Connect with us

Sports

“จิ้งจอกสยาม” ฟอร์มผืด พ่าย สาลิกาดง คาบ้าน 2-4 อับดับในท็อป 4 สะเทือน

Published

on

ทีม”จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ซิตี้ ต้องสะดุดอีกนัดหลังเปิดบ้านสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม พ่ายให้แก่ทีมเยือนท้ายตารางอย่าง สาลิกาดง ไปแบบหมดฟอร์ม 2-4 ทำให้อันดับ 3 ในตารางคะแนน ต้องสะเทือน

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อกลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันนัดที่ 35 เจ้าบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 ของตารางคะแนน เปิดบ้านสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 17 ของตาราง แบรนดอน ร็อดเจอร์ส กุนซือของเลสเตอร์ จัดทีมชุดที่ดีที่สุดลงเตะในนัดนี้ เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุด โดยใช้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ลงเล่นแทน ลุค โธมัส ที่บาดเจ็บ โดยมี เจมส์ แมดดิสัน คอยปั้นเกมส์ในแดนกลางสนับสนุน เจมี่ วาร์ดี้ และเคลิชี่ อิเฮียนาโช่ สองกองหน้าตัวเป้า ทางด้าน สตีฟ บรูซ กุนซือของ สาลิกาดง ยังต้องพาทีมเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด เพื่อรับประกันการอยู่รอดในลีกต่อไป โดยเกมส์นี้ยังจัดชุดใหญ่ลงทำศึกกับทัพจิ้งจอกสยาม โดยส่งคอลลัม วิลสัน, มิเกล อัลเมร่อน และอัลลอง แซงต์-แมกซิแม็ง เป็นสามประสานลงเล่นร่วมกันในแดนหน้า ล่าประตูคู่แข่ง

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก เจ้าบ้านครองบอลทำเกมส์บุกในช่วงแรก มีโอกาสยิงทักทายนายทวารมาร์ติน ดูบราฟก้า จากลูกยิงของเจมี่ วาร์ดี้ แต่ลูกยิงเบาเกินไป นายทวารมือหนึ่งรับเอาไว้ได้อยู่มือ
10 นาทีผ่านไป ทีมเยือนได้เตะลูกฟรีคิก แมตต์ ริทชี่ ยิงบอลไปติดกำแพงแล้วลูกออกหลังไป อีก 6 นาทีต่อมา ทีมเยือนได้โอกาสทองเมื่อจาคอบ เมอร์ฟี่ย์ จิ้มบอลให้ คอลลัม วิลสัน เลี้ยงบอลหนีแนวรับเจ้าบ้านแล้วปาดบอลเรียดมาหน้าประตู อัลลอง แซงต์-แมกซิแม็ง วิ่งสอดเข้ามายิงโล่งๆ แต่แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ออกมาขวางทางบอล ลูกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย เกมส์บุกเริ่มเป็นของทีมเยือน โจ วิลลอค ขโมยบอลมาจากเท้าของ คากลาร์ โซยุนคู แล้วเลี้ยงเข้าไปในกรอบเขตโทษของเจ้าบ้าน เมื่อสบช่องก็ยิงบอลแบบเฉือนๆด้วยข้างเท้าซ้ายด้านใน บอลลอยหนีมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทีมเยือนขึ้นนำ 0-1 ในนาทีที่ 21

ภาพจาก https://twitter.com/Joewillock/status/1390817350333644801?s=20

ในนาทีที่ 25 เจ้าบ้านมีโอกาสที่จะได้ลูกตีเสมอเมื่อยูริ เธเลมันส์ เปิดฟรีคิกไปกลางประตูทีมเยือน เวสลี่ย์ โฟฟาน่า กระโดดขึ้นโหม่งจังๆ แต่บอลมาเข้าทางมาร์ติน ดูบราฟก้า ป้องกันลูกโหม่งได้หวุดหวิด
ในนาทีที่ 34 ทีมเยือนได้ลูกเตะมุมทางด้านขวา แมตต์ ริทชี่ เปิดบอลโค้งเข้ามาหน้าประตูของเลสเตอร์ พอล ดัมเมตต์ แหวกผู้เล่นกองหลังเจ้าบ้านกระโดดขึ้นโหม่งเต็มหัว ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด นิวคาสเซิ่ลขึ้นนำ 0-2

ภาพจาก https://www.skysports.com

เจ้าบ้านเมื่อเสียไปสองประตูก็เร่งทำเกมส์บุกเข้าใส่ทีมเยือน นาทีที่ 36 มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดบอลขวางมาให้ เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ ยิงเต็มข้อ แต่มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวารทีมเยือนยังป้องกันลูกยิงเอาไว้ได้ ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เจ้าบ้านได้โอกาสทองอีกครั้งเมื่อ เจมส์ แมดดิสัน จ่ายบอลต่อให้ เจมี่ วาร์ดี้ จับบอลแล้วยกลูกบอลหลบกองหลัง หาจังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงประตู แต่มาร์ติน ดูบราฟก้า กระโดดมาเซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ตามหลัง นิวคาสเซิ่ล 0-2

ภาพจาก https://twitter.com/LCFC/status/1390755127183740928?s=20

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าบ้านเร่งทำเกมส์บุกเข้าใส่ มีโอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิกนอกกรอบของเจมส์ แมดดิสัน แต่บอลแฉลบกองหลังถากโคนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย โอกาสเป็นของทีมเยือนเมื่อ แมตต์ ริทชี่ ส่งบอลให้ คอลลัม วิลสัน เลี้ยงบอลหนีแนวรับทีมจิ้งจอก เข้าไปดวลกับแคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เลี้ยงบอลหลบนายทวารมือหนึ่ง เบี่ยงตัวหาจังหวะก่อนจะแปบอลเข้าประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำ 0-3 ในนาทีที่ 64

ภาพจาก https://twitter.com/LCFC/status/1390774413407174664?s=20

เล่นกันไปอีก 5 นาทีเจ้าบ้านมีโอกาสทำประตูตีไข่แตกจากลูกยิงของอาโยเซ่ เปเรซ แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือของ มาร์ติน ดูบราฟก้า เมื่อยิงประตูคู่แข่งไม่ได้

ก็ต้องมาเสียประตูที่ 4 เมื่อทีมเยือนได้โอกาสสวนกลับมิเกล อัลเมรอน จิ้มบอลส่งขึ้นหน้าคอลลัม วิลสัน วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าของเจ้าบ้านเข้าไปจับบอล แล้วเลี้ยงลูกเข้าไปยิงผ่านตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล บอลไปชนเสาไกลในจังหวะแรกก่อนที่บอลจะกระเด้งกลับมาเข้าทาง วิลสัน จึงยิงซ้ำเข้าประตูไป ทีมเยือนขึ้นนำห่าง 0-4

ภาพจาก https://twitter.com/NUFC/status/1390783781582385159?s=20

แต่เจ้าบ้านยังไม่ถอดใจ ทำเกมส์บุกเข้าใส่หวังทำประตูตีไข่แตกให้ได้ ในนาทีที่ 80 เมื่อเจมี่ วาร์ดี้ จับบอลได้หน้าประตูทีมเยือนก่อนที่จะไหลบอลย้อนไปทางขวา อิเฮียนาโช่ หลอกปล่อยบอลไหลไปเข้าทาง มาร์ค อัลไบรท์ตัน วิ่งมาซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเข้ากรอบประตูไปอย่างสุดสวย เลสเตอร์ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-4

ก่อนหมดเวลา 3 นาที เลสเตอร์ก็มาได้ประตูที่ 2 จากลูกยิงของเคลิชี่ อิเฮียนาโช่ ที่ซัดบอลพุ่งเรียดฟื้นแหวกแนวรับของทีมสาลิกาดง บอลเบียดเข้าเสาแรกไปอย่างสวยงาม

ภาพจาก https://twitter.com/LCFC/status/1390775697250000897?s=20

แต่เวลาที่เหลือไม่พอสำหรับเจ้าบ้านที่จะยิงประตูไล่ได้ทัน จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้คาบ้านให้แก่ นิวคาสเซิ่ล 2-4 แม้จะรั้งอันดับ 3  แต่ก็สะดุดมาสองนัดติด ทำให้เชลซี อันดับ 4 ไล่จี้มาติดๆเหลือแค่ 2 คะแนน ส่วนทีม “สาลิกาดง” ก็เพิ่มโอกาสอยู่รอดในลีก เก็บได้สามแต้มมีเพิ่มเป็น 39 คะแนน ขึ้นมารั้งอันดับ 13 ขออีกเพียงแต้มเดียวจาก 3 นัดที่เหลือ ก็จะอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกได้อย่างแน่นอน

ภาพจาก https://twitter.com/LCFC/status/1390771347157094405?s=20

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) ผู้จัดการทีม : เบรนดอน ร็อดเจอร์ส : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, คากลาร์ โซยุนคู – มาร์ค อัลไบรท์ตัน, วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (อาโยเซ่ เปเรซ น.63), ยูริ เธเลมันส์, ริคาร์โด้ เปเรยร่า (ลุค โธมัส น.69) – เจมส์ แมดดิสัน (นอมปาลิส เมนดี้ น.77) – เคลิชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้
 
        นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (5-3-2) ผู้จัดการทีม : สตีฟ บรูซ : มาร์ติน ดูบราฟก้า – ยาคอบ เมอร์ฟี่, เอมิล คราฟธ์, เฟเดริกโก เฟอร์นานเดซ, พอล ดัมเมตต์, แมตต์ ริทชี่ – โจ วิลลอค (ฌอน ลองสตาฟฟ์ น.77), จอนโจ้ เชลวี่, อัลลอง แซงต์-แมกซิแม็ง (โชลินตอน น.84) – คอลลัม วิลสัน, มิเกล อัลเมร่อน (เจฟฟ์ เฮนดริก น.88)

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: