“สิงห์บลู”ฟอร์มห่วย เกือบเน่าคาบ้าน หลังโดนไบรท์ตันบุกมาสอนเชิงถึงถิ่น

“สิงห์บลู” เชลซี เปิดบ้านต้อนรับทีมนกนางนวล แต่ฟอร์มแย่ โดนทีมเยือนบุกกดดันแทบเอาตัวไม่รอด ได้ เสาประตู ช่วยชีวิต หวิดพ่ายคาบ้าน ทีมเยือนเล่นได้ดุดัน กองหลังถึงกับโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอังคารที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา เชลซี ทีมอันดับที่ 5 ของตาราง ซึ่งก่อนหน้าเกมส์นี้จะเริ่มต้น ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านเข้าไปเล่นรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ แถมได้เข้าไปชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับเลสเตอร์ ในช่วงกลางเดือนหน้า ส่วนเกมส์ลีกก็บุกไปเอาชนะ พาเลซมา 4-1 เกมส์นี้เปิดบ้านสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของทีม “นกนางนวล” ไบรท์ตัน แอนด์ ฮอฟ อัลเบี้ยน ทีมอันดับ 16 ของตาราง ซึ่งผลงานในลีกไม่ดีนัก ล่าสุดก็ยังไม่ชนะทีมใดเลยมาสองเกมส์แล้ว โดยนัดที่แล้ว ก็เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 0-0

โดยก่อนหน้าที่เกมส์นี้จะเริ่มเตะ มีรายงานข่าวว่ามีความวุ่นวายเกิดขึ้นที่หน้าสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์  เหตุเกิดจากการประท้วงของแฟนบอลทีมสิงห์บลู เนื่องจากไม่พอใจที่ทีมจะออกไปเล่นในลีกใหม่ที่ตั้งขึ้น ทำให้ต้องเลื่อเวลาเตะออกไปอีกราวๆ 15 นาที

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก เจ้าบ้านเปิดเกมส์บุกอย่างฮึกเหิมกดดันทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง แต่โอกาสเข้าไปยิงเพื่อทำประตูได้น้อย เล่นกันไปถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมส์ในครึ่งแรก โอกาสเป็นของทีมเยือนมากกว่า ทำเกมส์เข้าไปกดดันเจ้าบ้านที่ต้องตั้งรับกันอุดตลุด แถมมีจังหวะให้เสียวอีกหลายครั้ง แต่จบครึ่งแรกก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น เชลซี เสมอกับ ไบรท์ตัน 0-0

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นแทบไม่มีโอกาสทำเกมส์บุกไปสร้างความกดดันทีมเยือนได้เลย เป็นทีมนกนางนวลที่เล่นได้ดีกว่า สร้างโอกาสบุกเข้าไปทำประตูหลายหน เจ้าบ้านได้แต่ตั้งเกมส์รับแทบไม่มีโอกาสทำเกมส์บุก ทีมเยือนต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ เบน ไวท์ โดนใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ในนาทีที่ 90+2 แต่เวลาที่เหลือถึงเจ้าบ้านจะมีผู้เล่นมากกว่า ก็ไม่ได้สร้างความกดดันให้ทีมเยือน หมดเวลาจึงแบ่งกันไปคนละแต้ม เชลซี เสมอกับ ไบรท์ตัน แบบไร้สกอร์ 0-0 เชลซี มีคะแนนเพิ่มเป็น 55 คะแนนเท่ากับ เวสต์แฮม แต่ลูกได้เสียดีกว่าทำให้แซงขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของตาราง ส่วนไบรท์ตันยังคงรั้งอยู่ที่อันดับ 16 มี 34 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     เชลซี (3-4-3) ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิ่ล : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, คัวร์ท ซูม่า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ – รีซ เจมส์, เมสัน เมาน์ท, จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่ (คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย น.67) – ฮาคิม ซิเย็ค (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.77), ไค ฮาแวร์ตซ์ (ติโม แวร์เนอร์ น.67), คริสเตียน พูลิซิช  

     ไบรท์ตัน (3-5-2) ผู้จัดการทีม : เกรแฮม พ็อตเตอร์ : โรเบิร์ต ซานเชซ – เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บสเตอร์ – โยเอล เฟลท์มัน, ปาสกาล โกรสส์, อีฟส์ บิสซูม่า, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (นีล โมเปย์ น.74), แดน เบิร์น – เลอันโดร ตรอสซาร์ (อดัม ลัลลาน่า น.60), แดนนี่ เวลเบ็ค (ยาคุม โมเดอร์ น.86)   

 ผู้ตัดสินในสนาม : สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์