อิเฮียนาโช่ ตะบันประตูชัย ส่ง เลสเตอร์ เข้ารอบชิง เอฟเอคัพ เป็นครั้งแรกของสโมสร ในรอบ 52 ปี

ลูกยิงจ่อๆหน้าประตูเซ้าธ์แฮมป์ตันของเคลิชี่ อิเฮียนาโช่ ทำให้ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ สามารถเอาชนะทีม”นักบุญ” เซ้าธ์แฮมป์ตัน ไปได้ 1-0 ส่งเลสเตอร์เข้าไปเตะรอบชิงชนะเลิศกับ “สิงห์บลู” เชลซี ในวันที่ 15 พ.ค.นี้

ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ คู่ที่สอง เมื่อกลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ณสนามเวมบลี่ย์ เป็นการโคจรมาพบกันของ ทีม”จิ้งจอกสยาม”เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถเอาชนะแมนฯยูไนเต็ดมาได้ในรอบก่อนหน้านี้ และทีม”นักบุญ”เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เอาชนะ บอร์นมัธ มาได้ โดยผู้ชนะของคู่นี้ จะเข้าไปเตะในรอบชิงชนะเลิศกับเชลซี ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ โดยเกมส์ที่สนามเวมบลี่ย์ในวันนี้ มีแฟนบอลได้รับอนุญาตให้เข้ามาชมเกมส์ ได้เป็นครั้งแรก 4,000 คน เป็นการทดลองก่อนที่ อังกฤษ จะเปิดให้แฟนกีฬาได้เข้าชมเกมส์ในสนามอย่างเป็นทางการ ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ทีมจิ้งจอกสยาม เปิดฉากด้วยการทำเกมส์บุกเข้าใส่ทีมนักบุญแบบไม่ทันตั้งตัว แถมมีลุ้นขึ้นไปทำประตูอยู่หลายหน จนกองหลังและนายทวารของทีมนักบุญต้องป้องกันประตูแทบไม่ได้พัก

    โดยทั้งสองทีม ก็ยังเล่นกันแบบระมัดระวัง เลสเตอร์ แม้จะมีโอกาสทำเกมส์บุกและได้ลุ้นมากกว่า แต่จบครึ่งแรก ก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น เลสเตอร์กับเซ้าธ์แฮมป์ตัน เสมอกันไป 0-0

    เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง เล่นไปได้ 10 นาที”จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 บอลจากจังหวะที่ ริคาร์โด้ เปเรยร่า จ่ายบอลขนานเส้นขึ้นหน้าให้ เจมี่ วาร์ดี้ ใช้ความเร็วเลี้ยงพาบอลเข้าไปในแดนของเซ้าธ์แฮมตันป์ จากนั้นก็ปาดบอลเข้ามาในสนามผ่านเสาแรกมา เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ซึ่งยืนอยู่หน้าประตูก็ซัดจังหวะแรกไปติดกองหลัง บอลเด้งกลับจะมาเข้าทาง อิเฮียนาโช่ ก็ซ้ำด้วยซ้ายอีกครั้ง ส่งลูกบอลเข้าประตูไป

    เมื่อโดนขึ้นนำ ทีมนักบุญก็เร่งทำเกมส์บุก หวังทวงประตูคืน แต่เลสเตอร์ก็ป้องกันได้แน่นหนา แถมคอยสวนกลับอยู่เป็นระยะ พร้อมทั้งสร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าทีมนักบุญ แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่มเติม

    จบเกม เลสเตอร์ เบียดเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปหวุดหวิด 1-0 เข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปี ของประวัติศาสตร์สโมสร โดยจะพบกับ เชลซี ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ 

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เลสเตอร์ (3-4-1-2) ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส : คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ซากลาร์ โซยุนชู, จอนนี่ อีแวนส์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า – ริคาร์โด้ เปเรยร่า (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.60), ยูริ ตีเลมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ติโมธี คาสตาญ – อาโยเซ่ เปเรซ (เจมส์ แมดดิสัน น.69) – เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้

       เซาธ์แฮมป์ตัน (4-4-2) ผู้จัดการทีม : ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิ่ล : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ – ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (เนธาน เตลล่า น.85), ยาน เบดนาเร็ค, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไรอัน เบอร์ทรานด์ (โมฮาเหม็ด ซาลิซู น.85) – มูสซ่า เฌเนโป (ธีโอ วัลค็อตต์ น.73), เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์, อิบราฮิมา ดิยัลโล่, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง – แดนนี่ อิงส์, นาธาน เร้ดมอนด์ (เช อดัมส์ น.59)