ขุนฆ้อนโชว์ฟอร์มแกร่ง แม้เหลือ 10 คน แต่เปิดบ้านทุบ ทีมสิงโตน้ำเงินคราม ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1

ส่วนเชลซี ยังคลำหาชัยชนะไม่เจอ แม้จะเซ็นนักเตะชั้นเยี่ยมเข้าสู่ทีมหลายราย ล่าสุด ไคเซโด้ เปิดตัวไม่แจ่ม ทำทีมเสียจุดโทษท้ายเกมส์ ส่วน”เอ็นโซ่” ยิง จุดโทษพลาด บุกไปพ่ายให้แก่ทีมขุนฆ้อนถึงถิ่น

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023/24 คู่ดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เป็นเกมส์ ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่าง ทีม”ขุนฆ้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดบ้านสนามลอนดอน สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีม สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี

ทีมเจ้าถิ่นจัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม รวมถึงเจมส์วอร์ด-เพร้าส์ ที่เพิ่งย้ายมาจากทีมนักบุญ ส่ง มิคาอิล อันโตนิโอ ลงยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า มีจาร็อด โบเว่น ลูคัส ปาเกต้า และซาอิด เบนราห์ม่า คอยสนับสนุนเกมส์รุกในแดนหน้า

ส่วนทางฝั่งทีมเยือน ส่ง นิโคลัส แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า มีคาร์นี่ย์ ชุควูเม็คก้า และราฮีม สเตอร์ลิ่ง คอยสนับสนุนเกมส์รุกในแดนหน้า ส่วนมอยเสส ไคเซโด้ กองหลังค่าตัวแพงมีชื่อเป็นตัวสำรอง ในเกมส์นี้

เริ่มเกมส์ในครึ่งแรก ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมส์บุกเข้าแลกกันตั้งแต่ต้นเกมส์ เล่นกันไปได้เพียง 7 นาที เจ้าถิ่น ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเปิดลูกเตะมุม จากทางฝั่งขวาของ เจมส์ วอร์ด-เพราส์

เปิดบอลลอยมาหน้าประตูทางเสาสอง นาเยฟ อาเกิร์ด เทคตัวขึ้นโหม่งกดบอลลงพื้นส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่าย เวสต์แฮมได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว

เมื่อโดนขึ้นนำทีมสิงโตน้ำเงินครามก็โหมเกมส์บุกเข้าใส่เจ้าถิ่นมากขึ้น นาทีที่ 28 เชลซี ไล่ตามตีเสมอมาเป็น 1-1 จากจังหวะทำเกมส์บุกขึ้นมาทางฝั่งซ้าย กองหลังเจ้าถิ่นสกัดบอลพลาด บอลมาเข้าทาง คาร์นี่ย์ ชุควูเมคก้า ล็อกบอลหลบกองหลังคู่แข่ง เพื่อหาช่องเหมาะๆ ก่อนจะสับไกยิงด้วยเท้าขวา ส่งบอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่ายทางเสาไกลแบบสุดสวย

ท้ายครึ่งแรกในนาทีที่ 43 ทีมเยือนมาได้ลูกจุดโทษเมื่อโธมัส ซูเซ็ค เสียเหลี่ยมทำฟาวล์ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ล้มลงในกรอบเขตโทษ เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ รับหน้าที่สังหารจุดโทษ แต่ เอ็นโซ่ ทำได้ไม่ดีพอ ยิงไปติดเซฟนายทวารเจ้าถิ่น เชลซี พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

เมื่อจบ 45 นาทีของครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ด้วยสกอร์ 1-1

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง เชลซีส่ง มิคไคโล มูดริค ลงมาเล่นแทน ชุควูเมคก้า ซึ่งได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวตั้งแต่ช่วงปลายครึ่งแรก ทีมเยือนลงสนามด้วยความคึกคัก เปิดฉากเดินหน้าทำเกมส์บุกเข้าใส่เจ้าถิ่นตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง

แต่เล่นกันไปได้เพียง 8 นาที เจ้าถิ่นมีโอกาสทำเกมส์บุกสวนกลับเร็ว เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์ เปิดบอลขึ้นหน้า มิคาอิล อันโตนิโอ พาบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะตั้งป้อม สับไกยิงสุดกำลัง ส่งบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสุดสวย เวสต์แฮม กลับมาขึ้นนำอีกครั้ง ด้วยสกอร์ 2-1 ในนาทีที่ 53

นาทีที่ 67 เจ้าถิ่น ต้องมาเหลือผู้เล่นในสนามเพียง 10 คน เมื่อ นาเยฟ อาเกิร์ด เข้าเสียบสกัดแล้วเปิดปุ่มรองเท้าเข้าใส่ นิโคลัส แจ็คสัน ผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดง ถูกไล่ออกจากสนาม

ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกมส์ เชลซี เป็นฝ่ายครองบอลพับสนาม ทำเกมส์บุกอยู่ฝ่ายเดียว หวังทวงประตูตีเสมอคืนให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่เฉียบคมพอ ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ ที่ต้องการ

ท้ายเกมส์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+5 เวสต์แฮม ซึ่งพยายามครองบอลเพื่อฆ่าเวลาให้จบเกมส์ ก็มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ มอยเสส ไคเซโด้ เสียเชิงไปทำฟาวล์ อีเมอร์สัน แนวรับเจ้าถิ่นล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ ลูคัส ปาเกต้า รับหน้าที่สังหารจุดโทษ ซึ่งก็ยิงได้อย่างยอดเยี่ยม หลอกผู้รักษาให้หลงทาง แล้วแปบอลเข้าไปตุงตาข่าย เวสต์แฮม ขึ้นนำห่างเป็น 3-1

หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี ไปได้ 3-1 เก็บ 3 แต้มแรกของฤดูกาลใหม่ไปครองได้สำเร็จ

เวสต์แฮม มีเพิ่มเป็น 4 คะแนน ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 6 ของตาราง ส่วน เชลซี ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น มีเพียง 1 แต้ม จากการลงสนาม 2 นัด รั้งอันดับ 15 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

ขอบคุณภาพประกอบจาก – https://twitter.com/WestHam – https://twitter.com/ChelseaFC