เรือใบสีฟ้า โค่น แปเอสเช ลิ่วเข้าไปรอ รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก

Published

on

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านไล่ถลุง ปารีส แซงต์ แฌร์แมง ประตูรวมสองนัด 4-1 นัดนี้ริยาด มาห์เรซ เหมาคนเดียวสองประตู ในขณะที่ทีมดังจากแดนน้ำหอมต้องเหลือผู้เล่น 10 คน อังเคล ดิ มาเรีย โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสองคู่แรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 4 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เปิดบ้านสนามเอธิฮัต สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ปารีส แซงต์ แฌร์แมง ทีมรองจ่าฝูงจากลีก เอิง ฝรั่งเศส นัดแรก “เรือใบสีฟ้า” บุกไปเอาชนะที่บ้านของแปเอสเช มาได้ก่อน 2-1 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสมองเพชรของ แมนซิตี้ฯ ยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ เมื่ออาทิตย์ก่อน เกมส์ในลีกล่าสุดก็บุกไปอัด คริสตัล พาเลซ มา 2-0 ศึกนัดนี้ยังจัดเต็ม ขนชุดใหญ่ลงสนามอย่างพร้อมเพรียง ใช้ ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น ทำเกมส์รุกในแดนหน้า 

   ส่วน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือของ เปแอสเช นัดนี้คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ไม่ได้ลงตัวจริงเพราะมีอาการเจ็บให้ เมาโร อิการ์ดี้ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี อังเคล ดิ มาเรีย และเนย์มาร์ คอยสนับสนุนเกมส์ในแดนกลาง

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก แปเอสเช ทีมเยือน เปิดฉากทำเกมส์บุกเข้าใส่เจ้าบ้านแบบไม่เกรงศักดิ์ศรี แถมในนาทีที่ 7 ก็เกือบจะได้จุดโทษ เมื่อกองหลังของแมนซิตี้ฯ ทำแฮนด์บอล แต่กรรมการเช็ควีเออาร์แล้วกลับคำตัดสิน เจ้าบ้านเมื่อตั้งตัวได้ ก็ทำเกมส์บุกสวนกลับ ได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 11 จากจังหวะที่นายทวารของแมนซิตี้ฯ เปิดบอลยาวขึ้นไปในแดนทีมเยือน ซินเชนโก้ วิ่งเข้าไปครองบอลก่อนที่จะตวัดส่งกลับมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดเต็มข้อ บอลไปติดบล็อค กระดอนไปเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ วิ่งเข้ามายิงซ้ำ ส่งลูกเข้าไปนอนที่ก้นตาข่าย แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำห่างด้วยประตูรวม 3-1 ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำเกมส์สู้กันสนุก สมศักดิ์ศรี โต้กันไปมา มีโอกาสเข้าไปสร้างความหวาดเสียวด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมส์ในครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ ปารีส แซงต์ แฌร์แมง 1-0 (ประตูรวมสองนัด แมนซิตี้ฯ นำ 3-1)

ภาพจาก Sky Sport

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าบ้านคุมเกมส์ได้มากกว่า การประสานงานกันระหว่าง เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น สร้างปัญหาให้เกมส์รับทีมเยือนอยู่ตลอด จนนาทีที่ 63 ทีมเรือใบสีฟ้าก็ขึ้นนำห่างเป็น 2-0 เมื่อฟิล โฟเด้น เลี้ยงพาบอลเข้าไปในแดนทีมเยือนก่อนที่จะส่งมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ จับบอลไว้จังหวะนึง ก่อนที่จะส่งบอลเลียดผ่านหน้าปากประตูทีมเยือนพุ่งมาที่เสาไกล ริยาด มาห์เรซ วึ่งรอจังหวะอยู่ วิ่งมาแปบอลเข้าไปตุงตาข่าย แมนซิตี้ฯ ออกนำห่างด้วยสกอร์รวม 4-1 สถานการณ์ของทีมเยือนยิ่งแย่เข้าไปอีกเมื่ออังเคล ดิ มาเรีย ทำฟาวล์ใส่แฟร์นันดินโญ่ นอกเกมส์ ทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป ทำให้เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในสนาม เวลาที่เหลือ เจ้าบ้านยังทำเกมส์บุกได้อย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้เมื่อจบเกมส์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ปารีส แซงต์ แฌร์แมง ไปได้ 2-0 รวมสองนัดเอาชนะไปได้ 4-1 ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยจะเข้าไปรอพบกับผู้ชนะระหว่าง เชลซี หรือ เรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 29 พ.ค.นี้ ที่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี

ภาพจาก https://twitter.com/Mahrez22/status/1389690481458700294?s=20

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     แมน ซิตี้ฯ (4-3-3) ผู้จัดการทีม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอ๊าส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา (ราฮีม สเตอร์ลิง น.82), แฟร์นันดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ (กาเบรียล เชซุส น.82), ฟิล โฟเด้น (เซร์คิโอ อเกวโร่ น.85)

     เปแอสเช (4-2-3-1) ผู้จัดการทีม เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ : เกย์ลอร์ นาวาส – อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ (โกแล็ง ดักบา น.75), มาร์กินญอส, เปรสแนล คิมเปมเบ้, อับดู ดิยัลโล่ (มิเชล บักเกอร์ น.83) – อันเดร์ เอร์เรร่า, เลอันโดร ปาเรเดส (ดานิโล่ น.75) – อังเคล ดิ มาเรีย (ใบแดง น.69), มาร์โก แวร์รัตติ, เนย์มาร์  – เมาโร อิการ์ดี้

     ผู้ตัดสินในสนาม : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)

ภาพจาก https://twitter.com/ManCity/status/1389717813439438849?s=20

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: